สาวน้อยประแป้ง

Common name : Dieffenbachia (Dunb cane)

Scientific name : Dieffenbachia spp.

Family : Araceae

สาวน้อยประแป้ง หรือดิฟเฟนมาเกีย (Fief- fenbachia) เป็นไม้ใบที่นิยมปลูกกันเป็นไม้กระถางกันมากทั่วไปในเขตร้อน ใช้ประดับภายในอาคารและนอกอาคาร ส่วนมากชอบขึ้นอยู่ในที่ร่ม เป็นไม้ในร่ม (Indoor plants) มีถิ่น กำเนิดจากประเทศในเขตร้อนทั่ว ๆ ไปในอเมริกาใต้และอินเดียตะวันตก เป็นชื่อที่ได้รับเกียรติมาจาก J.F. Dieffenbuch นักพฤกษศาสตร์ชาวเยอรมัน Dieffenbachia อยู่ในวงศ์ Arum หรือ Family Araceae ลักษณะของต้นเป็นไม้กออวบน้ำ ไม่มีเนื้อไม้ ลำต้นกลมและสูงประมาณ 5 ฟุต ใบใหญ่เป็นใบเดี่ยว (Simple leaf) ฯจุดประหรือมีสีสันสลับเป็นลายขาวครีม บนพื้นใบสีเขียว มีกาบใบห่อหุ้มลำต้นอยู่ เนื่องจากมีจุดขาว ๆ ประเต็มใบที่มีพื้นสีเขียว ไทยจึง เรียกว่า “สาวน้อยประแป้ง” จนเรียกว่า “บ้วนนี่แช” (เขียวหมื่นปี) ในประเทศไทยมีหลายสิบชนิดมีชื่อเป็นภาษาไทย ตั้งชื่อตามรูปร่างลักษณะของแต่ละต้น

พันธุ์

พันธุ์ Dieffenbachia มีมากมายหลายชนิด ทั้งที่เป็นพันธุ์พื้นเมืองและพันธุ์ลูกผสมต่าง ๆ พันธุ์ที่นิยมกันทั่วไปในสหรัฐอเมริกาและที่อื่น ๆ ก็คือ

Dieffenbachia amoena ใบใหญ่กว้างสี เขียวแก่ มีลายสีขาวเป็นทาง ๆ บนใบ

D. bansei เป็นพันธุ์ลูกผสม ใบสีเขียวอ่อนจนเหลืองซีด ๆ มีขอบใบสีเขียวและจุด ขาว ๆ บนใบ

D. chelsonii ใบสีเขียวแก่เป็นมัน มีลายสีเทา

D. fournieri สีเขียวเกือบดำ จุดขาว

D. fosteri ใบสีเขียว ลักษณะต้นเตื้ย

*D. hoffmannii ใบสีเขียวกำมะหยี่ มีจุดด่างสีขาว ขอบใบสีขาว

*D. imperialis ใบสีเขียวเป็นมัน มีจุดขาวอมเหลืองประทั่วไป

D. leonii ใบสีเหลืองกำมะหยี่ สีเขียวอยู่ตามรอบนอกถึงขอบใบ

*D. memoria – Corsii สีเทาและสีเขียว ตามเส้นใบมีจุดขาว

D. parlatorei สีเขียวแก่

*D. picta ใบสีเขียวมีจุดขาวทั่วทั้งใบ เป็นพันธุ์ที่ปลูกกันมากในเมืองไทย แตกหน่อง่าย จึงขยายพันธุ์ได้ดีรวดเร็ว บางทีเรียกว่าเขียวหมื่นปี ชาวจีนนำต้นมาปักในแจกันแช่น้ำในบ้าน ก็อยู่ได้ตลอดปี จึงเรียกว่า “บ้วนนี่แช” หรือเขียวหมื่นปี

*D. pictabarraquin พื้นใบเขียว เส้นกลางใบสีขาว มีจุดสีขาวประทั่วไป

*D. picta jenmannii พื้นใบสีเขียว มีสีขาวตามเส้นใบคล้ายรูปก้างปลา

*D. picta‘Rudolph Rochrs’ ใบสีเหลือง ครีม มีทางเขียวแคบ ๆ ก้านกลางและขอบใบสีเขียวสด พันธุ์นี้เป็นไม้ที่นิยมกันมากในเมืองไทย เพราะมีลักษณะงามสดุดตากว่าพันธุ์อื่น ๆ ใบอ่อน และมีสีขาวมากสดุดตา เป็นไม้ที่เลี้ยงง่าย เจริญเติบโตได้ดีในที่ร่ม ขยายพันธุ์ง่าย

