การปลูกมะเขือ

มะเขือเป็นพืชผักเมืองร้อนที่ใช้ส่วนผลบริโภคเป็นอาหารตามประวัติกล่าวไว้ว่ามะเขือเป็นพืชพื้นเมืองของอินเดีย ซึ่งต่อมาได้แพร่หลายเข้าไปในทวีปยุโรป และอเมริกาด้วย มะเขือต่าง ๆ ที่เรารู้จักและนิยมบริโภคกันแพร่หลายมีอยู่มากชนิดด้วยกันเช่น มะเขือยาว มะเขือเปราะ มะเขือม่วง มะเขือเสวย เป็นต้น

มะเขือต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้นนี้สามารถแยกออกได้เป็น 2 พวกใหญ่ ๆ คือ

1.พวกที่มีผลกลมยาว ได้แก่ มะเขือยาวขาว มะเขือยาวสำลี มะเขือยาวสีม่วง

2.พวกที่มีผลกลมหรือค่อนข้างกลม ได้แก่มะเขือกลมม่วง มะเขือเปราะ มะเขือเสวย มะเขือเหลือง มะเขือยักษ์สีม่วง

พันธุ

มะเขือที่ปลูกทั่วไปในบ้านเราส่วนมากแล้วจะเป็นมะเขือพันธุ์พื้นเมืองที่ปลูกต่อ ๆ กันมาโดยเก็บเมล็ดพันธุ์เอง และต่อมาก็เกิดการกลายพันธุ์ชื่อของมะเขือก็มักจะตั้งตามลักษณะของพันธุ์หรือท้องถิ่นนั้น ๆ เช่น มะเขือเปราะเจ้าพระยา มะเขือยาวสำลี มะเขือเสวย มะเขือยาวงาช้าง เป็นต้น ส่วนมะเขือพันธุ์ต่างประเทศนั้น มักจะเป็นพันธุ์ที่มีสีม่วงซึ่งมีทั้งผลกลมและผลยาว

มะเขือสามารถปลูกได้ในดินแทบทุกชนิดที่มีความชื้นสูงพอสมควร ไม่แฉะเกินไปหรือแห้งเกินไป มีพีเอชประมาณ 5.5-6.8 และต้องการแสงแดดเต็มที่

มะเขือเป็นพืชที่มีระบบรากปานกลาง เพราะฉะนั้นจึงควรเตรียมดินทั้งในแปลงเพาะกล้าและแปลงปลูกให้เหมาะสมกับระบบราก

การเพาะกล้า

ในแปลงเพาะกล้า ควรขุดไถดินให้ลึกประมาณ 15 เซนติเมตร ตากดินทิ้งไว้สัก 7-10 วัน แล้วใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักที่สลายตัวดีแล้วลงไปคลุกเคล้าในดิน เพื่อช่วยให้ดินร่วนฟูดีขึ้น แล้วพรวนย่อยดินให้ละเอียด เมื่อเตรียมดินเสร็จแล้วก็หว่าน เมล็ดพันธุ์มะเขือให้กระจายไปทั่ว ๆ แปลง หว่านปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักที่สลายตัวดี แล้วกลบทับลงไปให้หนาประมาณ 0.6-1.2 เซนติเมตร

ถ้าจะเพาะเมล็ดโดยวิธีโรยเป็นแถวก็ใช้ระยะห่างระหว่างแถว 15 เซนติเมตร โดยทำเป็นร่องแล้วก็ใช้ปุ๋ยคอกปุ๋ยหมักหรือดินผสมละเอียดกลบทับ รดน้ำให้ชุ่มแล้วคลุมด้วยฟางหรือหญ้าแห้งบาง ๆ เมื่อต้นกล้างอก มีใบจริงก็ทำการถอนแยกต้นที่อ่อนแอหรือขึ้นเบียดกันแน่นเกินไปออกให้มีระยะห่างประมาณ 10 เซนติเมตร

การปลูก

การเตรียมการปลูกควรขุดไถดินให้ลึกประมาณ 20-25 เซนติเมตร ตากดินทิ้งไว้ 7-10 วัน แล้วใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักที่สลายตัวดีแล้วคลุกเคล้าลงในดิน พรวนย่อยดินให้ละเอียด

เมื่อต้นกล้ามีอายุประมาณ 30 วัน ก็ทำการย้ายกล้าโดยพยายามให้มีดินติดรากมากที่สุดและควรทำการย้ายในเวลาบ่ายถึงเย็น หลังจากย้ายกล้าแล้ว ควรรดน้ำให้ชุ่มทันที และถ้าจะให้ดีควรทำที่พรางแสงให้ต้นกล้า ช่วง 2-3 วันแรก หลังย้ายกล้า เพื่อช่วยให้กล้าตั้งตัวได้เร็วขึ้น

ระยะปลูกที่เหมาะสมสำหรับมะเขือพันธุ์พุ่มเตี้ยคือ ระยะห่างระหว่างต้น 50 เซนติเมตร และระยะห่างระหว่างแถว 80-100 เซนติเมตร

การให้น้ำ

ในช่วงแรกของการเจริญเติบโตควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอและเพียงพอ แต่ไม่ควรให้มากเกินไปจนเปียกแฉะ

การใส่ปุ๋ย

ปุ๋ยที่ควรใส่ให้มะเขือควรจะเป็นปุ๋ยที่มีสัดส่วนของไนโตรเจน:ฟอสฟอรัส: โปตัสเซียม เป็น 1:1..5-2 เช่น ปุ๋ยสูตร 13-13-21 โดยใส่ในอัตรา 50-100 กก./ไร่ แบ่งใส่ 2 ครั้ง ครั้งแรกใส่เป็นปุ๋ยรองพื้นพรวนกลบลงในดินตอนปลูกและอีกครั้งหนึ่ง ใส่เมื่อต้นมีอายุ 25-30 วันหลังย้ายกล้า ใส่แบบโรยข้างแล้วพรวนกลบลงในดิน นอกจากนั้นควรใส่ปุ๋ยไนโตรเจน เช่นปุ๋ยยูเรีย 15-20 กก./ไร่ โดยแบ่ง ใส่ 2 ครั้ง เมื่อต้นอายุประมาณ 7 วันและ 15 วันหลังย้ายกล้า การใส่ควรใส่แบบโรยข้างปุ๋ยไนโตรเจนนี้ใส่เพื่อช่วยเร่งการเจริญเติบโตของต้นกล้า ในระยะแรก

การปลูกมะเขือโดยทั่ว ๆ ไป ควรพรวนดินและกำจัดวัชพืชบ่อย ๆ ในระยะที่ต้นมะเขือยังเล็กอยู่เพื่อช่วยให้ดินถ่ายเทอากาศและน้ำได้ดี และต้นแข็งแรง

การเก็บเกี่ยว

มะเขือทั่วไปจะสามารถเก็บเกี่ยวได้เมื่อมีอายุประมาณ 60-85 วัน ควร เลือกเก็บในขณะที่ผลยังไม่แก่เพราะเมื่อผลเริ่มแก่คุณภาพจะลดลงเนื้อไม่อร่อย และไม่ควรปล่อยให้ผลแก่คาต้นเพราะจะทำให้ผลผลิตลดลง

โรคและแมลงศัตรู

โรคที่สำคัญของมะเขือ ได้แก่ โรคใบด่าง โรคเหี่ยว โรคแอนแทรคโนส โรคผลเน่า ส่วนแมลงที่สำคัญ ได้แก่ เพลี้ยไฟ หนอนเจาะผล และแมลงวันทอง