ชะมวง
เป็นไม้ยืนต้นสูงประมาณ 15-20 เมตร พบมากในเขตภาคอีสาน เรือนยอดเป็นปุ่มรูปกรวยคว่ำ เปลือกสีน้ำตาลเทาเข้ม ใบอ่อนมีสีแดงอมเหลือง ใบแห้งสีน้ำตาลอ่อนแกมชมพู ดอก มีกลิ่นหอม แยกเพศ ใบมีรสเปรี้ยวจัด ผลสีส้ม ลักษณะค่อนข้างกลมคล้ายผลมังคุดผลแห้งสีดำ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 ซม. มีเมล็ดสีส้มฝังอยู่ในเนื้อผล
ประโยชน์ทางอาหาร
ใบชะมวงที่มีรสเปรี้ยวนี้ อุดมด้วยเบต้าแคโรทีน วิตามินบี 1 รวมทั้งแคลเซียม เหล็ก และฟอสฟอรัส เมื่อทานพร้อมเนื้อสัตว์จะทำให้ร่างกายสามารถนำสารอาหารเหล่านี้ไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้วิตามินซีในใบชะมวงยังช่วยให้ดูดซึมเหล็กได้ดีขึ้น ซึ่งส่งผลให้ร่างกายมีเม็ดเลือดแดงมากพอที่จะลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย วิตามินซียังช่วยให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรงไม่แตกง่าย ทำให้เหงือกแข็งแรง ไม่เป็นโรคเลือดออกตามไรฟัน
ใบอ่อนและยอดนำมาใช้แทนส้ม หรือกินกับลาบ ก้อย และยังใช้เป็นส่วนประกอบของผงนัวได้อีกด้วย ส่วนใบตากแห้งนำมาชงดื่มเหมือนชา เป็นยาบำรุงหัวใจ ทำให้การหมุนเวียนเลือดดีขึ้น
คุณค่าทางยา
ใช้ใบและผลกินเป็นยาระบายกัดฟอกเสมหะ แก้ธาตุพิการ
ราก ใช้ผสมเป็นยาแก้ไข้
การขยายพันธุ์
เพาะเมล็ด ทำได้ 2 วิธี
1. เลือกผลแก่เต็มที่ มีสีเหลืองอมส้ม แกะเปลือกออก เอาส่วนเนื้อของเมล็ดออกด้วยการนำไปคลุกกับทราย แล้วใช้มือขยี้บนตาข่ายสีเขียวจนเนื้อหลุด นำเมล็ดไปล้างให้สะอาด ผึ่งลมให้แห้งในที่ร่ฝ 7-15 วัน ไม่ควรตากแดด เพราะจะทำให้เมล็ดฝ่อ แล้วหว่านลงในแปลงโดยตรง นำทรายหรือแกลบดำกลบ ใช้ฟ่างแห้งหรือหญ้าคลุมทับเพื่อรักษาความชื้น รดน้ำทุกเช้า-เย็น เมล็ดจะงอกเป็นต้นกล้าภายใน 3 เดือน เมื่อแตกใบแท้ 2-4 ใบ ย้ายลงถุงเพาะชำ ผสมหน้าดินหรือดินขุยไผ่ผสมแกลบดำ เมื่อต้นกล้าอายุ 3-4 เดือน ต้นจะสูงประมาณ 6-10 นิ้ว ย้ายไปปลูกได้
2. เพาะเมล็ดในถุงโดยตรงทำให้เติบโตเร็ว ไม่แคระแกร็น เพาะในถุงขนาด 2×6 นิ้ว เจาะรูระบายน้ำด้านข้างใส่ดินร่วนปนทราย หรือดินเหนียวและแกลบดำ 3:1 เก็บในเรือนเพาะชำ รดน้ำให้ชุ่ม แล้วฝังเมล็ดลงดิน รดน้ำทุกวัน 8-10 เดือน ย้ายไปปลูกได้
ราคาตลาด กิโลกรัมละ 40 บาท
(กลุ่มเกษตรอินทรีย์สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา)