ความสำคัญของการตกแต่งสวน

“การตกแต่งสถานที่”หรือเรียกกันสั้น ๆ ว่า “จัดสวน,, นั้นเป็นส่วนหนึ่งของเรื่อง Lan­dscape gordenning มีผู้ให้ชื่อในภาคภาษาไทย ว่า “อุทยานวิทยา,, ซึ่งเป็นสาขาหนึ่งของพืชสวนหรือพืชกรรม (Horticultuve)

ไทยเราได้มีการจัดสวนกันมานมนานแล้ว จากหลักฐานในศิลาจารึกสมัยกรุงสุโขทัย และหนังสือวรรณคดีต่าง ๆ สมัยกรุงศรีอยุธยาเรื่อยมาจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ได้กล่าวไว้หลายตอน สมัยก่อนการจัดสวนนิยมจัดทำในพระราชอุทยานของพระเจ้าแผ่นดิน ภายในบ้านขุนนางผู้ใหญ่ หรือตามวัดวาอารามเท่านั้น ยังไม่แพร่หลายเข้าไปในบ้านสามัญชนทั่วไป เพิ่งจะมาตื่นตัวกันในระยะเมื่อไม่นานมานี้เอง อาจเป็นเพราะอิทธิพลของสถาปัตยกรรมใหม่ ๆ ที่บังคับให้ต้องจัดสวนเพื่อเชิดชูอาคารสิ่งก่อสร้างนั้น ๆ ให้เด่นขึ้นอีกประการหนึ่ง เนื่องจากธรรมชาติที่มีอยู่ถูกทำลายย่อยยับด้วยความเจริญของบ้านเมือง จึงจำเป็นที่จะต้องหามาชดเชยให้สิ่งแวดล้อมอยู่ในสภาวะสมดุลย์

ความมุ่งหมายที่สำคัญก็เพื่อตกแต่งบริเวณบ้านหรืออาคารสถานที่ให้เกิดความสวยงามน่าดู เกิดความสุขสดชื่นทั้งกายและใจแก่เจ้าของบ้าน ครอบครัวที่พักอาศัย ตลอดจนเป็นที่สุขตาสุขใจแก่ผู้ที่ได้พบเห็น

ประโยชน์และคุณค่าทได้รับจากการจัดสวนในบริเวณบ้าน

1. เพื่อเพิ่มความสวยงามและคุณค่าให้แก่อาคารบ้านเรือนที่อยู่อาศัยของตนให้มากขึ้น เป็นที่เชิดหน้าชูตาเป็นสง่าราศรีแก่บ้านของตน

2. บังเกิดความสะดวก และก่อให้เกิดความสุขปลอดภัยแก่ตัวเราและครอบครัวในการพักอาศัย โดยใช้บ้านให้เป็นประโยชน์มากขึ้นเช่นมีทางเดินในบริเวณบ้านที่สะอาดและปลอดภัย มีที่พักผ่อนหย่อนใจถูกต้องตามรสนิมของเรา มีสนามเด็กเล่นออกกำลังกายมีสวนครัวสวน ผลไม้และสวนไม้ดอกไม้ประดับไว้ใช้บริโภคเองในครอบครัว เป็นที่ถูกอกถูกใจของแม่บ้าน

3. เป็นการประหยัดได้ประโยชน์ช่วยเศรษฐกิจ แก่ครอบครัวเช่นมีผลิตผลภายในบ้านไว้ใช้เอง เป็นอาหาร มีพันธุ์ไม้ดอกไม้ไว้ใช้จัดแจกัน ร้อยมาลัย บูชาพระ หากมีมากอาจจำหน่ายเป็นรายได้เล็ก ๆ น้อย ๆ ลดการเที่ยวแตร่นอกบ้าน

4. ทำให้ครอบครัวมีสุขภาพสมบูรณ์ เพราะได้ออกำลังกายเล็ก ๆ น้อย ๆ ในสวน ได้รับอากาศที่สดชื่นบริสุทธิ์

