ในการปลูกมะละกอนั้น ก็เช่นเดียวกับการปลูกต้นไม้ทั่วไป ในสวนการค้า อาจปลูกลงในแปลงที่เตรียมไว้ได้เลย ในกรณีที่มีเมล็ดจำนวนมาก โดยหยอดหลุมละ 5-8 เมล็ด เมื่อต้นกล้างอกได้ประมาณ 1 สัปดาห์ ตัดให้เหลือ 3 ต้น จนกระทั่งออกดอกจึงตัดให้เหลือเพียง 1 ต้นต่อหลุมและต้นที่เหลือไว้ ต้องเป็นต้นสมบูรณ์เพศ ในกรณีที่มีแต่ต้นตัวเมีย ก็ตัดให้เหลือไว้เพียงต้นเดียวเช่นกัน แต่ถ้าเมล็ดมีน้อย ก็ใช้วิธีเพาะในกระบะเพาะก่อน จากนั้นเมื่อต้นกล้ามีอายุประมาณ 2 สัปดาห์ ก็ย้ายลงถุงพลาสติกที่มีดินผสมกับทราย อาจผสมปุ๋ยคอกได้นิดหน่อย แต่ต้องระวังปุ๋ยคอกที่ใช้ไม่ได้ที่อาจทำให้ต้นกล้าเป็นโรคได้ จากนั้นอีกประมาณ 2-3 สัปดาห์ ก็ย้ายลงแปลงปลูกที่เตรียมหลุมไว้แล้ว โดยขุดหลุมขนาด 50 x 50 x 50 เซนติเมตร รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอก หลังย้ายปลูกแล้วประมาณ 4-6 เดือน มะละกอก็เริ่มออกดอก ซึ่งสามารถแยกเพศของดอกได้ โดยทั่วๆ ไป เราต้องการต้นสมบูรณ์เพศ เพราะให้ผลยาวเรียวและเนื้อหนา ตลาดต้องการมากกว่าผลกลมซึ่งเกิดจากดอกตัวเมีย บางครั้งจึงต้องปลูกหลุมละ 2-3 ต้น เมื่อมีดอกแล้วจึงตัดทิ้งเหลือไว้ต้นเดียว คือต้นสมบูรณ์เพศ หรือในการเก็บเมล็ดพันธุ์ เพื่อให้ได้ต้นสมบูรณ์เพศมาก ก็ต้องทำการผสมพันธุ์ในดอกสมบูรณ์เพศชนิดอีลองกาด้า โดยใช้ละอองเกสรจากดอกเดียวกัน หรือดอกชนิดเดียวกัน ซึ่งทำได้โดยเลือกดอกที่ต้องการก่อน แล้วใช้ถุงกระดาษไข หรือถุงผ้าขาวบางคลุมดอกไว้ เมื่อดอกพร้อมที่จะผสม คือดอกที่ตูมเต็มที่ ก็นำละอองเกสรมาผสมแล้วคลุมถุงไว้อีกประมาณ 7-10 วัน หรือสังเกตุดูว่าเริ่มติดผลแล้ว ก็เอาถุงออกได้ รอจนผลสุกก็นำเมล็ดไปปลูกได้ต่อไป ซึ่งเมล็ดที่ได้นี้ จะให้ต้นสมบูรณ์เพศ 2 ส่วน ต้นตัวเมีย 1 ส่วน ไม่มีต้นตัวผู้เลย หลังจากออกดอกแล้วประมาณ 5 เดือนก็สามารถเก็บผลได้ และจากนี้เราจะเก็บผลไปได้เรื่อย ๆ สำหรับการใส่ปุ๋ยให้มะละกอนั้น นอกจากปุ๋ยคอกรองก้นหลุมแล้ว ควรให้ปุ๋ยพวกฟอสเฟตเพิ่มหรือให้ปุ๋ยสูตร 8-10-8 ในอัตรา 1 กิโลกรัมต่อต้นต่อปี โดยให้ครั้งละน้อย ๆ แต่บ่อยครั้ง อาจให้เดือนละครั้ง โดยโรยรอบๆ ชายพุ่ม อย่าให้โดนต้น เพราะจะทำให้เกิดโรคได้ เนื่องจากมะละกอเป็นไม้เนื้ออ่อน เมื่อโดนปุ๋ยจะเกิดแผล ทำให้โรคเข้าทำลายได้ง่าย มะละกอแม้ว่าจะปลูกง่าย โตเร็ว แต่ก็มีศัตรู คือโรคและแมลงเข้าทำลายได้ง่ายเช่นกัน ซึ่งทำให้ผลผลิตลดลงหรือตายได้