ดินหรือเครื่องปลูกที่ใช้ปลูกไม้กระถาง

ไม้กระถางนั้นเป็นไม้ที่มีรากออกไปหากินในดินที่อยู่ในพื้นที่จำกัด ไม่เหมือนไม้ที่ปลูกลงบนพื้นดิน ดังนั้นดินที่ปลูกจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก ถ้าหากเป็นดินที่มีแร่ธาตุอาหารหรือปุ๋ยน้อย ไม่นานไม้กระถางต้นนั้นก็จะขาดอาหาร เป็นโรคขาดอาหาร หรือแคระแกร็นจนตายได้ในที่สุด หากมีปุ๋ยหรืออาหารมากไปก็อาจงามมากเกินไปจนไม่งดงามและได้สัดส่วนกับกระถาง หรืออาจจะงามมากเกินไปจนไม่มีดอกเลย โดยเฉพาะไม้กระถางที่เป็นไม้ดอก หากดินมีอินทรีย์วัตถุมากไปดูดอุ้มนํ้าไว้มากก็อาจทำให้ต้นไม้ในกระถางเน่าตาย ได้ หากดินในกระถางแน่นเกินไปการระบายนํ้าในกระถางไม่ดี เวลารดน้ำ น้ำก็จะขังท่วมอยู่ที่ปากกระถาง ดินในกระถางก็จะยิ่งแน่นเข้า ต้นไม้ในกระถางต้นนั้นก็ไม่เจริญเท่าที่ควร ดังนั้นดินที่จะใช้ปลูกไม้กระถางนั้นจึงมีส่วนสัมพันธ์กับกระถาง และต้นไม้ด้วยคือ ขนาดของกระถางใหญ่เล็กแค่ไหน ลักษณะวัสดุที่ท่ากระถางเป็นอย่างไร เป็นกระถางเคลือบหรือไม่ เพราะการเคลือบกระถางจะทำให้การระเหยนํ้า ออกจากกระถางยากขึ้น จะทำให้ดินในกระถางเคลือบนั้น เปียกแฉะอยู่ได้นาน ถ้าหากต้นไม้ที่ปลูกในกระถางนั้นเป็น ต้นไม้พวกชอบดินเปียกแฉะก็จะงดงามเจริญดี แต่ถ้าเป็นต้นไม้ที่ไม่ชอบดินเปียกแฉะอย่างนั้นต้นไม้นั้นก็อาจเน่าตายได้ไม่ช้า ดังนั้นหลักการในการใช้ดินหรือเครื่องปลูกไม้กระถางนั้น จึงคำนึงถึงลักษณะและชนิดของพันธุ์ไม้ที่จะ ปลูกในกระถางเป็นสำคัญ ตัวอย่างพวกต้นไม้ที่มีถิ่นจากทะเลทรายเช่นพวกกระบองเพ็ชร หรือพวกซัคคิวเร้นท์ ก็ควรเป็นดินที่มีเครื่องปลูกที่ระบายนํ้าได้ดี ส่วนพันธุไม้ที่ชอบนํ้ามากก็ใช้ดินปลูกเครื่องปลูกที่มีอินทรีย์วัตถุมากหน่อย ส่วนพันธุ์ไม้ที่มีรากอากาศเช่นพวกกล้วยไม้ก็ต้องใช้เครื่องปลูกโปร่ง ๆ เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้ง่าย หลักสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือการใช้ดินผสมที่ปลูกไม้กระถางนั้น ไม่ควรจะมีปุ๋ยมากนัก แต่เมื่อปลูกไปนาน ๆ เข้าก็ใช้วิธีเพิ่มปุ๋ยในกระถางให้โดยใช้ปุ๋ยนํ้ารดหรือให้ปุ๋ยทางใบภายหลัง จะปลอดภัยและดีกว่า

ข้อควรระวังอีกประการหนึ่งก็คือถ้าหากสังเกตเห็นต้นไม้ในกระถางแพ้ปุ๋ยเพราะใส่ปุ๋ยมากไป ให้แช่กระถางในนํ้าเพื่อให้ปุ๋ยในกระถางเจือจางลง หรือจะใช้วิธีรดนํ้ามาก ๆ เป็นการล้างปุ๋ยก็ได้ ประการสำคัญอันดับรองลงไป ก็คือ คอยตรวจดูความชุ่มชื้นในกระถางเสมอ ๆ เพราะไม้กระถางบางชนิดหากไม่รดนํ้าเพียงวันเดียวก็จะเหี่ยวเฉา หรือตายได้ โดยเฉพาะดินที่ระบายนํ้าได้ดีและตั้งประดับนอกอาคาร ส่วนไม้กระถางในอาคารนั้นจะมีปัญหาตรงที่ดิน ในกระถางแฉะเท่านั้น เพราะการระเหยนํ้ามีน้อยกว่า หากเห็นนํ้าไม่ยอมซึมลงในดินในกระถางให้ใช้ไม้เล็ก ๆ แทงดินในกระถางให้เป็นรู นํ้าก็จะซึมลงในรูระบายออกไปจากกระถางได้ หรือถ้ายังไม่ระบายนํ้าออกก็ให้ตรวจดูก้นกระถาง ว่ารูก้นกระถางตันหรือเปล่า ถ้าอุดต้นก็ใช้ไม้ดันหรือแทงรูก้นกระถางจากข้างนอกเข้าไปเล็กน้อยนํ้าก็จะไหลออกมาเอง ไม้กระถางที่ตั้งบนพื้นในอาคารและมีจานรองก้นกระถางนั้นไม่ควรใส่นํ้าในจานรองกระถางจนเต็ม จานรองนั้นมีไว้รับนํ้าที่รดในกระถางแล้วไหลออกมาเท่านั้น เพื่อมิให้เกิด ความเสียหายแก่พื้นได้