5. ก่อให้เกิดความสุขความสามัคคีกลมเกลียว ความเข้าอกเข้าใจความรับผิดชอบในหน้าที่ และความใกล้ชิดภายในครอบครัวมากขึ้นเป็นการฝึกเด็ก ๆ ให้รู้จักทำงานบ้าน ตลอดจนความรู้ในเรื่องธรรมชาติวิทยา หาประสบการณ์

ความสำเร็จของการจัดสวนในบริเวณบ้าน

ความสำเร็จในการจัดสวนในบริเวณบ้านนั้น ย่อมขึ้นอยู่กับความมุ่งหมายและความพอใจของเจ้าของบ้านเป็นสำคัญ หากเจ้าของบ้านมีศิลป และมีความเข้าใจดีแล้วก็ยิ่งสะดวกประสพความสำเร็จมากขึ้น หากขาดความรู้ความซาบซึ้งในศิลปแล้ว ก็เป็นการยากที่จะทำให้บ้านน่าดูและสวยงามได้ ความพอใจของเจ้าของบ้านในการจัดสวนแบบหนึ่ง อาจจะเป็นการไม่น่าดูสำหรับคนอื่น ๆ ที่ผ่านมาพบเห็น แทนที่จะเป็นสง่าราศรีแก่บ้าน กลับกลายเป็นการแสดงถึงนิสัยและความรอบรู้ในศิลปตลอดจนวัฒนธรรมของเจ้าของบ้าน การจัดสวนบ้านที่จะให้ได้รับความสำเร็จและได้ผลดีนั้น ต้องอาศัยความรอบรู้ความสามารถอื่น ๆ พอสมควร เช่น

1. ศิลปในการตกแต่ง ความรู้ในทางสถาปัตยกรรม ซึ่งสถาปนิกจะเข้าใจดีว่า อะไรงาม อะไรน่าเกลียด อะไรควรจะตกแต่งให้น่าดูเด่นสวยงามขึ้น ดังนั้นงานในด้านนี้ สถาปนิกจึงจะทำได้ดี และทำอยู่มากแล้วในขณะนี้

2. ศิลปในการเพาะปลูก อาจจะพูดได้ว่าต้องการความรู้ทางด้านพืชสวน เพราะ 90 เปอร์เซ็นต์ของการจัดสวนคือวัสดุที่ได้จากต้นไม้ พรรณไม้ต่าง ๆ ดังนั้นจึงต้องมีความรู้ในเรื่องธรรมชาติและคุณสมบัติของพันธุ์ไม้เพียงพอ เพื่อเลือกตกแต่งให้ถูกต้องตามความมุ่งหมาย รู้หลักการดูแลรักษาพันธุ์ไม้ทั่วไป

3. ความรู้พิเศษอื่น ๆ เช่น ช่างไม้ ช่างก่อสร้าง และความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติอื่น ๆ

ขอบเขตของการจัดสวน

การปลูกไม้ดอกไม้ประดับเพื่อตกแต่งสถาน ที่นั้นนับว่าเป็นศิลปและธุรกิจที่สำคัญอันหนึ่ง ธุรกิจการค้าทั่ว ๆ ไปในปัจจุบันนี้ นับจากมนุษย์ มีความเจริญมากขึ้นในด้านวัฒนธรรมและจิตใจ การใช้ไม้ดอกไม้ประดับในชีวิตก็มีมากและพิถีพิถันมากขึ้น พิธีการต่าง ๆ ของมนุษย์นับจากเกิดจนตายได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับดอกไม้ต้นไม้เสมอมา

ความเป็นอยู่ของคนไทยในปัจจุบันพัฒนาขึ้นกว่าแต่ก่อน ที่อยู่อาศัยขยายตัวออกไปเปลี่ยนสภาพจากเรือกสวนไร่นามาเป็นที่อยู่อาศัย บ้านเรือน สถานที่ราชการ โรงงานอุตสาหกรรม ฯลฯ ความจำเป็นในการปลูกไม้ดอกไม้ประดับตกแต่งสถานที่ก็ทำกันมากขึ้น โดยเฉพาะบ้านพักอาศัย

