ปาล์มประดับ:การตัดแต่งก้านปาล์มประดับ

ดร.ปิยะ  เฉลิมกลิ่น

สาขาวิจัยอุตสาหกรรมการเกษตร

สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย

จุดสำคัญของการตัดแต่งโคนก้านปาล์มประดับก็อยู่ตรงที่ให้แต่ละก้านมีมุมเอียงเท่ากัน เมื่อตัดแล้วเหลือโคนก้านติดอยู่ยาวเท่าๆ กันรอยตัดจะต้องเรียบ มองดูแล้วเป็นเสมือนบันไดเวียนรอบต้น หรือบิดเป็นเกลียวขนานกันไปตลอดทั้งต้น

จุดเด่นของปาล์มประดับที่ได้รับการยอมรับกันมากก็คือ มีรูปร่างมีขนาด และมีสีสันแตกต่างกันให้เลือกมากมาย จึงมีผู้สรรหาปาล์มประดับชนิดใหม่ ๆ เวียนออกมาป้อนตลาด และกลายเป็นไม้ประดับที่ก้าวขึ้นสู่ความนิยมกันอย่างไม่ขาดสาย

ปาล์มประดับชนิดที่มีลำต้นขนาดใหญ่และมีความสูง จะมีความสง่างามอยู่ในตัวของมันเอง ประกอบกับมีความทนทาน และเจริญเติบโตอยู่ได้ในหลายลักษณะภูมิอากาศ และภูมิประเทศที่เปลี่ยนแปลงไป จึงได้รับความนิยมนำมาปลูกประดับตามบริเวณที่กว้างขวาง ที่โล่งแจ้ง เช่น สนามกอล์ฟ สวนสาธารณะ สวนพักผ่อนที่อยู่หน้าศูนย์การค้า แม้กระทั่งตามริมถนนสายหลักในหมู่บ้านจัดสรร

ข้อดีเด่นที่ต้องยอมรับอีกประการหนึ่งของปาล์มประดับนอกจากที่กล่าวมาแล้วคือ จำนวนก้านใบหรือทางใบรวมที่หลุดร่วงในแต่ละปีมีน้อยมาก เพียงไม่กี่ก้าน จึงไม่ค่อยสร้างปัญหาต่อเจ้าของสถานที่ในการกำจัดหรือเก็บกวาดก้านร่วงเท่าใดนัก แล้วลองเปรียบเทียบดูสิว่า ถ้าปลูกต้นหูกวางหรือต้นประดู่ไว้ในสนามกอล์ฟทั้งหมดละก็ จะต้องจัดเตรียมพนักงานไว้คอยเก็บกวาดใบร่วงกันมาเพียงไหน

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าก้านของปาล์มประดับจะติดทนอยู่บนต้นไม่ค่อยยอมร่วงหล่นลงมาง่ายๆ แต่ถ้าเจ้าของยังคงปล่อยให้มีใบแก่ ก้านแห้ง หรือใบที่ขี้ริ้วขี้เหร่ไม่สวยงามติดอยู่บนต้นเต็มไปหมดทุกๆ ต้นคงจะไม่ค่อยเหมาะสมอย่างแน่นอน ถึงเวลาก็มีความจำเป็นที่จะต้องตัดก้านที่มีความอัปลักษณ์เหล่านั้นทิ้งเสียพร้อมทั้งตัดแต่งโคนก้านให้เหมาะสม สวยงาม ให้มองดูมีเสน่ห์ เกิดความสง่างามต่อผู้พบเห็น

ปาล์มประดับที่มีความจำเป็นจะต้องได้รับการตัดแต่งโคนก้านใบ เนื่องจากมีก้านแก่ ก้านแห้งยังคงติดอยู่ที่โคนต้นอยู่ตลอดเวลา เป็นปาล์มที่มีลำต้นเดี่ยว ได้แก่ ปาล์มน้ำมัน ปาล์มบูเตีย อินทผลัมประดับ ปาล์มซาบาล ปาล์มสิบสองปันนา ต้นตาล ตาลแดง ตาลสีฟ้า ลาน ปาล์มยะวา ปาล์มจีน พญาหนาม ช้างร้องไห้ ตาลกิ่ง ส่วนปาล์มที่มีลำต้นเป็นกอที่จำเป็นต้องตัดแต่งโคนก้าน ได้แก่ เปาโรตีส หมากแดง หมากเขียว หมากเหลือง ปาล์มแชมมีโดเรีย กะพ้อ จั๋ง พวกปาล์มที่เป็นกอทั้งหลายที่ได้รับการตัดแต่งก้านที่โคนต้นออกแล้ว เท่ากับเป็นการแต่งกอให้สวยงาม สำหรับโชว์ขนาดและสีสันของลำต้นให้เด่นชัดยิ่งขึ้น

อุปกรณ์ในการตัดแต่งโคน ก้าน ใบที่จำเป็นได้แก่ เลื่อย การใช้เลื่อยขนาดกะทัดรัดพอเหมาะมือและมีความคม จะช่วยให้ทำงานได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น การเอียงใบเลื่อยเพื่อทำมุมเอียงของแต่ละก้านจะทำได้ง่ายขึ้น ส่วนกรรมวิธีในการตัดแต่งก็ขึ้นอยู่กับความชำนาญของแต่ละคน ผนวกกับความสูงของปาล์มแต่ละต้น เมื่อยืนตัดแต่งไม่ถึง ก็ต้องใช้เก้าอี้หรือบันไดพาดขึ้นไปทำงาน จุดสำคัญของการตัดแต่งโคนก้านปาล์มประดับก็อยู่ตรงที่ให้แต่ละก้านมีมุมเอียงเท่ากัน เมื่อตัดแล้วเหลือโคนก้านติดอยู่ยาวเท่าๆ กัน รอยตัดจะต้องเรียบมองดูแล้วเป็นเสมือนบันไดเวียนรอบต้น หรือบิดเป็นเกลียวขนานกันไปตลอดทั้งต้น

ชาวสวนปาล์มน้ำมันนิยมนำเหล็กแทงทะลายปาล์มมาใช้แต่งโคนก้านใบ เพราะจะใช้แต่งได้รวดเร็ว และยังใช้แต่งก้านที่อยู่สูงๆ ได้โดยง่ายอีกด้วยเนื่องจากมีด้ามยาว ในการใช้มีดตัดโคนก้านใบอาจจะทำให้รอยตัดไม่เรียบทั้งหมด และถ้าตัดแรงไปอาจทำให้ลำต้นหรือโคนก้านใบอื่นๆ เป็นแผลขึ้นได้อีกด้วย

ในกรณีที่ต้นปาล์มประดับยังมีขนาดเล็ก หรือมีก้านใบขนาดเล็ก จะใช้กรรไกรตัดแต่งกิ่งมาใช้ตัดโคนก้านใบได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

ประโยชน์ของการตัดแต่ง นอกจากจะเพิ่มความสวยงาม มองดูเป็นระเบียบ มีความสง่างามชวนมองทั้งต้นปาล์มและสถานที่ปลูกประดับอยู่สำหรับต้นปาล์มที่มีการขุดล้อมและขนส่งนำมาจำหน่ายกันมากนั้น เช่น ปาล์มน้ำมัน ถ้ามีการตัดแต่งโคนก้านได้สวย จะเป็นการเพิ่มราคาของต้นนั้นได้มากขึ้นด้วย

ประโยชน์อีกอย่างของการตัดแต่งโคนก้านใบ คือเป็นการเร่งให้ลำต้นสร้างใบใหม่ออกมาให้เร็วขึ้น เท่ากับเป็นการเร่งให้ต้นมีความสูงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอีกวิธีหนึ่ง วิธีนี้ใช้กันมากกับการปลูกปาล์มสิบสองปันนาในประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากชาวญี่ปุ่นนิยมปาล์มสิบสองปันนาต้นสูงๆ เพื่อโชว์ลำต้นที่มีโคนก้านใบติดเวียนอยู่รอบลำต้น ซึ่งจะแตกต่างจากปาล์มสิบสองปันนาที่ปลูกอยู่ตามปั๊มน้ำมันในเมืองไทย หรือที่ปลูกอยู่ตามริมถนนในอเมริกา ที่นิยมปล่อยให้มีก้านใบเต็มลำต้นเป็นพุ่มกลมคล้ายกับอินทผลัมเพียงแต่มีขนาดเล็กกว่า ลักษณะนี้เองที่อาจจะเป็นส่วนที่ทำให้เรียกปาล์มสิบสองปันนาว่า อินทผลัมแคระ (dwarf date palm)

ทีนี้มาพิจารณาดูการตัดแต่งที่ไม่เหมาะสมบ้าง ผลที่เห็นชัดๆ คือความไม่น่าดู แล้วทำให้ราคาซื้อขายต้นนั้นลดลงไปจากที่ควรจะเป็น ซึ่งจะพบเห็นกันได้ทั่วไปตามสวนที่ขาดการดูแล หรือคนดูแลขาดความรับผิดชอบ ผลที่ตามมาคือ ทำให้ความนิยมในการนำปาล์มมาปลูกประดับลดลง พูดง่ายๆ ก็คือ ทำให้ปาล์มเสื่อมความนิยมลงอย่างรวดเร็ว เป็นการเปิดโอกาสให้ไม้ประดับชนิดอื่นๆ ก้าวขึ้นมาแทนที่ได้มากและรวดเร็วยิ่งขึ้น

ต่อคำถามที่ว่า ถ้าไม่ตัดแต่งแล้วจะเป็นอย่างไร แน่นอนว่าการนำปาล์มประดับมาปลูกก็เพื่อใช้ประดับสภานที่ให้สวยงาม ในทางตรงกันข้าม ถ้าปล่อยให้อยู่ในสภาพที่ถูกทอดทิ้ง ไม่มีการตัดแต่งก็คงเปรียบเสมือนหญิงสาวที่ไม่รู้จักแต่งตัว ย่อมไร้คนสนใจ ไม่มีใครมาเหลียวแล เอาเป็นว่า อย่าปล่อยให้ปาล์มประดับอยู่ในสภาพเช่นนั้นเลย