การปลูกแนสเตอร์ชัม

แนสเตอร์ชัม

ชื่อวิทยาศาสตร์ Tropaeolum majus (Trop-IEE-ol-um MAJ-us)

ชื่อสามัญ Nasturtium, Indian Cress

วงศ์ Tropaeolaceae

ถิ่นเดิม เม็กซิโกตอนใต้จนถึงชิลี บริเวณเทือกเขาแอนดีส

ความสูง ชนิดพุ่ม 12 – 14 นิ้ว

ชนิดเลื้อย 6 ฟุต

จำนวนเมล็ดในหนึ่งกรัม 7-8

สี แดง ส้ม เหลือง ครีม แดงอมน้ำตาล ชมพู ขาว

เวลาจากเพาะเมล็ดจนให้ดอก 8-10 อาทิตย์

Nasturtium แปลว่า กลิ่นเตะจมูก (nose twister) เนื่องจากดอกมีกลิ่นหอมแรง ดอกและใบใช้รับประทานได้ ใบอ่อนใช้ใส่ในสลัด ใบมีรูปร่างคล้ายใบบัวเล็กๆ ขอบใบมีคลื่นเล็กน้อย ใบมีรสเผ็ด จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า Indian Cress

Tropaeolum majus

แนสเตอร์ชัมพันธุ์ป่าเป็นไม้เถาสูง 8 ฟุต ขึ้นอยู่ในป่าเขตร้อนของอเมริกา ซึ่งมีอากาศแล้ง และดินเลว ดอกมีกลีบชั้นเดียว ต่อมาในปี 1933 บริษัท Bodger ได้ปรับปรุงพันธุ์ให้ได้ต้นเตี้ย ไม่เลื้อย มีดอกสีส้มชื่อพันธุ์ Golden Gleam มีกลิ่นหอมและได้รับรางวัลเหรียญทอง

เมล็ดของแนสเตอร์ชัมมีขนาดใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยหรือพอๆ กับเมล็ดถั่วลันเตา นิยมใช้เป็นเมล็ดดอกไม้ให้เด็กนักเรียนเล็ก ๆ หัดปลูกโดยเพาะลงในดินที่ปลูกได้เลย ผิวของเมล็ดบางพันธุ์มีลักษณะตึงเรียบ แต่ของบางพันธุ์มีลักษณะเหี่ยวย่น ผู้ปลูกควรทราบไว้ด้วยมิฉะนั้นอาจจะทิ้งเมล็ดที่เหี่ยวย่นไปเสียเพราะเข้าใจผิดว่าเป็นเมล็ดไม่ดี แนสเตอร์ชัมชอบแดดจัด ชอบดินร่วนทรายที่ไม่ต้องสมบูรณ์นักแต่ต้องระบายน้ำดี ถ้าที่ปลูกเป็นดินสมบูรณ์ดีและมีร่มด้วยต้นจะงามใบและให้ดอกน้อย ดังนั้น ใครๆ ก็ปลูกแนสเตอร์ชัมได้และมีคำแนะนำด้วยว่า Be Nasty to Nasturtium เพราะถ้าให้นํ้า ให้ปุ๋ยมากไปต้นจะมีแต่ใบและไม่ออกดอก ผู้ที่มักถามหาไม้ดอกที่ “ปลูกง่าย ตายยาก ดอกสวยด้วย” ขอแนะนำให้เลือกแนสเตอร์ชัม ซึ่งสามารถเติบโตได้ดีในดินเลว ไม่ต้องดูแลมาก ลืมรดน้ำบ้างก็ไม่เป็นไรและให้นํ้าเมื่อต้นเริ่มแห้ง ถ้าเลี้ยงดูถูกต้องจะได้ดอกสีสดแซมใบที่ดูคล้ายใบบัวเล็กๆ

แนสเตอร์ชัมมีทั้งชนิดต้นเป็นพุ่มและชนิดเถาเลื้อย พวกเป็นเถาชอบนํ้ามากกว่าชนิดเป็นพุ่ม ถ้าซื้อเมล็ดคละสีจะได้ต้นที่ให้ดอกสีเหลืองและส้มเป็นส่วนมาก ถ้าต้องการหลาย ๆ สีต้องเจาะจงเลือกซื้อสีละซอง ดอกมีทั้งชั้นเดียวและดอกกึ่งซ้อน มี 5 กลีบ กลีบบนสุดมีเดือยยาว (spur) ล่อให้นกฮัมมิ่ง มาดูดกินน้ำหวาน กลีบดอกแบนกว้าง เส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 2 นิ้ว ดอกตูมใช้ดองกินได้ ในดอกมีน้ำมันมัสตาร์ดเป็นองค์ประกอบ

ชนิดต้นเลื้อยมีก้านใบซึ่งสามารถเกาะยึดได้ดี นิยมใช้ปลูกคลุมเนินที่ได้รับแสงแดดจัด เช่น พันธุ์ Climbing mix สูง 6 ฟุต สีเหลือง และแดง

ชนิดกึ่งเลื้อย ได้แก่ชุด Gleam มีสีแดง สีทอง สีส้ม สีทองได้ AAS ปี 1933 ดอกซ้อนสีแดงได้ AAS ปี 1935

ชนิดต้นเตี้ยกะทัดรัด เช่นพันธุ์ Whirlybird คละสีมีทั้งดอกซ้อนและกึ่งซ้อน ต้นเป็นพุ่มสูง 12 – 14 นิ้ว ดอกไม่มีเดือย มี 7 สีคือ แดง ชมพู ครีม ทอง แดงเข้ม ส้ม แสะ สีน้ำตาลมะฮอกกะนี

Jewel ต้นเตี้ยเป็นพุ่ม สูง 12 นิ้ว ดอกกึ่งซ้อนสีต่างๆ ชูดอกเหนือใบ ใช้ปลูกใส่กระถางหรือเป็นไม้ประดับขอบแปลงได้ดีมาก

พันธุ์ Alaska ใบเล็กกว่าพันธุ์อื่น มีด่างเหลืองบนพื้นใบสีเขียวทำให้ไม่ค่อยแข็งแรง ให้ดอกออกสีแดง มีให้เลือก 7 สี