โดยทั่วไปแล้วเรามักจะสรรหากุหลาบที่จะนำมาใช้เป็นต้นตอ โดยคัดเลือกจากพันธุ์กุหลาบป่าที่มีระบบรากดี ทรงพุ่มแข็งแรง ทนหนาว ทนร้อน มีอายุอยู่ได้นาน ต้านทานโรค เช่น.-
1. โรซ่า มัลติฟลอร่า (Rosa multiflora) มีถิ่นกำเนิดในญี่ปุ่น มีระบบรากดี ทรงพุ่มแข็งแรง ช่อดอกใหญ่ อายุยืน ทนหนาว ทนร้อน ทนต่อโรคใบจุด (black spot) แต่ไม่ทนต่อโรคราขาว (powdery mildew) และโรคเหี่ยว(verticillium wilt) มีข้อสั้น
อีกประการหนึ่งคือ กุหลาบต้นนี้ดูดธาตุโบรอนและคลอรีน สะสมไว้ในใบมากกว่ากุหลาบชนิดอื่น ๆ จึงเป็นผลให้พันธุ์ดีเกิดอาการไหม้ตามขอบใบในฤดูร้อน
2. โรซ่า อินดิค่า (Rosa indica) หรือ โรซ่า ไซเนนซีส (Rosa chinensis) มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีนและแถบเอเซียตะวันออก มีระบบรากหยั่งลึก ทนต่อความแห้งและทนต่อสภาพดินแห้งได้ดี แต่ไม่ทนหนาว มีหนามมาก ไม่สะดวกในการทำงาน
3. โรซ่า ด๊อกเตอร์ ฮุย (R.Dr.Heuy) เป็นกุหลาบลูกผสมระหว่างพันธุ์เลื้อย มีลักษณะการเจริญเติบโตแบบเลื้อย ไม่มีหนาม ช่วงข้อยาว ดอกมีกลิ่นหอม เจริญได้ดีในที่ ๆ มีอากาศเย็นแต่ไม่ทนต่อโรคใบจุด และโรคราแป้งขาว นิยมใช้เป็นต้นตออย่างกว้างขวางในอเมริกา
4. โรซ่า คามิน่า (Rosa camina) มีถิ่นกำเนิดในยุโรป ใช้เป็นต้นตอตั้งแต่ปี 1842 และที่ใช้เป็นต้นตอในปัจจุบันนี้ เป็นกุหลาบพันธุ์ลุกผสมทั้งสิ้น เช่น
– โรซ่า คามิน่า “เฮนซอห์นเรคคอร์ด”(R.camina) “Heinsohns Rekord”กิ่งค่อนข้างคดปลายยอดมีสีแดง ใบสีเขียวหม่น มักใช้เป็นต้นตอกับพันธุ์กุหลาบดอกใหญ่ ทำให้พันธุ์ที่นำมาติดมีคุณภาพดีเยี่ยม แต่ไม่ทนโรคราน้ำค้าง
– โรซ่า คามิน่า “แพนเดอร์” (R.camina Plander) ต้นไม่มีหนาม โคนกิ่งตรงแต่ปลายคด ยอดอ่อนมีสีอมม่วง รากยาวแผ่กระจายเป็นต้นตอที่แข็ง มักใช้เป็นต้นตอสำหรับกุหลาบยืนต้น แต่ไม่ทนโรคราน้ำค้าง
5. โรซ่า บูบองเนียน่า (R.bourboniana) เป็นกุหลาบลูกผสม ลักษณะต้นตั้งตรง กิ่งผอมบาง ใบสีเขียวหม่น หนามถี่แต่ผอมบาง ใช้เป็นต้นตอในอินเดียตอนเหนือ โดยเฉพาะต้นตอกุหลาบยืนต้น
ฉะนั้นเมื่อทุกพันธุ์ที่กล่าวมาแล้วข้างต้น มีทั้งข้อดีข้อเสีย ผู้ปลูกจึงต้องใช้วิจารณญาณพิจารณาเอาเองว่า ควรจะใช้พันธุ์ใดเป็นต้นตอ จึงจะเหมาะสมกับกุหลาบพันธุ์ดีแต่ละพันธุ์