ความสำคัญของไม้ประดับ

ปัจจุบัน เริ่มจะยอมรับกันทั่วไปแล้วว่า ต้นไม้โดยเฉพาะไม้ประดับมีความสำคัญต่อชีวิตประจำวัน และมีความสัมพันธ์กับมนุษยชาติอย่างใกล้ชิด แต่ความรู้ความเข้าใจในเรื่องบทบาทของต้นไม้ที่มีต่อชีวิตมนุษย์และคุณภาพ ของสิ่งแวดล้อมยังไม่แพร่หลายนัก

ความงดงามของธรรมชาติ ต้นไม้ใบหญ้า ความร่มรื่นร่มเย็นจากร่มไม้ใบพฤกษ์ สีสันและความหอมอันละเมียดละไมเหล่านี้มิใช่มีอยู่ในภาพวาด ภาพถ่าย เสียงเพลง คือจินตนาการจากในหนังสือวรรณคดีต่าง ๆ เท่านั้น สิ่งเหล่านี้เคยมีอยู่แล้วในธรรมชาติ หรืออาจเนรมิตจัดสร้างขึ้นมาได้ หากมนุษย์ประสงค์ที่จะให้มีขึ้น

มนุษย์กับธรรมชาติเป็นสิ่งเกื้อกูลซึ่งกินและกัน มาตั้งแต่สมัยบรรพกาลชนิดแยกกันไม่ได้ แต่มนุษย์ที่อวดอ้างตนเองว่าเป็นสัตว์ประเสริฐนั้นแหละ เป็นผู้ทำลายมิตรภาพจากผู้มีอุปการะคุณเสียเอง จะโดยตั้งใจหรือมิตั้งใจก็ตามที

ประชากรเพิ่มขึ้น ปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยก็ตามมา เรือกสวนไร่นาต้องแปรสภาพเป็นที่อยู่อาศัย การขยายถนนให้เพียงพอต่อการสัญจร จำเป็นต้องถมคูคลอง โค่นตัดต้นไม้ลง ป่าคอนกรีตผุดขึ้นมาแทนที่อย่างรวดเร็ว “เมื่อบรรยากาศในเมืองหมดความเป็นธรรมชาติก็ได้แต่ฝันถึงบรรยากาศชนบท” พยายามปลีกเวลาออกไปสัมผัสทุ่งนา ป่าเขาลำเนาไพร หรือชายทะเล ฯลฯ เพื่อเติมน้ำเติมฟืนหรืออัดแบตเตอรี่ให้เกิดกำลังในการประกอบกิจการงานกันอยู่เสมอ ผู้ที่มีที่ดินบริเวณบ้านกว้างขวางหน่อยและมีกำลังทรัพย์ก็สามารถเนรมิตธรรมชาติมาไว้ใกล้ ๆ ตัว “ยกน้ำตกหรือป่าเขาลำเนาไพร” เข้ามาไว้ในบ้าน กันเลยทีเดียว

เนื่องจากต้นไม้มีบทบาทต่อชีวิตมนุษย์และคุณภาพของสิ่งแวดล้อม จึงได้มีการปลูกต้นไม้นานาชนิด มีพืชผักสวนครัว ไม้ดอกไม้ประดับ เป็นอาทิขึ้น เพื่อช่วยผ่อนปรนคลี่คลายสภาวะแวดล้อม ที่มีส่วนสัมพันธ์กับชีวิตของมนุษย์ ให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น หากขาดต้นไม้ใบหญ้าตามบ้าน ตามถนนหนทางหรือสวนสาธารณะในเมืองเสียแล้ว ปัญหาต่าง ๆ อาจเกิดขึ้นในสิ่งแวดล้อม อันมีผลกระทบต่อมนุษย์เอง ทั้งทางตรงและทางอ้อม ได้แก่

-อากาศเป็นพิษ

-แสงสว่างจ้า, แสงสะท้อนจากกระจก, หรือโลหะสะท้อนแสง

-ความปรวนแปรของอุณหภูมิ

-การพังทลายของดิน

-แสงไฟจากรถยนต์ส่องหน้า

-แสงสว่างจากรถยนต์ส่องหน้า

-แสงสว่างจากศูนย์การค่าย่านชุมชนหนาแน่น

-พื้นที่บางแห่งไม่ได้ใช้ประโยชน์

-กองขยะหรือสิ่งรกรุงรังตามข้ามถนนหลวง

ปัญหาต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้นนี้ เป็นปัญหาที่เกิดจากความเจริญของบ้านเมือง ความแออัดของประชากรในเมืองใหญ่ ๆ ต้นไม้อาจแก่ปัญหาเหล่านี้ได้บ้าง หากรู้หลักพิจารณาเลือกต้นไม้ที่เหมาะสมมาปลูกให้ตรงกับวัตถุประสงค์ที่ต้องการจะแก้ปัญหานั้น ๆ เพราะต้นไม้นั้นเป็นเสมือนเครื่องปรับอากาศอย่างดีตามธรรมชาติ เนื่องจากต้นไม้ดูดก๊าชคาร์บอนไดอ็อกไซด์และขับสารพิษต่าง ๆ จากอากาศเข้าไปทางใบ เพื่อใช้ในขบวนการปรุงอาหารโดยการสังเคราะห์แสง และในขณะเดียวกันก็ปลดปล่อยอ๊อกซิเจน ออกมาทำให้อากาศบริเวณนั้น ๆ บริสุทธิ์สดชื่น การคายนํ้าของใบทำให้ไอน้ำออกมาสู่บรรยากาศ ซึ่งสามารถดูดซับฝุ่นละอองที่ฟุ้งอยู่ในบรรยากาศให้น้อยลง ใบไม้ถึงไม้รากไม้และเศษเหลือของพืชที่ร่วงหล่นตามพื้นดิน จะช่วยป้องกันการพังทะลายของดิน ป้องกันมิให้แม่นํ้าลำคลองสกปรกขุ่นข้น ต้นไม้ลดความรุนแรงของเสียง ในช่วงที่มีความถี่สูง ซึ่งเป็นอันตรายต่อโสต ประสาทของมนุษย์ เนื่องจากเกิดการปะทะทำ ให้เสียงกระจาย ลดความรุนแรงลงไปได้ ต้นไม้ที่ปลูกเป็นแนวเป็นฉากปิดบังสิ่งที่รกรุงรัง หรือกั้นพื้นที่ออกเป็นสัดส่วนได้โดยไม่รู้สึกอึดอัดใจ แสงไฟจากรถยนต์ที่วิ่งสวนกันบนถนนอาจปิดกั้นโดยการปลูกต้นเป็นรั้วหรือเป็นฉากกำบังกลิ่นเน่าเหม็นจากคูคลองใกล้บ้านอาจบรรเทาได้ด้วยการปลูกต้นไม้ดอกที่มีกลิ่นหอมสกัดกั้น แสงแดดที่ส่องหรือสะท้อนจากสระน้ำเข้าหน้าต่างบ้านหรือที่ทำงาน ก็อาจปิดบังได้ด้วยต้นไม้เช่นกัน