บ้านเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในการดำเนินชีวิตของคนเรา ทุกคนต้องการที่จะมีบ้านเป็นที่อยู่อาศัยของตนเอง เพราะบ้านเป็นที่อยู่หลับนอน และให้ความสุขความสบายแก่เรามากที่สุด การที่จะทำให้บ้านน่าอยู่นั้น จะต้องเป็นบ้านที่ตั้งอยู่ในสถานที่เหมาะ ตั้งถูกทิศทางและมีการออกแบบที่ถูกต้อง แต่ถึงกระนั้นก็ตามสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่จะทำให้บ้านน่าอยู่น่าอาศัยยิ่งขึ้นก็คือ “สวนในบริเวณบ้าน” สวนนอกจากจะส่งเสริมให้บ้านน่าอยู่น่าอาศัยแล้ว ยังความร่มเย็นแก่บริเวณบ้าน และทำให้อากาศในบริเวณบ้านบริสุทธิ์อีกด้วย ในประเทศที่พัฒนาแล้วประชาชนพอใจจะหาความสุขด้วยการอยู่ในบ้านมากกว่าการออกเที่ยวเตร่นอกบ้าน เมื่อเกิดความรักที่จะอยู่บ้านของตนเองมากขึ้น ความสนใจที่จะตกแต่งบ้านของตนเองให้น่าดูสวยงามจึงมีมากขึ้นด้วย ดังนั้นการปลูกไม้ดอกไม้ประดับเล่นในบริเวณบ้านของตน จึงเป็นความสุขอย่างหนึ่งที่เกิดความนิยมทำกันขึ้นในปัจจุบันอย่างกว้างขวาง

เมืองไทยเรานี้แสนดีหนักหนา ที่สามารถปลูกต้นไม้เล่นได้ตลอดปี คนไทยเรามีนิสัยรักต้นไม้เป็นพื้นฐานกันอยู่ก่อนแล้วจะสังเกตได้ว่าถึงแม้จะอยู่ที่

คับแคบอย่างไรก็ต้องมีพันธุ์ไม้ใส่กระถางไว้ดูเล่น 2-3 ต้นก็ยังดี ยิ่งมีพื้นที่บริเวณบ้านตนเอง 50-100-200 ตารางวาด้วยแล้ว เลยปลูกกันจนแน่นบ้านก็มีถมไป

ส่วนตลาดการค้าพันธุ์ไม้ในกรุงเทพฯนั้น นับวันยิ่งเจริญมีการขยับขยายกิจการออกไปตามชานเมือง ต้นไม้บางชนิดบางต้นมีราคาสูงมากอย่างไม่น่าเชื่อ ได้มีการส่งพันธุ์ไม้ใหม่ ๆ เข้ามาจำหน่ายอยู่เสมอมิได้ขาด ความต้องการและ ความนิยมของคนไทยนับวันยิ่งทวีเพิ่มขึ้นมิได้เสื่อมคลายลงเลย นับตั้งแต่ไม้ดัดไม่แคระ (บอนไซ) บอนโกสน ไม้ใบนานาชนิดผู้ที่เล่นอยู่แล้วก็ขยายความสนใจและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ จนมีพันธุ์ไม้มากขึ้น คนที่ยังไม่เคยเล่นก็เริ่มสนใจ ตั้งแต่ด้วยพันธุ์ไม้พื้น ๆ จนเกิดความชำนิชำนาญ หากใครหลงไหลมากก็ลงทุนมากหน่อย ความลับต่าง ๆ ในการปลูกเลี้ยงต้นไม้ก็แผ่ขยายดอก มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนกันอย่างกว้างขวาง โดยไม่มีการปกปิด จึงทำให้ทุกคนสามารถบรรลุ ความสำเร็จได้ และเกิดความหลงใหลที่จะเลี้ยงต่อไปเรื่อย ๆ โดยไม่รู้เบื่อ

ในทำนองเดียวกันสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ เช่น สถานที่ราชการ โรงเรียน โรงแรม สำนักงาน อาคารร้านค้าอื่น ๆ ที่ผุดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และต่างก็เห็นความสำคัญของการปลูกไม้ดอก ไม้ประดับตกแต่งอาคารสิ่งก่อสร้างเหล่านั้นให้ น่าดู เชิดชูให้อาคารสิ่งก่อสร้างนั้น ๆ เด่นขึ้น ศิลปแห่งการตกแต่งและหลักความรู้ที่จะยึดถือ เท่านั้นที่จะช่วยได้ มิใช่ว่ามีเงินมีพันธุ์ไม้แล้วก็ เอามาปลูกลงไปโดยไม่คิดอะไรมาก นอกจากคอยให้ต้นไม้นั้นเจริญเติบโตอยู่ได้เป็นใช้ได้ หมดเรื่องกัน สภาพที่เกิดที่หลังนั้นจะทำให้สูญเสียเวลาทรัพย์สินและพันธุ์ไม้ ซึ่งมิใช่ว่าจะหามาทดแทนใช้ให้ทันเวลาที่เสียไปไม่

สถานที่ใดบ้างที่ควรปลูกไม้ดอกไม้ประดับเพื่อฅกแต่งสถานที่

1. บริเวณบ้านที่อยู่อาศัย สิ่งแรกที่คนเรานึกถึงก็คือ ความสุขภายในบ้าน ดังนั้นการประดับตกแต่งบ้าน บริเวณบ้านนั้น นอกจากจะทำให้เป็นที่สดุดตาแก่ผู้ได้พบเห็นแล้ว ยังทำให้บ้านน่าอยู่ร่มรื่นและได้ใช้ดอกไม้บูชาพระจัดแจกัน หรือถ้ามีมากอาจซื้อขายแลกเปลี่ยนเป็นรายได้เล็ก ๆ น้อย ๆ แก่ครอบครัวได้ด้วย

2. บริเวณอาคารสถาที่ราชการทั่ว ๆไป โดยเฉพาะเทศบาลเมืองถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องวางแผนประดับเมืองให้น่าดูเรียบร้อยเป็นสง่าราศรีแก่บ้านเมืองโดยปลูกไม้ดอกไม้ประดับ ตกแต่งตามอาคารสถานที่ อาคารรัฐบาลทั่ว ๆ ไป เช่น ทำเนียบรัฐบาล สภาผู้แทนราษฎร กระทรวง ทบวง กรม กอง อนุสาวรีย์ต่างๆใน เมือง เทศบาลเมืองมีหน้าที่เอาใจใส่งานในด้านนี้เป็นพิเศษ ที่จะทำให้บ้านเมืองน่าดูสวยงามอยู่เสมอ

3. อาคารสิ่งก่อสร้างสาธารณะสถาน

สิ่งเหล่านี้ผู้เป็นเจ้าของหรือผู้รับผิดชอบดูแลต่างให้ความสุขใจไม่เท่ากัน ทั้งนี้อยู่ในความคิด อุดมคติ ความเห็นของบุคคลกลุ่มหนึ่ง สถานที่เหล่านี้ได้แก่ โรงพยาบาล โรงเรียน วัดวาอาราม สถานีรถไฟ ฯลฯ หากได้มีการตกแต่งประดับ ประดาอย่างถูกหลักเกณฑ์แล้วจะทำให้ผู้ใช้สถานที่มีความสุขเช่น โรงพยาบาล จะช่วยให้คนไข้มีจิตใจดีขึ้น สดชื่น กระปรี้กระเปร่าโดยเฉพาะโรงพยาบาลประสาท โรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย นอกจากจะได้รับความสุขร่มเย็นจากร่มเงาของไม้ยืนต้นแล้ว ยังอาจใช้ต้นไม้เหล่านั้นเป็นวัสดุอุปกรณ์ในการเรียนการสอนอีกด้วย วัดวาอาราม ถ้ามีต้นไม้ปลูกไว้อย่างเหมาะสม จะช่วยกล่อมเกลานิสัยโน้มน้าวจิตใจให้เกิดอารมณ์เลี่อมใส ชักจูงไปในทางบริสุทธิ์ สถานีรถไฟก็เช่นกัน ทำให้ผู้โดยสารได้เปลี่ยนบรรยากาศเปลี่ยนทิวทัศน์จากป่าเขาลำเนาไพร ทุ่งนา มาเป็นอีกอย่างหนึ่ง

4. ถนนหนทาง ซึ่งเป็นสมบัติสาธารณชน โดยเฉพาะทางโค้ง วงเวียน ถ้าสวยงามเป็นระเบียบด้วยไม้ดอกไม้ประดับ ผู้ที่ใช้ถนนสัญจรไปมาได้ใช้เป็นที่พักผ่อนจากการเดินทาง ควรมีที่จอดรถ มีที่พักผ่อนหย่อนใจ จะให้ความสุขแก่ผู้ใช้ถนน

5. ที่พักผ่อนหย่อนใจ เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะบริการประชาชนที่ไม่สามารถมีสวนไม้ดอกไม้ประดับด้วยตนเองได้ใช้สถานที่แห่งนี้หาความเพลิดเพลินในธรรมชาติบ้านสวนสาธารณะหรืออุทยานต่าง ๆ ที่ได้จัดตกแต่งให้น่าดูนั้น เป็นสิ่งหนึ่งที่แสดงออกของจิตใจ และวัฒนธรรมของคนในประเทศนั้นได้เป็นอย่างดี

โอกาสของการจัดสวนในบริเวณบ้าน

โอกาสที่จะจัดบ้านนั้น ขึ้นอยู่กับความสนใจ และเวลาที่มีอยู่ ซึ่งอาจจะแบ่งได้ คือ

1. การจัดสวนบ้านของเราเอง ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์แก่บ้านของเราเอง ควรพิจารณาต่อไปอีกว่า

ก. เป็นบ้านใหม่ยังไม่เคยตกแต่งมาก่อนเลย การพิจารณาวางแผนผังย่อมทำได้ง่าย ไม่ต้องคำนีงถึงสิ่งที่มีอยู่

ข. เป็นบ้านเก่า มีสิ่งก่อสร้างและพันธุ์ไม้ปลูกอยู่ก่อนแล้วการวางผังต้องพิจารณาเพื่อปรับปรุง เพิ่มเติมสิ่งที่มีอยู่แล้วให้น่าดูขึ้น นับว่าเป็นการยากลำบากที่จะจัดให้กลมกลืนกัน

ค. บ้านเก่าที่มีการตกแต่งมาก่อนแล้ว เพียงแต่ขาดการดูแลรักษามานาน จะต้องดูแลรักษาต่อไป โดยรื้อฟื้นของเก่าให้เด่นชัดขึ้น

ง. แก้ไขดัดแปลงบ้านเก่าที่ตกแต่งมาก่อนแล้ว แต่ไม่ถูกต้องเหมาะสมกับเวลา และการปฎิบัติงานดูแลรักษา เช่นมีเวลาน้อยจะต้องแก้ไขดัดแปลงใหม่ทั้งหมด

2. ใช้เวลาว่างของตนรับจ้างจัดสวนให้คนอื่น หากมีเวลาว่างจากงานประจำของเรา อาจใช้ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ที่เคยปฏิบัติมาแล้วเกี่ยวกับการจัดสวนบ้าน ออกรับจ้างหารายได้แก่เพื่อนบ้านอื่น ๆ ได้ เช่นเวลาพักร้อน หยุดงาน รับหยุดเสาร์-อาทิตย์ อาจขยายพันธุ์ไม้ขายด้วยก็ได้

3. หากว่าเรามีความรู้ความสามารถจนเป็นที่ยอมรับนับถือในผลงานของเราแล้ว อาจยึดการจัดสวนเป็นอาชีพได้เป็นอย่างดี

4. เป็นงานอดิเรก ที่อาจได้จะได้รับความเพลิดเพลิน เป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพของตนเอง ให้ความสุขความภาคภูมิใจในผลงานของเรา ไม่ว่าจะเป็นงานอดิเรกที่จัดในบ้านของเราเอง หรือการจัดให้บ้านญาติมิตรโดยไม่ขอรับค่าตอบแทนก็ตาม