ลักษณะและคุณสมบัติของดิน

ดิน (Soils)
ความเจริญของอารยะธรรมขึ้นอยู่กับดิน ความเจริญในแง่การกินอยู่ดี ความมั่งมีของประชากร ความมีสุขภาพสมบูรณ์ ตลอดจนความรุ่งเรืองของเศรษฐกิจ เป็นผลสะท้อนมาจากดินทั้งทางตรงและทางอ้อม ถ้าดินดี อารยะธรรมในเขตนั้นก็จะเจริญรุ่งเรือง ในทางตรงกันข้าม ถ้าดินไม่ดี อารยะธรรมในเขตนั้นก็จะไม่เจริญก้าวหน้า ประชากรมักขาดแคลนอาหาร มีพลานามัยไม่สมบูรณ์ มีความยากจนและมีชีวิตที่ซบเซา ทั้งนี้เพราะดินเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สําคัญที่สุด คือดินเป็นแหล่งกำเนิดอาหาร พืชพรรณเกือบทุกชนิดขึ้นอยู่บนดินและได้ธาตุอาหารจากดิน สัตว์ส่วนใหญ่กินพืชพรรณนั้นเป็นอาหาร ในขณะเดียวกัน มนุษย์ก็กินทั้งพืชทั้งสัตว์เป็นอาหารอีกทอดหนึ่ง อาหารเหล่านี้ได้มาจากดิน ซึ่งก็หมายความว่า ดินเป็นแหล่งผลิตที่สำคญที่คํ้าจุนให้มนุษยดำรงชีวิตอยู่ได้

ดินคืออะไร (What is Soil ?)
ดินมีความหมายหลายอย่าง เช่น นักธรณีวิทยามองดินไปในแง่วัตถุธรรมชาติ ซึ่งเป็นผิวนอกสุดของเปลือกโลก ประกอบด้วยแร่ธาตุ และหินชนิดต่างๆ ซึ่งผุพังไปตามกาลเวลา ชั้นส่วนนอกสุดของเปลือกโลกนี้มีความสำคัญต่อนักธรณีวิทยา และผู้ประกอบกิจในอุตสาหกรรม เช่น การทำเหมืองแร่ เพราะเป็นแหล่งที่รวมของแร่ธาตุชนิดต่างๆ ซึ่งจัดเป็นทรัพยากรธรรมชาติชนิดหนึ่ง ดินจึงมีคุณค่าในด้านอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจโดยตรง
สำหรับวิศวกร ดินก็คือรากฐานชั้นต้นในการก่อสร้างอาคาร การสร้างถนน ถ้าดินไม่มีความแน่นหรือความแข็งตัวไม่คงทนต่อการรับน้ำหนักสิ่งก่อสร้างพอเพียง งานก่อสร้างก็จำเป็นต้องเสริมรากฐานให้แน่นหนาขึ้น
แต่บุคคลที่ให้คำจำกัดความของดินได้ถูกต้องที่สุดนั้นก็คือ นักปฐพีวิทยา ซึ่งมองดินไปในแง่ที่กว้างขวาง คือในแง่ที่จะก่อให้เกิดประโยชน์กับส่วนรวมได้มากที่สุด คือแง่ของการเพาะปลูกการผลิตอาหารเลี้ยงประชากร เนื่องจากนักปฐพีวิทยาเพ่งเล็งความสนใจไปทางด้านการเกษตร เขาจึงกำหนดคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของผิวนอกของเปลือกโลกไว้ว่า ถ้าจะเป็นดินแล้วจะต้องสามารถให้ต้นไม้พืชพรรณเจริญงอกงามอยู่ได้ โดยดินจะต้องให้การค้ำจุนลำต้นพืชให้ยืนอยู่ ที่สำคัญที่สุดต้องให้ธาตุอาหารต่างๆ อันเป็นประโยชนแก่พืชได้ด้วย ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ดินก็คือวัตถุที่เกิดขึ้นมาจากการสลายตัว การผุพังของแร่ธาตุและประกอบด้วย อนินทรีย์วัตถุ (minerals) อินทรีย์วัตถุ(organic matter) น้ำ และอากาศ การเกิดดินเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ใช้เวลานาน มีการแบ่งแยกชั้นดินต่างๆ เกิดขึ้น ชั้นบนสุด หรือที่เรียกว่าดินบนนั้น เป็นชั้นที่พืชขึ้นเจริญงอกงามอยู่ได้ดีที่สุด มีอินทรีย์วัตถุสูงสุด วัตถุที่จะเป็นดินได้นั้นจะต้องเกิดขึ้นมาจาก”ขบวนการสร้าง” เช่นการสร้างอนุภาคดินเหนียวชนิดต่างๆ “ขบวนการทำลาย” เช่น การย่อยหิน กรวด ให้มีขนาดเล็กลงเป็นทรายละเอียดและ “ขบวนการทางชีวเคมี” ซึ่งทำโดยจุลินทรีย์และสิ่งมีชีวิตต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในดิน ถ้าขาดขบวนการทั้งสามนี้ ดินจะเกิดขึ้นไม่ได้
ดินบางแห่งมีความอุดมสมบูรณ์และความสามารถในการให้ผลผลิตแก่พืชได้ดี โดยการช่วยเหลือและการจัดการเพียงเล็กน้อยของมนุษย์ แต่ดินบางชนิดก็ไม่สามารถให้ผลผลิตและประโยชน์ต่อพืชเลยทั้งนี้ต้องได้รับการพัฒนา การบำรุงรักษาและการดัดแปลงจากมนุษย์เช่นการใส่ปุ๋ย การให้น้ำชลประทาน การระบายน้ำ หรือการใส่ปูนปรับปรุงเพื่อให้ได้มาซึ่งความสามารถที่จะช่วยให้พืชเจริญงอกงามได้ตามความต้องการ

ลักษณะและคุณสมบัติทั่วไปของดิน (General Characteristics and Properties of Soils)
ดินเป็นเทหวัตถุที่มีส่วนประกอบสลับซับซ้อน มีสีสรร และคุณสมบัติแตกต่างกันมากมาย นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการศึกษาค้นคว้าส่วนประกอบของดินว่า ประกอบด้วยอะไรบ้าง ศึกษาความละเอียดหรือหยาบของเนื้อดิน ศึกษาโครงสร้างของดิน ศึกษาปฎิกริยาหรือความเป็นกรดเป็นด่างของดิน ศึกษาถึงคุณสมบัติของดินชนิดต่างๆ ที่มีต่อพืช แล้วจัดดินเป็นหมวดหมู่ เพื่อสะดวกแก่การใช้ประโยชน์ หรือการศึกษาค้นคว้าต่อไป

ที่มา:กรมวิชาการเกษตร