D. picta superba พื้นใบสีเขียวอ่อน จุดด่างสีขาวนวลมากเกือบทั้งใบ ส่วนเส้นกลางใบสีเขียว

D. seguine liturata (D. leopoldii) สีเขียวกำมะหยี่ มีจุดขาวตามกลางใบและมีสีขาวตาม ขอบใบ

D. splendens เป็นต้นลูกผสม ใบสีเขียว กำมะหยี่ มีจุดสีขาวงาช้างกลางใบและมีสีขาวงาช้างตามขอบใบ

D. seguine nobilis ใบใหญ่พื้นใบสีเขียว มีลายสีขาวอมเหลืองพาดสลับคล้ายลายเสือ ไทย จึงตั้งชื่อว่า “เสือโคร่ง”

* พันธุ์ที่ปลูกกันมากในเมืองไทยปัจจุบันนี้

การขยายพันธุ์

วิธีที่ง่ายและนิยมกันมากคอการปักชำต้น โดยตัดลำต้นที่แก่ ๆ ออกเป็นท่อน ๆ ยาวประ มาณท่อนละ 2 นิ้ว ให้มีตาติดมาด้วยทุกท่อน วางลงตามความยาวของท่อนบนกระบะทราย หรือจะปักตามแนวดิ่งก็ได้ รดน้ำให้ชื้น แต่ไม่ แฉะ เพราะจะทำให้เน่าง่ายที่สุด หากน้ำมากเกินไป ในไม่ช้าตาที่ติดอยู่กับท่อนพันธุ์ก็จะแตกออกพร้อมด้วยราก ถ้าหากการปักท่อนพันธุ์ตามแนวดิ่งจะทำให้เน่ามาก ก็ใช้วิธีนอน ตามแนวราบ โดยให้ท่อนพันธุ์จมลงในกระบะทรายประมาณครึ่งหนึ่งของความหนาของท่อนพันธุ์ เมื่อท่อนพันธุ์แตกใบประมาณ 2 ใบแล้ว จึงแยกลงปลูกในดินต่อไป ส่วนการขยายพันธุ์ อีกวิธีหนึ่งที่ทำให้ได้ต้นที่งามและโตเร็วก็คือ การตอนยอดโดยวิธีตอนธรรมดา เมื่อรากออกก็ตัดยอดมาปลูกในกระถางได้เลย

ต้นที่มีอายุมาก ใบตอนล่าง ๆ จะร่วงหมด ไม่ติดอยู่กับต้น ทำให้ดูต้นสูงชลูด ไม่สวยงาม ก็ควรดัดยอดมาขยายพันธุ์เสียให้แตกตาใหม่ที่ตอเดิม หรือแตกหน่อใหม่ที่ตอเดิม นอกจากนี้ อาจขยายพันธุ์โดยการแบ่งแยกกอตัดหน่อมาก็ได้

ดินปลูก

พวกสาวน้อยประแป้ง (Dieffenbachia) ไม่ชอบแดดจัด ต้องการดินที่มีอินทรีย์วัตถุมาก ๆ โดยเฉพาะดินที่ปลูกในกระถาง จึงควรมีพวกปุ๋ยหมัก และปุ๋ยคอกมาก ๆ พร้อมด้วยการระบายน้ำต้องดีพอด้วย เพราะเป็นไม้อวบน้ำที่ไม่มีเนื้อไม้ จึงทำให้ต้นเน่าง่าย ดังนั้น ดินที่ปลูกจึงควรมีทรายหรือวัตถุที่ช่วยระบายน้ำได้ด้วย ดินผสมที่นับว่าดีแก่การปลูกไม้กระถางพวกนี้ก็คือ ปุ๋ยหมัก ดินร่วน ปุ๋ยคอก ที่ผุดีแล้วและทราย หยาบผสมอย่างละเท่า ๆ กัน

ส่วนการดูแลรักษาอื่น ๆ ก็ไม่มีอะไร นอกจากอย่าให้ถูกแสงแดดโดยตรงตลอดวันให้มีความชื้นสูง ถ้าหากต้นแก่สูงมากขึ้น ควรหาหลักปักยึดลำต้นไว้กันล้ม ถ้าสังเกตเห็นหน่อที่แตกใหม่ไม่งาม เล็กหรือสมบูรณ์น้อยกว่าหน่อ หรือต้นเดิมแล้ว ควรถ่ายกระถางหรือตัดมาขยายพันธุ์เสียบ้าง ส่วนโรคและแมลงก็มีโรค เน่าโคนต้นเพราะน้ำมากและร่มทึบชื้นมากเกินไป กระถางไม่ระบายน้ำ น้ำขังอยู่ในกระถาง มีแมลงทำลาย หนอนม้วนใบ ตั๊กแตน และเพลี้ยบ้าง เช่นเดียวกับแมลงที่รบกวนพันธุ์ ไม้ทั่ว ๆ ไป

ประโยชน์

1. ปลูกเป็นไม้ประดับจัดสวนใน ร่มหรือใต้ร่มไม้

2. ปลูกเป็นไม้กระถางประดับภายในอาคาร

3. ใช้ใบจัดสวนหลังหีบศพ พวงหรีด จัด โต๊ะอาหารบุพเฟ่