น้ำสมุนไพรไทย เป็นเครื่องดื่มที่อยู่คู่กับครัวคนไทยมาช้านานแล้ว ถึงแม้ว่าช่วงหนึ่งความนิยมจะลดลงไป จากการเข้ามาแทนที่ของเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลม แต่ด้วยรสชาติที่ยังคงโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของสมุนไพรแต่ละชนิด และที่สำคัญสรรพคุณที่เป็นยาของสมุนไพรแต่ละอย่าง น้ำสมุนไพรจึงเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยบำรุงสุขภาพ ใช้เป็นเครื่องดื่มเพื่อปรับธาตุในร่างกายให้สมดุลสอดคล้องกับฤดูกาล และยังใช้ดื่มรักษาโรคบางอย่างได้
ด้วยเหตุนี้เครื่องดื่มสมุนไพรจึงกำลังกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งหนึ่ง จนมีผู้ประกอบการรายเล็กรายใหญ่ ทำน้ำดื่มสมุนไพรบรรจุขวด บรรจุกล่องออกมาจำหน่ายหลากหลายยี่ห้อ หรือทำเป็นสมุนไพรบรรจุซอง สำหรับใช้ชงเป็นชาสมุนไพรด้วยเช่นกัน ซึ่งน้ำสมุนไพรสำเร็จรูปเหล่านี้ มีผู้ผลิตหลายรายที่มีการใส่สารปรุงแต่งทั้งน้ำตาล ปรุงแต่งกลิ่น ปรุงแต่งสี หรือสารกันบูด ซึ่งสารต่าง ๆ เหล่านี้ส่วนใหญ่ล้วนเป็นสารสังเคราะห์ ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายบางครั้งอาจเป็นโทษด้วย
การทำน้ำสมุนไพรดื่มเอง โดยดื่มทันทีเมื่อทำเสร็จใหม่ ๆ จะมีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าทำเก็บไว้นาน ๆ เราเองก็สามารถทำน้ำสมุนไพรดื่มเองได้ง่าย ๆ จากสมุนไพรใกล้ตัว ที่มีอยู่รอบ ๆ บ้าน หรือพืชสมุนไพรที่ใช้ประกอบอาหาร อย่างเช่น น้ำใบเตย น้ำตะไคร้ น้ำขิง น้ำมะตูม น้ำว่านหางจระเข้ น้ำรางจืด เป็นต้น
น้ำขิง-แก้ไอ บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อจุกเสียด
น้ำขิงเป็นน้ำสมุนไพรที่ได้จากเหง้าขิงแก่สดมาต้มกับน้ำใช้ดื่ม
สรรพคุณ
ช่วยให้เจริญอาหาร บำรุงธาตุ ขับลม แก้คลื่นไส้ อาเจียน ไอ หอบ แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ และปวดท้อง
ส่วนผสม
ขิงแก่ 1 แง่ง
น้ำ 1 ลิตร
น้ำตาลทรายตามชอบ
วิธีทำ
1. นำเหง้าขิงมาล้างน้ำให้สะอาดทุบพอแหลกตั้งน้ำให้เดือด
2. เอาขิงลงต้นให้เดือด กรองเอากากออก
3. ถ้าต้องการหวานก็เติมน้ำตาล ชิมรสตามต้องการ รีบยกลง กรองใส่ขวดที่นึ่งแล้ว 20-30 นาที ตั้งทิ้งไว้เก็บใส่ตู้เย็น เก็บไว้ดื่มได้นาน
การต้มน้ำขิงถ้าเดือดนานเกินไปกลิ่นหอมของขิง ซึ่งเป็นน้ำมันหอมระเหยจะระเหยออกไปหมด ทำให้น้ำขิงที่ได้ไม่มีกลิ่นหอมชวนดื่ม
ปัจจุบันมีการนำเหง้าขิงมาตากให้แห้ง แล้วบดเป็นผงบรรจุขวดใช้ชงเป็นชาสมุนไพรได้เช่นเดียวกัน
น้ำตะไคร้-บรรเทาอาการไข้หวัด ขับเหงื่อ ขับลม ขับปัสสาวะ
นิยมนำตะไคร้แกงแก่ ๆ สดทั้งต้นและใบมาทุบให้แตกแล้วต้มกับน้ำดื่มเป็นยาสมุนไพร
สรรพคุณ
ช่วยบรรเทาอาการไข้หวัด ขับเหงื่อ ขับลม ขับปัสสาวะได้ดี
ส่วนผสม
ตะไคร้ 2-3 ต้น
น้ำสะอาด 2-3 ถ้วย
น้ำตาลทรายแดงตามชอบ
วิธีทำ
1. นำต้นตะไคร้ ตัดใบออก แล้วล้างน้ำให้สะอาด
2. ตัดเป็นท่อนสั้น ๆ ทุบพอแตก ใส่หม้อเติมน้ำ ตั้งไฟพอเดือด กรองเอาแต่น้ำ
3. ถ้าต้องการหวานให้เติมน้ำตาลนิดหน่อย นำน้ำสมุนไพรตั้งไฟให้เดือดประมาณ 3 นาที ยกลง
4. กรองใส่ขวดที่นึ่งแล้ว 20-30 นาที เย็นแล้วเก็บใส่ตู้เย็น จะได้น้ำตะไคร้สีเหลืองอมเขียวอ่อน ๆ ใส มีกลิ่นหอมตะไคร้
ปัจจุบันนิยมนำตะไคร้มาหั่นเป็นฝอยนำไปตากแห้งแล้วชงเป็นชาดื่มร้อนก็ได้เช่นกัน
น้ำบัวบก-แก้เจ็บคอ กระหายน้ำ ทำให้สดชื่น ลดความดันโลหิตสูง
น้ำบัวบก เป็นน้ำสมุนไพรที่ได้จากใบบัวบกสด ตำให้ละเอียดต้มผสมกับน้ำจะได้น้ำสมุนไพรกลิ่นหอมชื่นใจ
สรรพคุณ
แก้เจ็บคอ กระหายน้ำ แก้ช้ำใน ทำให้สดชื่น ลดความดันโลหิตสูง
ส่วนผสม
ใบบัวบก 2 ถ้วย
น้ำสะอาด 2 ถ้วย
น้ำเชื่อมตามชอบ
น้ำแข็ง
วิธีทำ
1. นำใบบัวบกที่สด ๆ ใหม่ ๆ ล้างน้ำให้สะอาด
2. นำมาสับหรือตำให้ละเอียด
3. กรองด้วยผ้าขาวบาง เติมน้ำเชื่อมพอหวาน ชิมรสตามใจชอบ จะได้น้ำใบบัวบกสีเขียวใสน่ารับประทานหรือจะใส่น้ำแข็ง ลงไปก็ได้
น้ำเตยหอม-บำรุงหัวใจ ทำให้ชุมชื่น
น้ำเตยหอมเป็นน้ำสมุนไพรที่ทำจากใบสดของใบเตยหอมที่ไม่อ่อนไม่แก่เกินไป นำมาต้มกับน้ำหรือนำใบเตยสดไปหั่นเป็นฝอย ๆ ตากแดดหรืออบให้แห้งเก็บไว้ชงเป็นน้ำชาใบเตย
สรรพคุณ
ช่วยบำรุงหัวใจ ทำให้ชุ่มชื่น ช่วยขับปัสสาวะ
ส่วนผสม
ใบเตย 3 ถ้วย
น้ำสะอาด 8 ถ้วย
น้ำตาลทรายแดงตามชอบ
วิธีทำ
1. ใบเตยสดที่ไม่แก่มากเก็บใหม่ ๆ ล้างทีละใบให้สะอาด
2. นำมาหั่นตามขวางเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงในหม้อที่มีน้ำกำลังต้มเดือด ต้มเคี่ยว 5-10 นาที
3. ถ้าชอบหวานให้เติมน้ำตาลทราย กรองเอากากออก จะได้น้ำใบเตยหอมไว้รับประทาน หรือจะเติมน้ำแข็งลงไปใช้ดื่มก็ได้ หรือจะชงเป็นชาดื่มร้อน ๆ เพื่อสุขภาพก็ดีทีเดียว
น้ำมะขาม-แก้ท้องผูก เป็นยาระบาย แก้ไอ ขับเสมหะ
น้ำมะขามเป็นน้ำสมุนไพรที่ได้จากเนื้อมะขามเปียกใหม่ ๆ ที่แกะออกจากฝักมาละลายต้มน้ำ ซึ่งจะได้น้ำสมุนไพรที่มีคุณภาพดี
สรรพคุณ
แก้ท้องผูก เป็นยาระบาย แก้ไอ ขับเสมหะ ช่วยลดอุณหภูมิในร่างกาย ลดการกระหายน้ำ
ส่วนผสม
น้ำมะขามเปียกใหม่ ๆ 200 กรัม
น้ำตาลทรายตามชอบ
เกลือป่นตามชอบ
น้ำ 3 ลิตร
วิธีทำ
1. ล้างเนื้อมะขามเปียก ให้สะอาดแล้วนำไปใส่ลงในหม้อเคลือบ เติมน้ำ ยกขึ้นตั้งไฟ พอเดือดคนให้เนื้อมะขามผสมกับน้ำให้มากที่สุดแล้วยกลง
2. จากนั้นกรองเอาแต่น้ำใส่หม้อเคลือบ เอากากทิ้งไป ยกขึ้นตั้งไฟอีกครั้ง พอเดือดใส่น้ำตาล เกลือ ตามใจชอบ คนให้ละลาย เดือดสักครู่ ยกลงจากเตา
3. ตั้งทิ้งไว้ให้เย็น แล้วกรองใส่ขวด (ต้องนึ่งขวดก่อน)แล้วเก็บไว้ในตู้เย็น
4. เวลารับประทานจะเติมน้ำแข็งก็ได้ ใช้เป็นเครื่องดื่มดับกระหายได้
น้ำมะนาว-แก้ไอ ขับเสมหะ ขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ
น้ำมะนาว เป็นน้ำสมุนไพรที่ใช้น้ำมะนาวสด ๆ บีบออกจากผลของมะนาวผสมกับน้ำต้ม จะได้น้ำสมุนไพรเอาไว้ดื่ม ชุ่มคอดีทีเดียว
สรรพคุณ
แก้ไอ ขับเสมหะ แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้กระหาย แก้ร้อนใน บำรุงธาตุ เจริญอาหารและแก้เลือดออกตามไรฟันหรือโรคลักปิดลักเปิด
ส่วนผสม
น้ำมะนาวสด ๆ 1 ถ้วย
น้ำตาลทรายตามชอบ
เกลือป่นตามชอบ
น้ำสะอาด
วิธีทำ
1. ทำน้ำเชื่อมก่อน โดยผสมน้ำตาลและน้ำ ตั้งไฟให้ละลาย ทิ้งให้พออุ่น ๆ
2. จากนั้นใส่น้ำมะนาว เกลือลงในน้ำเชื่อมแล้วคนให้เกลือละลาย
3. จะรับประทานแบบอุ่น ๆ หรือใส่น้ำแข็งลงไปก็ได้
น้ำบัว-แก้ท้องร่วง แก้ร้อนใน กระหายน้ำ บำรุงกำลัง
น้ำบัวเป็นน้ำสมุนไพรที่ได้จากรากบัวต้มกับน้ำ ใช้ดื่มเป็นน้ำสมุนไพรดับกระหาย
สรรพคุณ
