การเพาะเลี้ยงหอยเป๋าฮื้อแนวเกษตรอินทรีย์

หอยเป๋าฮื้อหรือหอยโข่งทะเล(abalone)เป็นหอยทะเลฝาเดียวที่อาศัยอยู่ในน้ำทะเลสะอาด ความเค็มสูงระหว่าง 32-33 ส่วนในพัน อาศัยอยู่ตามแนวหินหรือปะการัง จัดเป็นหอยที่กินพืช(Herbivotous feeder)เป็นอาหารโดยขูดกินตะไคร่น้ำหรือสาหร่ายขนาดเล็กในกลุ่มสีแดง สีน้ำตาลและสีเขียวที่เกาะติดอยู่ตามก้อนหิน

หอยเป๋าฮื้อเป็นสัตว์น้ำที่มีคุณค่าทางเศษรษฐกิจที่นิยมบริโภค เนื่องจากมีรสชาติดีและมีราคาแพง ดังนั้นเมื่อนำหอยเป๋าฮื้อมาเลี้ยงในบ่อบนฝั่งจะนำสาหร่ายทะเลชนิดต่าง ๆ ที่สามารถเก็บเกี่ยวจากธรรมชาติหรือเพาะเลี้ยงให้เป็นอาหาร เช่น สาหร่ายผมนาง(Gracilaria) หรือสาหร่ายหนาม(Acanthophora)หรืออาจให้อาหารสำเร็จรูปที่วิจัยและพัฒนาโดยกรมประมงซึ่งเป็นอาหารที่มีสาหร่ายและโปรตีนจากพืชเป็นส่วนประกอบจึงไม่มีผลกระทบต่อคุณภาพน้ำและสิ่งแวดล้อม กรมประมงประสบความสำเร็จในการเพาะเลี้ยงหอยเป๋าฮื้อชนิด Haliotisasinina ซึ่งเป็นพันธุ์พื้นเมืองของไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ.2531 ต่อจากนั้นกรมประมงได้วิจัยและพัฒนาเทคนิคการเพาะพันธุ์หอยชนิดนี้มาโดยตลอด ปัจจุบันกล่าวได้ว่าสามารถควบคุมทำให้หอยชนิดนี้ปล่อยเซลล์สืบพันธุ์ได้ตลอดปี และมีผลผลิตเป็นลูกหอยที่พร้อมจะนำไปเลี้ยงต่อในเชิงพาณิชย์อีกด้วย นอกจากนี้กรมประมงยังได้ถ่ายทอดความรู้ในด้านการเพาะเลี้ยงหอยเป๋าฮื้อไปสู่เกษตรกรโดยใช้แนวทางแบบเกษตรอินทรีย์ ทั้งนี้เพื่อให้การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชนิดนี้เป็นการทำประมงแบบยั่งยืนไม่เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและผู้บริโภคในขณะเดียวกัน

การเพาะเลี้ยงหอยเป๋าฮื้อแนวเกษตรอินทรีย์

การเพาะเลี้ยงหอยเป๋าฮื้อแบ่งออกเป็น 5 ขั้นตอน

1.  รวบรวมพ่อแม่พันธุ์หอยจากแหล่งน้ำธรรมชาติหรือรวบรวมพ่อแม่พันธุ์ เพื่อนำมาเพาะพันธุ์ในช่วงแรก โดยเก็บเฉพาะพ่อแม่พันธุ์ขนาดความยาวเปลือกตั้งแต่ 8 ซม.ขึ้นไป และรวบรวมโดยไม่ทำลายแหล่งที่อยู่ของหอยทั้งไม่ทำให้หอยเกิดบาดแผลระหว่างการรวบรวม ซึ่งเป็นการลดการใช้ยาปฏิชีวนะในขั้นตอนแรกของการเพาะพันธุ์

2.  กระตุ้นให้หอยปล่อยเซลล์สืบพันธ์  โดยใช้เทคนิคการควบคุมช่วงเวลาของแสงในห้องให้เท่ากันคือมืดและสว่างอย่างละ 12 ชั่วโมง ในทางตรงข้ามกับช่วงมืดสว่างภายนอก วิธีการนี้จะกระตุ้นให้หอยเป๋าฮื้อ ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีกิจกรรมส่วนใหญ่ในเวลากลางคืน (Nocturnal) เปลี่ยนพฤติกรรมการวางไข่และผสมพันธุ์ในเวลากลางวัน โดยพ่อแม่พันธุ์หอยจะปล่อยเซลล์สือพันธุ์ในเวลาประมาณ 12.30-13.00 น. เทคนิคนี้ทำให้ได้ไข่ที่มีคุณภาพและลูกหอยที่มีอัตรารอดตายสูงโดยไม่ต้องใช้สารเคมีชนิดต่าง ๆ ในการกระตุ้นทั้งสิ้น

3.การฟักและอนุบาลลูกหอยจนถึงระยะเกาะโดยนำไข่ที่ได้รับการผสมแล้วไปฟักในถังที่ใส่น้ำทะเลสะอาดและฆ่าเชื้อด้วยแสงอัลตราไวโอเลต ไข่จะพัฒนาหรือฟักเป็นลูกหอยระยะว่ายน้ำ และพัฒนาต่อไปโดยเปลี่ยนการดำรงชีวิตไปสู่การคืบคลาน ภายในระยะเวลา 40-80 ชั่วโมง ช่วง่ที่มีพัฒนาการต่าง ๆ นี้ลูกหอยจะไม่ต้องการอาหารเนื่องจากได้รับสารอาหารจากไข่แดง(Yolk)ภายในตัวมันเอง

