การเก็บถนอมรักษาพริก

ผลพริก (เม็ดพริก) เมื่อแก่จัดหรือเริ่มมีผลสีแดงสามารถที่จะปล่อยทิ้งไว้ให้อยู่กับต้นได้อีกชั่วระยะหนึ่งโดยไม่มีการเสื่อมคุณภาพแต่อย่างใด ส่วนผลพริกสดที่เก็บเกี่ยวออกจากต้นแล้ว ไม่ว่าจะนำไปใช้ประโยชน์อย่างใดก็ตาม ถ้าหากว่าใช้ไม่หมดแล้วนำไปเก็บไว้ในสภาพปกติก็จะเก็บไว้ได้ไม่นาน แต่ถ้าต้องการเก็บพริกสด ไว้กินนานๆนั้น เมื่อซื้อหรือเก็บพริกสดมาจากต้น ให้เด็ดขั้วก้านพริกออกก่อนจะนำไปล้างน้ำ แล้วนำไปผึ่งลมให้แห้ง หากระดาษหนา ๆ เอามาห่อเก็บไว้ในที่แห้ง ๆ พริกจะสดอยู่ได้นานหลายวัน หรือถ้ามีตู้เย็นเก็บพริกนั้นโดยตรงไม่ต้องห่อก็กระทำได้ แต่จะต้องระวังอย่าให้เม็ดพริกเปียกน้ำ ด้วยจะทำให้เน่าได้ง่าย เม็ดพริกสดที่เก็บมา แล้วเอาลงแช่ในน้ำสะอาดที่แกว่งสารส้มไว้แล้ว แช่ไว้สัก ๑๐ นาที แล้วจึงเอาขึ้นผึ่งให้แห้ง แล้วเก็บไว้ในที่เย็นๆก็จะช่วยให้คงความสดอยู่ได้นานกว่าปกติ แต่ถ้าหากนำไปเก็บไว้ในที่อุณหภูมิศูนย์องศาเซลเซียส ที่ความชื้น ๙๕-๙๘ เปอร์เซ็นต์ จะเก็บรักษาสภาพความสดของผลพริกได้นานถึง ๔o วัน โดยที่ผลพริกไม่เน่าหรืออาจมี ผลที่เหี่ยวย่นบ้าง และเก็บไว้ที่อุณหภูมิ ๘-๒๐ องศาเซลเซียส ความชื้นประมาณ ๘๕-๙๐เปอร์เซ็นต์ จะเก็บไว้ได้นานประมาณ ๘-๑๐ วัน

จะเห็นได้ว่าผลพริกสดนั้นถ้าเก็บรักษาอย่างถูกวิธีสามารถIก็บไว้ได้นานถึง ๔๐วัน แต่ถ้าเรานำพริกสดมาเก็บถนอมโดยการตากแห้ง สามารถเก็บไว้ได้นานเป็นปีก็ไม่เสีย ดังนั้นในการทำพริกตากแห้งจึงเป็นวิธีหนึ่งที่จะทำให้เรามีพริกไว้กินได้ตลอดปีในยามขาดแคลน เพราะพริกบางช่วงนั้นมีราคาแพงมากทั้งพริกสดและพริกแห้ง เกษตรกรในชนบทที่ปลูกไว้หลังบ้านถ้ามีจำนวนเหลือเฟือก็ควรเก็บมาตากแห้งไว้เพี่อเป็นการประหยัดรายจ่ายในครอบครัว การทำพริกแห้งก็ทำได้ไม่ยากนัก เพียงแต่นำผลพริกที่แก่จัดและสุกพอที่เก็บเกี่ยวได้ แล้วนำไปตากแดดให้แห้ง โดยมีขั้นตอนดังนี้คือ

การบ่ม หลังจากเก็บผลพริกมาแล้ว ควรนำไปบ่มในเข่งหรือภาชนะอื่นๆ ประมาณ ๒ คืน เพราะว่าพริกที่เก็บมาอาจจะมีผลที่ยังไม่สุกแดงปะปนมาบ้าง ถ้าหากนำไปตากเป็นพริกแห้งทันทีสีจะขาวด่างขายไม่ได้ราคา จึงต้องบ่มให้สุกหมดเสียก่อน

การย่าง เพื่อให้ผลพริกแห้งเร็วและเก็บรักษาไว้ได้นาน โดยไม่เสียง่าย ควรย่างด้วยไฟอ่อนๆ คอยพลิกกลับไปกลับมาจนกระทั่งสุก แล้วจึงค่อยนำไปตากแดด บางคนอาจตากแดดแทนการย่างเลยก็มี เพราะการย่างทำให้รสชาติของพริกแห้งไม่ดี นอกจากนี้เกษตรกรยังนิยมใช้น้ำร้อนลวกก่อนตาก ซึ่งเป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้สีของพริกสวย ไม่มีสีขาวด่างเมื่อตากแห้งแล้ว

การตากแดด เพื่อให้ผลพริกแห้งสนิทหลังจากย่างหรือลวกนํ้าร้อนเสร็จควรนำไปตากแดดทันที จะตากบนลานหรือแผ่นสังกะสีก็ได้ เมื่อถึงตอนเย็นให้เก็บมาสุมรวมกันรุ่งเช้าค่อยตากใหม่ ทำอยู่เช่นนี้ประมาณ ๕ วัน หรือเมื่อเห็นว่าผลพริกแห้งสนิทดีแล้วก็นำไปเก็บไว้ขายหรือไว้ใช้เองในครอบครัวก็แล้วแต่ท่าน

การทำพริกแห้งนอกจากการตากแดดแล้ว ยังสามารถนำไปทำให้แห้งโดยตากในตู้หรือกล่องอบแห้งด้วยแสงอาทิตย์ ตัวตู้หรือกล่องอบแห้งนั้นทำด้วยไม้หนาประมาณ ๑๐ มิลลิเมตร ด้านบนที่จะรับแสงอาทิตย์ใส่กระจกใสหนา ๓ มิลลิเมตร บิดเอียงทำมุม ๑๘ องศา ผนังและพื้นภายในกล่องนั้นทาสีดำให้ช่วยดูดความร้อนไว้ด้วย ส่วนด้านล่างและด้านบนของกล่อง เจาะเป็นช่องให้อากาศภายนอกเข้าได้ทางด้านล่าง และระบายความชื้นออกทางด้านบน ช่องอย่างว่านี้ให้มีอยู่ประมาณร้อยละ ๑๐-๑๕ ของพื้นที่ในส่วนที่รับแสงอาทิตย์

ส่วนช่องระบายอากาศ ควรกรุด้วยมุ้งลวดตาถี่ป้องกันแมลงให้ด้วย ผนัง ด้านหลังมีบานพับ ปิด-เปิดได้ เพื่อความสะดวกในการนำพริกลงวางอบ การอบด้วยวิธีนี้จะได้พริกที่สะอาด และแห้งเร็วกว่าวิธีอื่นๆ ด้วย

ซ๊อสพริก

เครื่องปรุง – พริกชี้ฟ้าแดง ๒๕ ผล

กระเทียม ๑๐ กลีบ

น้ำส้ม น้ำตาล เกลือ

วิธีทำ – นำพริกชี้ฟ้ามาผ่าเอาไส้และเมล็ดออก (ถ้าต้องการให้เผ็ดมากไม่ต้อง ผ่าเอาเมล็ดออก) นำกระเทียม (ปอกเปลือกแล้ว) และพริกที่เตรียมไว้ นึ่งให้สุกแล้วนำมาบดหรือโขลกให้ละเอียด ส่วนน้ำส้ม เกลือ นํ้าตาล นำมาผสมกัน ชิมดูรสให้มีรสกลมกล่อมหรือรสตามชอบใส่หม้อต้มพอเดือดแล้วกรองให้สะอาด จากนั้นนำพริก กระเทียม ที่โขลกเตรียมไว้ผสมกัน นำไปเก็บใส่ขวดแก้ว ปิดฝาให้แน่น นำไปไว้รับประทานต่อไป