แก้ท้องร่วง แก้ร้อนใน กระหายน้ำ ขับเสมหะ บำรุงกำลัง
ส่วนผสม
รากบัว 2 ถ้วย
น้ำสะอาด 3 ถ้วย
น้ำตาลทรายแดงตามชอบ
วิธีทำ
1. นำรากบัวมาล้างน้ำให้สะอาดแล้วฝานเป็นชิ้นบาง ๆ
2. นำไปต้มกับน้ำ จากนั้นเคี่ยวจนกระทั่งได้น้ำเป็นสีชมพูแล้วกรองเอากากทิ้งไป
3. ถ้าชอบหวานเติมน้ำตาลทรายนิดหน่อย ตั้งไฟให้เดือด ชิมรสชาติตามใจชอบ ยกลงตั้งทิ้งไว้ให้เย็น
4. แล้วบรรจุใส่ขวดที่นึ่งแล้วประมาณ 20-30 นาทีแล้วเก็บไว้ในตู้เย็น จะได้น้ำรากบัวสีชมพู รสหวานเย็น
น้ำรางจืด-ถอนพิษเบื่อเมา ถอนไข้ พิษทั้งปวง
น้ำรางจืด เป็นน้ำสมุนไพรที่ได้จากใบรางจืดที่แก่ปานกลางต้มกับน้ำ หรือได้จากใบรางจืดมาหั่นเป็นฝอย ๆ แล้วนำไปตากแดดหรืออบให้แห้งแล้วนำมาชงเป็นชาสมุนไพรรางจืดได้เช่นกัน
สรรพคุณ
ใช้ถอนพิษเบื่อเมา ถอนพิษไข้และพิษทั้งปวง
ส่วนผสม
ใบรางจืดสด 1 กำมือ
น้ำเปล่า 3 ถ้วย
วิธีทำ
1. นำใบรางจืดมาล้างน้ำให้สะอาดหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่น้ำลงไปต้มเคี่ยวไปเรื่อย ๆ นานประมาณ 10 นาที ยกลงตักเอาน้ำรางจืดมาดื่มร้อน ๆ
2. ส่วนที่เหลือเก็บไว้ต้มเคี่ยวในวันต่อไปจนกว่าน้ำสมุนไพรจะหมด
วิธีการชงชา
นำใบรางจืดแห้ง 1 หยิบมือมาใส่ในแก้วเทน้ำร้อนที่ต้มจนเดือดลงแก้วทิ้งไว้สักครู่ ให้ตัวยาละลายรอสักพักแล้วจึงดื่ม
น้ำว่านกาบหอย-แก้ร้อนใน กระหายน้ำ ฟกช้ำภายใน
น้ำว่านกาบหอยเป็นน้ำสมุนไพรที่ได้จากใบนำมาต้มกับน้ำ ดื่มแก้ร้อนใน
สรรพคุณ
แก้อาการร้อนใน กระหายน้ำ ฟกช้ำภายใน
ส่วนผสม
ใบว่านกาบหอย 5-15 ใบ
น้ำสะอาด 2 ½ ถ้วย
น้ำตาลทรายตามชอบ
วิธีทำ
1. ใบว่านกาบหอยสดมาล้างน้ำให้สะอาด
2. จากนั้นหั่นตามขวางให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ
3. ใส่ลงในหม้อน้ำเดือด ต้มให้เดือด 3-7 นาที เติมน้ำตาลทรายพอหวาน กรองเอากากทิ้งไป
4. จะได้น้ำว่านกาบหอยสีชมพูอ่อนแล้วกรองใส่ขวดที่นึ่งแล้ว 20-30 นาที เย็นแล้วเก็บใส่ตู้เย็นเก็บไว้ดื่มได้หลายวัน
น้ำว่านหางจระเข้-บำรุงร่างกาย ทำให้สดชื่น กระปรี้ประเปร่า
น้ำว่านหางจระเข้เป็นน้ำสมุนไพรที่ได้จากวุ้นของหางจระเข้ผสมกับน้ำต้มเอาไว้ดื่มเหมาะสำหรับคนนอนดึกอ่อนเพลีย ดื่มแล้วทำให้ร่างกายสดชื่น กระปรี้กระเปร่า
สรรพคุณ
บำรุงร่างกาย ทำให้สดชื่น กระปรี้กระเปร่า ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีท้องไม่ผูก
ส่วนผสม
ใบว่านหางจระเข้ 2 ใบ
น้ำต้มสุก 1 ถ้วย
น้ำเชื่อมตามชอบ
วิธีทำ
1. เลือกใบว่านหางจระเข้ที่มีขนาดใหญ่ โตเต็มที่ ปอกเปลือกล้างน้ำให้หมดยางสีเหลือง
2. แล้วนำไปใส่เครื่องปั่น เติมน้ำต้มสุก ปั่นให้ละเอียด
3. กรองด้วยผ้าขาวบาง เติมน้ำเชื่อมเล็กน้อย ใส่ขวด(ที่นึ่งแล้ว)
4. เก็บไว้ในตู้เย็น ควรเตรียมดื่มไม่เกิน 2 วัน
น้ำข่า-รักษาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด
ข่าเป็นพืชสมุนไพรในครัวที่สามารถนำมาทำเป็นน้ำสมุนไพร โดยใช้เหง้าข่าแก่มาต้มกับน้ำ ใช้ดื่มร้อน ๆ
สรรพคุณ
รักษาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด ขับลมในลำไส้
ส่วนผสม
เหง้าข่าแก่สดหรือแห้ง 15 แว่น
น้ำ 1 ลิตร
วิธีทำ
1. นำเหง้าข่ามาล้างน้ำให้สะอาด
2. หั่นเป็นแว่นบาง ๆ ตั้งน้ำให้เดือด ใส่ข่าลงไป ต้มต่อไปอีก 5-10 นาที ยกหม้อลง
3. ตักเอาแต่น้ำข่ามาดื่มร้อน ๆ ส่วนที่เหลือเก็บเอาไว้เคี่ยวใหม่ดื่มต่อไปจนกว่าน้ำจะหมด
น้ำมะตูม-แก้ร้อนใน บำรุงธาตุ ช่วยเจริญอาหาร
น้ำมะตูม เป็นน้ำสมุนไพรที่ได้จากผลอ่อนของมะตูมมาฝานบาง ๆ แล้วตากแห้ง นำมาต้มกับน้ำ หรือนำมะตูมแห้งไปบดเป็นผง นำมาชงเป็นชามะตูมได้เช่นกัน
สรรพคุณ
เป็นยาบำรุงธาตุ ช่วยให้เจริญอาหาร กินข้าวได้ แก้บิด แก้ร้อนใน ช่วยขับลม
ส่วนผสม
มะตูมแห้ง 3-5 แผ่น
น้ำ 7 ถ้วย
น้ำตาลตามชอบ
วิธีทำ
1. นำมะตูมมาย่างไฟให้หอม ตั้งน้ำให้เดือด นำมะตูมมาใส่ลงไปในหม้อต้มนานประมาณ 30 นาที
2. ตักเนื้อมะตูมออกใส่น้ำตาลปรุงรสตามชอบ พอน้ำตาลละลายยกหม้อลง
3. นำน้ำมะตูมกรองผ้าขาวบางตักใส่ขวดเก็บไว้ในตู้เย็น เก็บไว้ดื่มได้นานขึ้น
วิธีการชงชา
ให้ใช้ผงมะตูม 1 ช้อนชา ละลายในน้ำร้อน 1 แก้ว ทิ้งไว้สักครู่ แล้วดื่มร้อน ๆ
น้ำหญ้าปักกิ่ง-ต้านโรคมะเร็ง โรคภูมิแพ้ และโรคเบาหวาน
น้ำหญ้าปักกิ่ง เป็นน้ำสมุนไพรที่ได้จากการใช้ทั้งต้นทั้งรากที่สด ๆ นำมาผสมกับน้ำต้ม เอาไว้ดื่มเพื่อสุขภาพ
ส่วนผสม
หญ้าปักกิ่ง 3 ต้น
เกลือ
น้ำสะอาด
วิธีทำ
1. นำหญ้าปักกิ่งทั้งต้นทั้งรากที่สด ๆ ใหม่ ๆ ล้างน้ำให้สะอาด
2. แล้วนำน้ำเกลือโดยผสมน้ำเกลือ 1 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 1 กะละมังเล็ก(1 ลิตร) แช่ทิ้งไว้เพื่อฆ่าเชื้อต่าง ๆ
3. นำหญ้าปักกิ่งมาล้างน้ำสะอาดอีกครั้ง จากนั้นนำมาตำให้ละเอียดในครกดินเผาหรือครกไม้ (ควรเป็นครกใหม่)
4. เติมน้ำต้มสุกแล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง จะได้น้ำนั้นเอาไว้ดื่ม
หมายเหตุ
การทำน้ำหญ้าปักกิ่งสด ควรดื่มให้หมดในแต่ละครั้ง ไม่ควรทำค้างไว้ เพราะอาจทำให้สรรพคุณของยาเสื่อมได้ ผู้ใหญ่กินครั้งละ 2 ช้อนโต๊ะ วันละ 2 ครั้ง ก่อนอาหารตอนเช้าครึ่งชั่วโมง และก่อนเข้านอนอีก 1 ครั้ง สำหรับเด็กครั้งละ ½ – 1 ช้อนโต๊ะ(ของแสลงต้องห้ามได้แก่ แตงกวา หน่อไม้ ผักบุ้ง ปลาเค็ม และเนื้อวัว)
น้ำหนุมานประสานประกาย-แก้อาการหอบหืด ไอเรื้อรัง แพ้อากาศ และเกสรดอกไม้
น้ำหนุมานประสานกาย เป็นน้ำสมุนไพรที่ได้จากใบสดมาต้มกับน้ำ ดื่มแก้หอบหืดได้ดี
สรรพคุณ
แก้อาการหอบหืด แก้ไอเรื้อรัง แพ้อากาศ และเกสรดอกไม้
ส่วนผสม
ใบหนุมานประสานกายสด 15 ใบ
น้ำสะอาด ½ ลิตร
วิธีทำ
นำใบหนุมานประสานกายต้มกับน้ำสะอาดแล้วดื่มต่างน้ำ หรือดื่มวันละหนึ่งครั้ง แก้หวัด และหอบหืด
ชาขี้เหล็ก-ช่วยเจริญอาหาร ช่วยให้นอนหลับ
ชาขี้เหล็กเป็นชาสมุนไพรที่ใช้ใบขี้เหล็ก เลือกใบขนาดกลางถึงใบค่อนข้างแก่(ปริมาณตามต้องการ)
สรรพคุณ
เป็นยาระบายอ่อน ๆ ช่วยเจริญอาหาร ช่วยให้นอนหลับสบาย แต่ไม่ควรใช้ติดต่อกันประจำนาน ๆ ใช้ดื่มเมื่อมีอาการ
วิธีทำ
1. คัดเลือกเอาใบขี้เหล็กที่มีอายุขนาดพอเหมาะ ล้างให้สะอาด
2. นำไปตากแดดให้แห้ง
3. คั่วให้หอมด้วยไฟอ่อนหรืออบโดยใช้ไฟขนาดกลางให้แห้ง
4. เก็บใส่ขวดโหล ปิดฝาให้มิดชิด
วิธีใช้
ขี้เหล็กสัก 1 หยิบมือใส่แก้วเทน้ำร้อนต้มเดือดลงไป ทิ้งไว้สักครู่ให้น้ำร้อนสกัดตัวยาออกมา จากนั้นจึงดื่ม
ชาดอกคำฝอย-บำรุงเลือด ขับระดู ขับเหงื่อ ระงับประสาท
โดยทั่วไป จะนิยมนำดอกคำฝอยแห้งมาชงเป็นชาแล้วจะดื่มร้อน ไม่นิยมไปต้มเป็นน้ำดอกคำฝอยสมุนไพร
สรรพคุณ
เป็นยาระบาย ขับเหงื่อ ระงับประสาท บำรุงเลือด ขับระดู ระงับอาการปวดในสตรีที่รอบเดือนมาไม่ปกติ บำรุงคนที่เป็นอัมพาต โรคดีซ่าน โรคไขข้ออักเสบ
ส่วนผสม
ดอกคำฝอยแห้ง 1 กรัม
น้ำต้มสุก 1 ถ้วย
วิธีทำ
1. เลือกดอกคำฝอยใหม่ ๆ จะมีสีแดงสด มีกลิ่นหอม ถ้าเป็นดอกที่เก่าเก็บสีแดงอมน้ำตาลกลิ่นไม่หอม
2. ชงด้วยน้ำเดือด ปิดฝาทิ้งไว้ 3-5 นาที กรองด้วยผ้าขาวบาง จะได้น้ำดอกคำฝอยสีเหลืองส้มดื่มร้อน ๆ
ชาชุมเห็ดเทศ-แก้ท้องผูก เป็นยาระบาย
ชาชุมเห็ดเทศได้จากใบชุมเห็ดเทส ขนาดไม่อ่อนและแก่เกินไป จำนวนมากตามต้องการที่ใช้ แต่ควรเก็บใบก่อนออกดอก ทำให้ได้ชาสมุนไพรที่มีคุณภาพดี
สรรพคุณ
ใช้เป็นยาระบาย แก้ท้องผูก ควรใช้เมื่อเกิดอาการท้องผูก หรือจำเป็นต้องใช้เท่านั้น ถ้าใช้ติดต่อกันระยะยาวจะทำให้ลำไส้เคยชินกับยาจะขับถ่ายเองไม่ได้
วิธีทำ
1. นำใบชุมเห็ดเทศไปล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำไปตากแดดให้แห้ง
2. นำไปคั่วให้หอมหรืออบ หรือจะบดเป็นผงละเอียด แล้วใช้ถุงชาบรรจุ
3. เก็บใส่ขวดปิดฝามิดชิด
วิธีใช้
ใบชา 1 หยิบมือใส่แก้ว เทน้ำร้อนจนเดือดลงไป รอตัวยาละลายออกมาก่อนสักพักจึงดื่ม
ชาหญ้าหนวดแมว-บำรุงไต ขับปัสสาวะ ลดน้ำตาลในเลือด
ชาหญ้าหนวดแมว เป็นชาสมุนไพรที่ได้จากหญ้าหนวดแมว ส่วนที่เป็นยอด ใบ กิ่งอ่อน จนไปถึงใบและกิ่งจวนแก่
สรรพคุณ
แก้นิ่ว แก้อาการขัดเบา บำรุงไต ขับปัสสาวะ ช่วยขับกรดยูริคในรายที่เป็นโรคเก๊าท์ ช่วยลดน้ำตาลในเส้นเลือดในรายที่เป็นเบาหวาน
วิธีทำ
1. นำหญ้าหนวดแมวมาล้างให้สะอาด
2. หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ จากนั้นก็นำไปผึ่งแดด ประมาณ 2-3 แดด จนแห้งดี(การตากต้องเก็บก่อนแดดหมด อย่าให้ถูกน้ำค้างไม่เช่นนั้นหญ้าหนวดแมวจะมีสีดำ)
3. จากนั้นนำไปคั่วด้วยไฟอ่อน ๆ ให้หอม
4. ใส่ขวดหรือถุงแห้ง ปิดฝาให้สนิท ไว้ต้มดื่ม
วิธีใช้
1. หญ้าหนวดแมว 1 หยิบมือต้มกับน้ำเปล่า 1 ขวดน้ำปลา ต้มให้เดือด ทิ้งไว้ให้อุ่น ดื่มครั้งละ 1 แก้ว วันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหาร
2. หยิบหญ้าหนวดแมวสักเล็กน้อยใส่ถ้วยแก้ว แล้วเทน้ำร้อนเดือด ๆลงไป ทิ้งไว้สักพัก รอให้อุ่นจึงดื่ม