4.  อนุบาลลูกหอยจากระยะคืบคลานจนถึงระยะวัยรุ่นหรือขนาดความยาวเปลือก 10 มิลลิเมตร ลูกหอยอายุตั้งแต่ 40-80 ชั่วโมงจะเริ่มคืบคลานกับพื้นและขูดกินอาหารจำพวกตะไคร่น้ำหรือไดอะตอม (diatom)บนแผ่นล่อลูกหอย ซึ่งอาหารของลูกหอยเป๋าฮื้อระยะนี้เตรียมจากห้องเพาะเลี้ยงไดอะตอมชนิด Nitzscbia spp. ซึ่งปุ๋ยที่ใช้ในการขยายปริมาณของไดอะตอมจะเป็นชนิดที่มีคุณภาพสูง สลายตัวง่ายและไม่มีผลต่อสิ่งแวดล้อม

เมื่อลูกหอยเติบโตถึงขนาดความยาวเปลือก 5 มิลลิเมตรจะย้ายลูกหอยไปถังอื่นและเริ่มเปลี่ยนมาให้อาหารสาหร่ายชนิด Acanthophora sp. อย่างเพียงพอจนลูกหอยมีขนาด 10 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นขนาดที่เหมาะสมที่จะลำเลียงไปเลี้ยงที่อื่น และให้กินสาหร่ายผมนาง(Gracilaria sp.)หรืออาหารสำเร็จรูปได้แล้ว

สถานที่เลี้ยงหอยเป๋าฮื้อ

สถานที่เลี้ยงหอยเป๋าฮื้อควรอยู่ติดทะเลหรือสามารถสูบน้ำทะเลได้สะดวกและแหล่งน้ำนั้นควรสะอาดมีความเค็มสูงที่ตลอดปี ปราศจากสารพิษหรือโลหะหนักจากโรงงานอุตสาหกรรม นอกจากนี้ควรอยู่ในบริเวณที่มีกำบังคลื่นลมในฤดูมาสุม ตลอดจนมีสาธารณณูปโภคและการคมนาคมที่สะดวก รวดเร็ว และมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการเลี้ยงสาหร่ายเพื่อเป็นอาหารหอยและเพื่อการพักน้ำก่อนปล่อยสู่ธรรมชาติ

การเลี้ยงหอยเป๋าฮื้อ แบ่งออกเป็น 2 วิธีคือ

1.  การเลี้ยงแบบแขวนเลี้ยงในตะกร้าแล้วนำไปเลี้ยงในทะเล

ใช้ตาข่ายพลาสติกขนาดตาเล็กกว่าหอยมาเย็บให้เป็นตะกร้ามีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 60 ซม. สูง 20 ซม. ใส่หอยได้ 25 ตัว นำไปแขวนที่แพ ให้ตะกร้า ต่ำกว่าผิวน้ำ 80 ซม. ให้สาหร่ายทะเล 50 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักตัวทุกสองวัน เลี้ยงเป็นระยะเวลา 1.5-2 ปี หอยจะมีน้ำหนัก 10-15 ตัว/กก.

2.  การเลี้ยงแบบปล่อยลงบนพื้นคอนกรีต

ปริมาตรระหว่าง 5-10 ลูกบาศก์เมตร ความลึกของบ่อ 80-100 ซม. ระดับน้ำในบ่อลึกไม่ต่ำกว่า 50 ซม. และมีที่พรางแสงเพื่อควบคุมอุณหภูมิไม่ให้สูงเกิน 30 องศาเซลเซียส ปล่อยหอยให้มีความหนาแน่น 25 ตัวต่อตารางเมตร เปิดน้ำเข้าบ่อ 150-200 เปอร์เซ็นต์ต่อวัน และให้สาหร่ายทะเลเป็นอาหาร 30-50 เปอร์เซ็นต์ ของน้ำหนักตัวทุกวัน ทำความสะอาดบ่อทุกวันประมาณ 1.5-2 ปีหอยจะมีน้ำหนัก 15-20 ตัว/กก.

การเลี้ยงหอยเป๋าฮื้อตามแนวเกษตรอินทรีย์ปฏิบัติได้ง่ายเนื่องจากการเลี้ยงหอยชนิดนี้สามารถเลี้ยงในบ่อบนฝั่งทำให้สามารถดูแลได้อย่างใกล้ชิดตลอดจนควบคุมปริมาณการให้อาหารได้อย่างใกล้เคียงกับความต้องการของหอย นอกจากนี้อาหารจำพวกสาหร่ายยังเป็นตัวดูดซับสารพิษในกลุ่มไนโตรเจนได้ดีอีกด้วย ปัจจุบันกรมประมงได้วิจัยและพัฒนาอาหารสำเร็จรูปสำหรับหอยเป๋าฮื้อ ซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการสูงคงตัวในน้ำได้ดีและใช้วัตถุดิบที่ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมเป็นส่วนประกอบอีกด้วย ทำให้การเพาะเลี้ยงหอยเป๋าฮื้อสามารถสร้างรายได้ เป็นอาชีพการประมงที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตลอดไป