กาแฟมีประโยชน์อย่างไร


ชื่อวิทยาศาสตร์ 1. Coffea arabica Linn.
2.  C. liberica Hiern.
3.  C. robusta Linn. (Syn.C. cancphora Pierre, ex. Froe.)
ชื่ออื่นๆ 1. กาแฟใบเล็ก
2. กาแฟใบใหญ่
3. กาแฟ
ชื่ออังกฤษ 1. Arabica Coffee
2. Liberica Coffee
3. Robusta Coffee


ลักษณะ กาแฟ Coffee Bean หรือ Coffee Seed หรือ Coffea ต้นเป็นไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็ก สูง 2-5 เมตร ใบเดี่ยวรูปแหลมหัวแหลมท้าย ใบกว้าง 7-10 ซ.ม. ยาว 8-15 ซ.ม. สีเขียวเข้ม เป็นมัน ใบค่อนข้างใหญ่ ขอบใบเป็นลอน ใบจัดตรงข้ามกัน มีหูใบสีเขียวและอยู่ระหว่างก้านใบ ดอกกาแฟมีสีขาว กลิ่นหอม ออกเป็นกระจุก 3-7 ดอก ตรงข้อของกิ่ง ในหนึ่งกิ่งจะมีดอกออกยาวตั้งแต่ครึ่งฟุตถึงหนึ่งฟุตกว่า ผลมีขนาดเล็กรูปร่างกลมยาว เส้นผ่าศูนย์กลางของผล ประมาณ 1 ซ.ม. เมื่อยังไม่สุกมีสีเขียว สุกจะเปลี่ยนเป็นสีแดง บางพันธุ์ผลสุก มีสีเหลือง ในหนึ่งผลจะมีเมล็ด 2 เมล็ด ลักษณะของเมล็ดด้านหนึ่งจะแบน แนบติดกับอีกด้านหนึ่ง ด้านนอกจะโค้งนูนเล็กน้อย กาแฟต้นหนึ่งจะให้ผลผลิต 1.5 ถึง 5 กิโลกรัม

การแยกเมล็ดกาแฟออกจากผล ใช้ผลสดๆ แยกโดยใช้เครื่องจักร ต่อจากนั้น ไปทำให้แห้ง แต่ถ้าเป็นอุตสาหกรรมในครอบครัวนำผลมาตากแดดให้แห้งแล้วทุบให้แตกแยกเอาเมล็ดออก

ส่วนที่ใช้ เมล็ดที่แก่จัด
สารสำคัญ เมล็ดกาแฟมี 1-2% ของคาฟีอีน (caffeine) ไตรโกเนลลีน (trigonelline) 0.25% แทนนิน 3-5% นํ้าตาลกลูโคส และเด๊กซตริน ประมาณ 15% มีไขมันซึ่งส่วนใหญ่เป็น โอเลอิน (olein) และปาลมิติน (palmitin) 10-13% และโปรตีน 10-13%
การคั่วกาแฟ เปลือกของเมล็ดจะพอง เปลี่ยนสีจากสีขาวนวลเป็นสีนํ้าตาลแก่ และมีกลิ่นหอม กลิ่นหอมในกาแฟนี้คือสาร แคฟฟีออล (caffeol) ซึ่งเป็นพวกนํ้ามัน ประกอบด้วยสารเฟอร์ฟิวรอล (furfural) ประมาณ 50% กับกรด วาเลอรินิค (valerianic) ฟีนอล (phenol) และไพริดีน (pyridine) จำนวนเล็กน้อย สารเหล่านี้จะเกิดขึ้นขณะที่นำเมล็ดกาแฟมาคั่ว ในขณะเดียวกันสารคาฟีอีน ก็จะแยกตัวออกจากสารคลอโรเจนิค (chlorogenic acid) ซึ่งถ้าเมล็ดกาแฟที่ยังไม่ได้คั่วสารทั้งสองชนิดจะอยู่รวมกัน ในขณะคั่วกาแฟคาฟีอีนจะระเหิด (sublime) ออกมาบ้าง ดังนั้นในทางการค้าจะมีกรรมวิธีเก็บคาฟีอีนไว้โดยใช้ การระเหิดของคาฟีอีน
เมล็ดกาแฟที่ได้จาก Arabica Coffee จะมีกลิ่นหอมกว่าชนิด Liberica Coffee
การคั่วเมล็ดกาแฟในเมืองไทย นิยมใส่เนย บางแห่งอาจเติมเกลือเล็กน้อย ซึ่งจะทำให้มีรสหอมมัน เมื่อชงจะทำให้รสชวนดื่มยิ่งขึ้น

ประโยชน์ทางยา คาฟีอีนมีฤทธิ์ไปกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ไต กล้ามเนื้อ และหัวใจ บางคนดื่มกาแฟแล้วรู้สึกไม่ค่อยสบาย ทั้งนี้เพราะฤทธิ์ของกรดคลอโรเจนิค และแคฟฟิออล ในกาแฟ 1 ถ้วย จะมีปริมาณของคาฟีอีนปริมาณ 100 มิลลิกรัม นอกจากนั้นกาแฟยังมีฤทธิ์ไปกระตุ้นและขับปัสสาวะ ใช้เป็นสารแก้อาการพิษที่เกิดขึ้นเนื่องจากระบบประสาทส่วนกลางถูกกด
ในการดื่มกาแฟ และชา คนส่วนมากมักจะเข้าใจว่า ดื่มกาแฟจะทำให้นอนไม่หลับเพราะกาแฟมีฤทธิ์มากกว่าชา แต่ความจริงแล้ว ในชาจะมีสารคาฟีอีนมากกว่าในกาแฟ คือในชามี 1-4% ในกาแฟมีเพียง 1-2% เท่านั้น แต่ฤทธิ์ของคาฟิอีนในกาแฟจะออกฤทธิ์นานกว่าในชา เนื่องจากกาแฟเป็นส่วนของเมล็ด ในเมล็ดจะมีไขมันอยู่ซึ่งเป็นตัวที่ช่วยทำให้การดูดซึมดีและมีระยะเวลายาวนานกว่าชา ที่เป็นส่วนของใบ
ที่มา:ศาสตราจารย์พเยาว์  เหมือนวงษ์ญาติ