กรวย (Kruai)

ชื่อวิทยาศาสตร์ Horsfieldia irya (Gaertn.) Warb.
ชื่อวงศ์ MYRISTICACEAE
ชื่ออื่น กรวยน้ำ กรวยสวน กะเพราพระ จุมพร้า ตุมพระ
ถิ่นกำเนิด กาคใต้ของประเทศไทย
ลักษณะทั่วไป ไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูง 10-25 ม. ขนาดทรงพุ่ม 6-8 ม.ไม่ผลัดใบทรงพุ่มรูปกรวย แผ่กว้างค่อนข้างแน่น ปลายกิ่งห้อยย้อย ลำต้นเปลาตรง โคนต้นมีรากคํ้ายันและเป็นพูพอนขนาดเล็ก เปลือกต้นสีเทาอมนํ้าตาล เรียบ หรือแตกเป็นร่องตื้น
ใบ ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปขอบขนานหรือรูปรีแกมรูปขอบขนาน กว้าง 5-8 ซม. ยาว 15-25 ซม. ปลายใบแหลมเป็นติ่งโค้ง โคนใบรูปลิ่ม ขอบใบเรียบ เป็นคลื่นเล็กน้อย แผ่นใบหนาและเหนียว สีเขียวเข้ม เรียบเป็นมัน ก้านใบยาว 0.6-1 ซม.


ดอก สีเหลือง มีกลิ่นหอม ออกเป็นช่อแบบช่อแยกแขนงที่กิ่งเกลี้ยง และซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ช่อดอกตั้งยาว 10-15 ซม. ดอกมีขนาดเล็กมาก ลักษณะเป็นกลีบรวม โคนเชื่อมติดกันปลายแยกเป็น 2-3 แฉก ดอกแยกเพศร่วมต้น เกสรเพศผู้10 อัน ช่อดอกเพศผู้แตกแขนงแผ่กว้างกว่า ดอกมีขนาดเล็กและมีจำนวนมากกว่าดอกเพศเมีย ออกดอกเดือน ธ.ค.-มี.ค.
ผล ผลสดแบบมีเนื้อเมล็ดเดียว ทรงกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 2-2.5 ซม. สีเขียวสดมีรอยสาแหรกตามแนวยาว เมื่อสุกสีแดงอมส้ม เปลือกบางแตกออกตามรอยประสาน เมล็ดแข็งมีเนื้อบางสีแดงอมส้ม ห่อหุ้ม เมล็ดทรงกลมสีนํ้าตาลเข้มขนาดใหญ่ ติดผลเดือน ก.พ.-ก.ค.
นิเวศวิทยา พบตามที่ราบริมน้ำภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงใต้ และภาคใต้ ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด
การใช้ประโยชน์ ใช้ในการจัดตกแต่งภูมิทัศน์ เนื้อไม้ใช้ก่อสร้าง ภายในผลเป็นอาหารสัตว์ป่า
การใช้ประโยชน์ด้านสมุนไพร น้ำจากยางเปลือก ต้มกลั้วแก้เจ็บคอ
ที่มา:วัลลิ์รุกขบุปผชาติ ตามรอยพระบาทบรมราชกุมารี โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชฯ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย