พันธุ์ไม้เลื้อยในสวนธนบุรีรมย์

ที่มา:เทอดเกียรติ  ภักดีวุฒิ

นักวิชาการเกษตร 5 กองสวนสาธารณะสำนักสวัสดิการส

สวนสาธารณะ 5 หรือที่ทุกคนรู้จักในนามของสวนธนบุรีรมย์เป็นสวนสาธารณะอันดับที่ 5 ของกองสวนสาธารณะ กรุงเทพมหานคร เป็นสวนสาธารณะอีกแห่งหนึ่งที่ให้ความร่มรื่น ความสวยงามเปิดให้ประชาชนเข้ามาพักผ่อนหย่อนใจ เข้ามารับอากาศบริสุทธิ์ และยังเปิดให้นักเรียน นักศึกษาเข้ามาหาความรู้เกี่ยวกับ พันธุ์ไม้อีกด้วย ประชาชนหรือคนที่เข้ามาพักผ่อนหย่อนใจในสวนนั้น อาจจะสัมผัสหรือรู้จักแต่สนามหญ้าที่เขียวขจี สวนหย่อมที่สวยงาม และ ไม้ยืนต้น ไม้ดอกไม้ประดับที่ร่มรื่นสวยงามเท่านั้น แต่ไม้อีกชนิดหนึ่งที่ไม่รู้จักและมองข้ามไปก็คือไม้เลื้อยชนิดต่าง ๆ ซึ่งไม้ชนิดนี้จะให้ทั้งความร่มรื่น ความหอม ความสวยงาม และที่สำคัญยังเป็นพืชสมุนไพรได้อีกด้วย ฉะนั้น สวนสาธารณะ 5 (ธนบุรีรมย์) จึงใคร่ขอแนะนำ ให้รู้จ้กไม้เลื้อยที่ปลูกในสวนดังนี้ : —

อเมริกันฮาวาย หรือเปลวสุริยา

ชื่อสามัญ Mexican Flame Vine

ชื่อวิทยาศาสตร์ Senecio Confusus Britten.

ชื่อวงศ์ Compositae

ลักษณะทั่วไป

เป็นไม้เลื้อยขนาดเล็ก ใบหยักแหลม มีหนามเล็ก ๆ ที่รอยหยักของใบ ใบจะออกตามข้อของเถา ข้อหนึ่ง ๆ จะมีใบเพียงใบเดียว ระยะระหว่างข้อห่างกันประมาณ 3-5 ซม. ดอกจะออกที่ยอดของเถาและไล่ลงมาที่โคนใบประมาณ 2-3 ดอก ยอดของเถาหนึ่งจะออกดอกประมาณ 5-10 ดอก ดอกบานครั้งแรกจะออก เป็นสีส้มอ่อนๆ เมื่อบานเต็มที่จะเปลี่ยนเป็นสีส้มแก่จนกระทั่งโรย กลีบดอกจะมี 13 กลีบ ดอกจะบานได้นานประมาณ 5-10 วัน ออกดอกได้ตลอดปี ออกดอกเต็มที่ในฤดูร้อน และฤดูหนาว ไม่เหมาะที่ปลูกในที่ร่มและที่ที่มีแสงสว่างรำไร เพราะจะทำให้ไม่ออกดอก ควรจะปลูกในที่ที่มีแสงสว่างเต็มที่

การขยายพันธุ์

โดยการปักชำ การตอน และการเพาะเมล็ด แต่ที่นิยมกันคือการขยายพันธุ์โดยการปักชำและการเพาะเมล็ด เพราะสามารถที่จะนำไปปลูกและให้ดอกได้เร็วกว่าการเพาะเมล็ด การปักชำและการตอน จะออกรากประมาณ 10-15 วัน เป็นไม้เถาที่เจริญเติบโตเร็ว ปลูกและดูแลรักษาง่าย เหมาะที่ปลูกตามซุ้มขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ก็ได้

อินทนิลม่วง

ชื่อสามัญ Sky Flower

ชื่อวิทยาศาสตร์ Thunbergia grandiflora Roxb

ชื่อวงศ์ Acanthaceae

ลักษณะทั่วไป

เป็นไม้เถาเลื้อยขนาดใหญ่ ถิ่นกำเนิด เอเชีย อัฟริกา ใบจะออกตามข้อเป็นคู่ ๆ ใบคล้ายใบโพธิ์แต่มีหยักข้างล่างโคนใบจะเว้า ใบหนาและสาก ดอกจะออกใต้โคนใบ 2 คู่ เป็นพวงห้อยย้อยยาว พวงหรือช่อหนึ่ง ๆ จะมีดอกประมาณ 30-60 ดอก ดอกคล้ายกระดิ่ง มี 5 กลีบ สีของดอกสีฟ้า หรือนํ้าเงินอมขาว ออกดอกได้ตลอดปี ช่ออินทนิลม่วงเป็นไม้เลื้อยที่ปลู และดูแลรักษาง่ายเจริญเติบโตเร็ว เหมาะที่จะปลูกขึ้นซุ้มหรือร้านขนาดใหญ่ และเหมาะที่จะปลูกเป็นซุ้มให้ร่มเงาพักผ่อนในสวนสาธารณะ เพราะช่ออินทนิลจะเลื้อยขึ้นปกคลุมหนาทึบ

การขยายพันธุ์

โดยการตอน ปักชำ และเพาะเมล็ด ที่นิยมคือการตอนและการปักชำกิ่ง

สายน้ำผึ้ง

ชื่อสามัญ Honey Suckle

ชื่อวิทยาศาสตร์ Lonicera japonica. Thunb.

ชื่อวงศ์ Caprifoliaceae

ลักษณะทั่วไป

ไม้เถาเลื้อยขนาดเล็ก ถิ่น จีน และ ญี่ปุ่น ใบเป็นใบเดี่ยวออกเป็นคู่ ทุก ๆ ข้อของเถา ใบมันรีหรือแหลม บนใบสีเขียวเข้ม ใต้ใบสีเขียวอ่อน หรือเขียวอมขาว ขนาดความยาวของใบประมาณ 3-5 ซม. ความกว้างประมาณ 1-2 ซม. ดอกจะ ออกที่โคนใบ โคนใบคู่หนึ่ง ๆ จะออกดอก 2 คู่ หรือ 4 ดอก ดอกตูมหรือเริ่มบานจะเป็นสีขาว เมื่อดอกแก่ใกล้จะโรยจะเป็นสีเหลีองอมส้ม สายนํ้าผึ้งจะออกดอกเป็นช่อ ช่อหนึ่งจะมีดอกประมาณ 10-20 ดอก มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ออกดอกฤดูฝน เป็นไม้ที่ปลูกง่าย เจริญเติบโดเร็ว แต่มีศัตรูที่สำคัญคือหนอนเจาะลำต้น (stem borer) เหมาะที่จะปลูกขึ้นซุ้มหรือร้านขนาดเล็กในบริเวณบ้าน

การขยายพันธุ์

โดยการตอน, ปักชำ และเพาะเมล็ด ที่นิยมคือการขยายพันธุ์โดยการตอน

พวงหยก

ชื่อสามัญ Jade Vine

ชื่อวิทยาศาสตร์ Strongilodon macrobtrys.

ชื่อวงศ์ Leguminosae.

ลักษณะทั่วไป

ไม้เถาเลื้อยขนาดกลาง เถาเหนียว ไม่เปราะหรือหักง่าย ใบจะออกตามข้อ แต่ละข้อจะออกใบจำนวน 1 ชุด คือลักษณะใบจะเป็นใบรวม ช่อละ 3 ใบ แต่ละใบจะแหลมและหนา ความยาวของใบประมาณ 2-3 นิ้ว ดอกจะออกเป็นช่อซ้อน เป็นชั้น ๆ ห้อยย้อยยาวสวยงามมาก ช่อหนึ่ง ๆ จะมีดอกประมาณ 30-60 ดอก (ดอกคล้ายดอกแค) ดอกเหมือนพวงโกเมนแต่คนละสี พวงหยกจะมีสีเหมือนหยกหรือสีนํ้าทะเล ออกดอกในฤดูหนาว พวงหยกต้องการแสงแดดมาก จึงจะให้ดอกเต็มที่ เหมาะที่จะปลูกขึ้นซุ้มหรือร้านที่มีความแข็งแรง

การขยายพันธุ์

โดยการตอน ปักชำ และเพาะเมล็ด ที่นิยมคือการตอนและการปักชำ สำหรับการขยายพันธุ์โดยการตอน จะออกรากประมาณ 20-30 วัน

มอร์นิ่งกลอรี่

ชื่อสามัญ Morning Glory

ชื่อวิทยาศาสตร์ Ipomoea purpurea (L.) Roth.

ชื่อวงศ์ Convolvulaceae

ลักษณะทั่วไป

ไม้เถาเลื้อยขนาดเล็ก ถิ่นกำเนิด อเมริกา ถิ่นร้อน ตามลำต้นหรือเถามีขน โคนใบเป็นรูปหัวใจ ปลายใบแหลมและเป็นหยัก ดอกเดี่ยว คล้ายแตรเล็ก ยาวประมาณ 3 นิ้ว หรือออกเป็นกลุ่มๆ ละ 3-7 ดอก มีหลายสี เช่น สีม่วงปนขาว สีแดง สีฟ้า สีชมพู หรือสีขาว เมื่อแก่แล้ว จะติดผลสีน้ำตาลอ่อน ปลูกและบำรุงดูแลรักษาง่าย เจริญเติบโตเร็ว เป็นไม้เถาที่ชอบแสงแดดมาก ถ้าไม่ได้รับแสงเต็มที่จะไม่ออกดอก เหมาะที่จะปลูกขึ้นซุ้มหรือร้านขนาดเล็ก ภายในบ้านที่มีสถานที่ไม่มากนัก (ศัตรูที่สำคัญคือหนอนผีเสื้อกัดกินใบและลำต้น)

การขยายพันธุ์

โดยการเพาะเมล็ด ตอน และปักชำ ที่นิยมคือการขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด

พวงแก้ว

ชื่อสามัญ Bleeding heart, White bleeding heart.

ชื่อวิทยาศาสตร์ clerodendrum thomsonae, Balfour.

ชื่อวงศ์

ลักษณะทั่วไป

เป็นไม้เถาเลื้อยขนาดเล็กหรือเตี้ย ไม้เถาเลื้อยกึ่งไม้พุ่ม เถามีสีเขียวอมดำ ใบเดี่ยวออกเป็นคู่ ใบรูปไข่ยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร กว้างประมาณ 5-7 เซนติเมตร ใบบางนิ่ม ปลายแหลม ออกดอกเป็นช่อ กลีบเลี้ยงสีขาวคล้ายรูป หัวใจ ห่อหุ้มดอกเมื่อดอกยังตูม เมื่อดอกบานก็โผล่ขึ้นมาเหนือกลีบดอก ดอกสีแดงเข้ม มี 5 กลีบ เกสรตัวผู้และตัวเมียจะยาวยื่นออกมานอกดอก ดูสวยงามมีผลสีดำเป็นมัน ถิ่นกำเนิดในอัฟริกา เขตร้อน เหมาะที่จะปลูกลงในตุ่ม ในกระถาง หรือปลูกเป็นทรงพุ่มประดับมากกว่าจะปลูกขึ้นซุ้ม

การขยายพันธุ์

โดยการเพาะเมล็ดและการปักชำกิ่ง

สายหยุดหรือสาวหยุ

ชื่อสามัญ Chinese Desmos

ชื่อวิทยาศาสตร์ Desmos chinesis, Lour.

ชื่อวงศ์ Annonaceae

ลักษณะทั่วไป

เป็นไม้เถาเลื้อยขนาดใหญ่หรือกึ่งเลื้อยกึ่งต้น ใบใหญ่ยาวเป็นคลื่น ใบยาวประมาณ 20-24 ซม. ปลายใบแหลมเรียว ใบเขียวเข้มเป็นมัน ดอกมีก้านห้อยลงมาจากกิ่ง ดอกเริ่มบานจะออกเป็นสีเหลืองอมเขียว เมื่อบานเต็มที่เปลี่ยนเป็นสีเหลืองนวล ดอกเป็นกลีบเล็กยาวและบิด มีกลีบ กลิ่นหอมแรงตอนเช้าและตอนพลบค่ำ ออกดอกตลอดปี ลักษณะดอกสายหยุดจะเหมือนดอกกระดังงาไทยแต่เล็กกว่า เหมาะที่จะปลูกขึ้นซุ้มหรือร้านขนาดใหญ่ที่แข็งแรง หรือจะปลูกเป็นไม้ยืนต้น เป็นทรงพุ่มก็ได้

การขยายพันธุ์

เพาะเมล็ด และตอนกิ่ง ที่นิยมคือ การขยายพันธุ์โดยการตอนกิ่ง

พวงโกเมน

ชื่อสามัญ New guinea Creeper

ชื่อวิทยาศาสตร์ Mucuna bennettii

ชื่อวงศ์ Leguminosae

ลักษณะทั่วไป

เป็นไม้เถาเลื้อยขนาดกลาง มีถิ่นกำเนิดที่นิวกินี ใบเป็นชนิดใบรวม ในช่อหนึ่งจะมีใบรวม 3 ใบ เหมือนกับใบของพวงหยก แต่ใบพวงโกเมนจะใหญ่กว่า ใบสากหนาและแข็ง ดอกเหมือนดอกแค ออกดอกเป็นช่อซ้อนกันเป็นชั้น ๆ ห้อยย้อยเป็นพวงสวยงามมาก ช่อหนึ่งๆ จะมีดอกประมาณ 20-40 ดอก สีแสดหรือ แดง ออกดอกในฤดูฝน ต้องการแสงแดดมาก ถ้าไม่ได้รับแสงเต็มที่อาจจะไม่ออกดอก พวงโกเมนเป็นไม้เถาเลื้อยปลูกดูแลรักษาง่ายและเจริญเติบโตได้เร็วมาก เหมาะสำหรับขึ้นซุ้มสูงและยาวเพื่อจะให้ออกดอกห้อยย้อยสวยงาม

การขยายพันธุ์

โดยการตอนและปักชำ โดยทั่วไป นิยมขยายพันธุ์โดยการตอน เพราะจะให้กิ่งพันธุ์ที่เจริญเติบโตได้เร็ว

อัญชัน

ชื่อสามัญ Butterfly Pea, Blue Pea.

ชื่อวิทยาศาสตร์ Clitoria ternatea, Linn.

ชื่อวงศ์ Leguminosae

ลักษณะทั่วไป

เป็นไม้เถาเลื้อยขนาดเล็ก มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้และเอเชีย เขตร้อน ใบเล็กรูปไข่ ออกเป็นช่อสลับกัน ช่อหนึ่งจะมีใบย่อย 7 ใบ ดอกจะออกด้านบนของโคนก้านช่อใบ ดอกออกเดี่ยว ๆ กลีบดอกซ้อนกันเป็นชั้น เหมือนฝาหอยเชลล์ มี 5 กลีบ ตรงกลางดอกจะมีสีเหลีอง หรือเหลืองอมขาว ดอกมีหลายสี เช่นสีขาว สีม่วง สีนํ้าเงินออกดอกตลอดปี เหมาะที่จะปลูกตามรั้วบ้าน และซุ้มเล็ก ๆ อัญชัญยังมีสรรพคุณทางสมุนไพร คือรากรับประทานเป็นยาขับปัสสาวะ แก้ปัสสาวะ พิการ รากฝนกับนํ้าฝนหยอดหู แก้ตาเจ็บ ตาฝ้าฟาง ทำให้ตาสว่าง รากอัญชัญขาว ใช้ถูฟันทำให้ฟันทน และแก้ปวดฟันได้อีกด้วย

การขยายพันธุ์

โดยการเพาะเมล็ด

ช้องแมว

ชื่อสามัญ –

ชื่อวิทยาศาสตร์ Gmelina philippensis, Cham.

ชื่อวงศ์ Verbenaceae

ลักษณะทั่วไป

เป็นไม้เถาเลื้อยขนาดใหญ่แข็ง มีหนามแหลมยาวใต้โคน ใบเป็นคู่ ใบออกเป็นคู่ ๆ มนรี บนใบสีเขียวเป็นมันเลี่ยม ใต้ใบสีขาวอมเหลือง ขนาดของใบ 4-5 เซนติเมตร ดอกจะออกจากซอกของใบประดับ ซึ่งเรียงซ้อนกันเป็นชั้น ๆ หรือติดกันเป็นช่อยาว ใบประดับจะมีสีเขียวอมม่วงหรืออมเหลืองประเป็นจุดๆ ดอกสีเหลือง ช่อหนึ่งๆ จะมีดอก 15-40 ดอก ลักษณะของดอกโคนกลีบดอกจะติดกันเป็นหลอด ดอกจะโค้งและกลีบดอกจะแยกกันที่ปลาย มี 5 กลีบ กลีบล่าง จะยื่นยาวออกมามากกว่ากลีบอื่น ๆ เห็นได้ชัด ผลอ่อนจะเป็นสีเขียวอ่อน เมื่อแก่จนร่วงจากเถาจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ออกดอกฤดูฝน (เป็นไม้ที่อันตรายเพราะมีหนาม กิ่งแห้งจะร่วงจากเถาอาจทำอันตรายได้)

การขยายพันธุ์

โดยวิธีตอน และปักชำกิ่ง

อรพิม หรือ คิ้วนาง

ชื่อสามัญ

ชื่อวิทยาศาสตร์ Bauhinia Winitii, Craib.

ชื่อวงศ์ Leguminosae

ลักษณะทั่วไป

เป็นไม้เถาเลื้อยขนาดใหญ่แข็ง ใบเป็นใบประกอบ ช่อหนึ่งจะมีใบ 15-20 ใบ แผ่นใบจะเว้าผ่ากลาง เป็นสองซีกเล็กๆ ดูคล้ายใบย่อย 2 ใบ จะออกสลับกันตลอดก้านใบ ดอกจะออกโคนก้านใบและยอดเถาเป็นช่อ ๆ ช่อใหญ่จะมีดอกประมาณ 10-20 ดอก ดอกจะทยอยกันบานจนหมดช่อ มีกลีบดอก 5 กลีบ กลีบเลี้ยง ดอกตูม และก้านดอก จะเป็นขนสีนํ้าตาลนุ่ม มีฝักยาว วัดได้ประมาณ 15-30 ซม. ออกดอก ฤดูฝนตลอดฤดูหนาว ถ้าจะปลูกขึ้นซุ้มต้องเป็นซุ้มที่แข็งแรงและ ขนาดใหญ่

การขยายพันธุ์

โดยการเพาะเมล็ดและตอนกิ่ง ที่นิยมขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด

รสสุคนธ์ขาว

ชื่อสามัญ –

ชื่อวิทยาศาสตร์ Tetracera loureiri, Pierre.

ชื่อวงศ์ Dilleniaceae

ลักษณะทั่วไป

เป็นไม้เถาเลื้อยเนื้อแข็งขนาดกลาง ใบเดี่ยวเรียงสลับกัน ใบรูปไข่หนา ขอบใบเป็นหยักมีหนามเล็กๆ ใบเป็นมันและสาก ดอกจะออกบนโคนใบ และที่ปลายยอดเป็นช่อ ๆ ช่อหนึ่ง ๆ จะมีดอกประมาณ 20-50 ดอก ดอกตูมจะกลมเล็กเท่า หัวไม้ขีดไฟ ดอกจะไม่บานพร้อมกัน จะทยอยบานเรื่อย ๆ จนครบหมดทั้งช่อดอก กลีบดอก 5 กลีบ ดอกสีขาวนวล เกสรตัวผู้เป็นพู่ขาว สวยงาม กลิ่นหอมไกลตลอดทั้งวัน ออกดอกได้ปีละหลายครั้ง เป็นไม้เลื้อยที่ปลูกขึ้นได้ทั้งในร่มหรือ มีแสงรำไร

การขยายพันธุ์

โดยการตอน

ชมนาด

ชื่อสามัญ

ชื่อวิทยาศาสตร์ Vallerisglabra, Ktze.

ชื่อวงศ์  Apocynaceae

ลักษณะทั่วไป เป็นไม้เถาเลื้อยขนาดกลาง เถาแข็ง มีจุดกระสีเทา ๆ เมื่อตัดหรือทำให้มีจุดกระที่เถา เถาเมื่อตัดหรือทำให้เป็นแผลจะมียางสีขาวเหนียว ใบออกเป็นคู่ ใบใหญ่บางมนรีปลายแหลมและเป็นมัน ดอกจะออกข้างกิ่งเหนือโคนใบหรือออกที่ปลายยอด ลักษณะเป็นพวง หรือเป็นช่อ ช่อหนึ่ง ๆ จะมีดอกประมาณ 10-30 ดอก กลีบดอกมี 5 กลีบ สีขาวกลิ่นหอมแรง ออกดอก ฤดูร้อนจนถึงฤดูฝน

การขยายพันธุ์

โดยการตอนและปักชำกิ่ง

เล็บมือนาง

ชื่อสามัญ Rangoon Creeper

ชื่อวิทยาศาสตร์ Quisqualis indica, Linn.

ชื่อวงศ์ Combretaceae

ลักษณะทั่วไป

เป็นไม้เถาเลื้อยขนาดกลาง เนื้อแข็ง โคนเถามีหนามห่าง ๆ กิ่งอ่อนมีขน สีนํ้าตาลอ่อนๆ ใบจะออกเป็นคู่ ๆ ตรงกันข้ามกัน ใบรีปลายแหลม ขนาดของใบกว้างประมาณ 2 นิ้ว ยาวประมาณ 3-4 นิ้ว ดอกจะออกที่ยอดเถาและตามโคนใบ เป็นพวง หรือเป็นช่อใหญ่ห้อยย้อยสวยงามมาก ดอกมี 2 ชนิด คือชนิดดอกซ้อน และชนิดดอกลา แรกบานจะเป็นสีขาว เมื่อแก่สีชมพูและแดงเข้ม กลิ่นหอมเย็น ออกดอกตลอดปี เหมาะสำหรับปลูกขึ้นซุ้มหรือตามรั้วบ้าน ไม่ควรปลูกในที่มี แสงรำไรหรือไม่ได้รับแสง เพราะจะทำให้ไม่ออกดอก หรือออกสีของดอกก็จะไม่เข้มหรือสวยงามเท่าที่ควร

การขยายพันธุ์

โดยการตอน การใช้ไหลในการขยายพันธุ์ แต่ที่สวนสาธารณะ 5 (ธนบุรีรมย์) นิยมใช้ไหลในการขยายพันธุ์ เพราะการตอนนั้น บางครั้งอาจจะไม่ได้ผลเท่าที่ควร

พวงคราม

ชื่อสามัญ Queen Wreath, Purple Wreath

ชื่อวิทยาศาสตร์ Petrea volubilis, Linn.

ชื่อวงศ์ Verbenaceae

ลักษณะทั่วไป

เป็นไม้เถาเลื้อยขนาดใหญ่ เถาแข็ง ถิ่นกำเนิดที่อเมริกาเขตร้อน ใบจะ ออกเป็นคู่ ๆ ลักษณะใบจะเรียวยาว ปลายแหลมแข็งและสากมาก ออกดอกที่ปลายยอดของเถาเป็นช่อ ช่อหนึ่ง ๆ จะมีดอกประมาณ 15-30 ดอก มีกลีบเลี้ยงเป็นฐานรองรับดอกที่เด่น กลีบเลี้ยง 5 กลีบ กลีบดอก 5 กลีบ ดอกสีม่วง หรือ สีม่วงคราม ออกดอกในฤดูหนาว

การขยายพันธุ์

โดยการตอนและปักชำกิ่ง แต่ที่นิยมโดยทั่วไป คือ การขยายพันธุ์โดยการตอนกิ่ง เพราะจะให้ผลเร็ว

การเวก

ชื่อสามัญ –

ชื่อวิทยาศาสตร์ Artabotrys unciunatus.

ชื่อวงศ์ Annonaceae

ลักษณะทั่วไป

เป็นไม้เถาเลื้อยขนาดใหญ่ เถาแข็ง ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับกัน ใบใหญ่ยาวรีปลายแหลมสีเขียวเข้มเป็นมัน ขนาดของใบยาว 10-20 เซนติเมตร กว้าง 5-8 เซนติเมตร ดอกจะออกที่กิ่งช่วงระหว่างใบหนึ่งกับอีกใบหนึ่ง ห้อยลงมาใต้ใบหรือใต้กิ่ง ดอกใหญ่ ดอกอ่อนสีเขียว เมื่อแก่หรือบานเต็มที่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง กลิ่นหอมตอนเย็นจนถึงกลางคืน กลีบเรียงเป็น 2 ชั้นๆ ละ 3 กลีบ (6 กลีบ) ผลเป็นรูปรีป้อม ผลอ่อนสีเขียว ผลแก่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง การเวกเป็นไม้พื้นเมืองของอินเดีย และศรีลังกา นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ เหมาะที่จะปลูกขึ้นซุ้มขนาดใหญ่ และแข็งแรง เพราะใบการเวกใหญ่ หนาทึบให้ร่มเงาได้ดี

การขยายพันธุ์

โดยการเพาะเมล็ด การตอน แต่ที่นิยมคือการขยายพันธุ์โดยการตอน ระยะเวลาในการตอนประมาณ 20-30 วัน

สร้อยสุมาลี

ชื่อสามัญ –

ชื่อวิทยาศาสตร์ Parameria barbata, Schum.

ชื่อวงศ์ Apocynaceae

ลักษณะทั่วไป

เป็นไม้เถาเลื้อยขนาดกลาง ลำต้น กลมแต่เปลือกขรุขระ เถาและใบมียางแต่ไม่มาก ใบเดี่ยวออกเป็นคู่ ใบเรียวปลายแหลมและนิ่ม ใบด้านบนเป็นมันเหลี่ยม ดอกออกเป็นช่อ กระจายตามโคนใบ ช่อหนึ่งๆ จะยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตร ดอกจะบานพร้อมกันทั้งช่อ มีกลิ่นหอม ออกดอกในฤดูหนาว มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย

การขยายพันธุ์

โดยการเพาะเมล็ด ปักชำ และ การตอนกิ่ง

สร้อยฟ้า

ชื่อสามัญ

ชื่อวิทยาศาสตร์ Passiflora hybrid

ชื่อวงศ์ Passifloraceae

ลักษณะทั่วไป

เป็นไม้เถาเลื้อยขนาดเล็ก มีลักษณะพิเศษคือมีมือเกาะกิ่งหรือเกาะซุ้มไม้ มือเกาะนี้จะเจริญจากโคนใบด้านบน ยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร ใบเป็นใบเดี่ยว ออกสลับกัน ใบแยกเป็น 3 แฉก แต่ละแฉกปลายใบจะแหลม ที่ขอบใบจะหยักและมีหนามเล็กๆ กลีบ รองดอกขาว ด้านหลังเขียว ขอบกลีบม้วนเข้า กลีบสีขาวประชมพูอ่อน ด้านนอกขาวอมเขียว ระยางหรือกลีบดอกมีสีม่วงและขาวบนปลายยอด กลิ่นหอมแรง สร้อยฟ้าเป็นไม้เลื้อยที่ออกดอกได้ตลอดปี เหมาะที่จะปลูกขึ้นซุ้มเล็ก ๆ (ศัตรูที่สำคัญคือหนอนผีเสื้อจะเข้าทำลายเป็นกลุ่ม)

การขยายพันธุ์

โดยการตอน ระยะเวลาตอนจนถึงออกรากประมาณ 15-20 วัน

เสาวรส

ชื่อสามัญ Passiflora

ชื่อวิทยาศาสตร์ Passiflora laurifaria, Linn.

ชื่อวงศ์ Passifloraceae

ลักษณะทั่วไป

ไม้เถาเลื้อยขนาดเล็ก มีลักษณะคล้ายกับสร้อยฟ้า มีลักษณะพิเศษ คือมีมือเกาะกิ่ง ถิ่นกำเนิดที่อเมริกา เขตร้อน ใบเป็นชนิดใบเดี่ยวออกสลับกัน ใบดกออกหนาทึบ บนใบเป็นมัน ดอกเป็นสีม่วงแดง กลิ่นหอมแรง ออกดอกฤดูฝน เหมาะที่ จะปลูกขึ้นซุ้มขนาดเล็กและตามรั้วภายในบ้าน

การขยายพันธุ์

โดยการตอนและทาบกิ่ง แต่ที่นิยม คือการขยายพันธุ์โดยการตอนกิ่ง

บานบุรีซ้อน (บานบุรีเหลือง)

ชื่อสามัญ Allamanda

ชื่อวิทยาศาสตร์ Allamanda cathartica, Linn.

ชื่อวงศ์ Apocynaceae

ลักษณะทั่วไป

เป็นไม้เถาเลื้อยขนาดเล็ก หรือไม้เลื้อยกึ่งพุ่ม ถิ่นกำเนิดเดิม อเมริกาและบราซิล เถาแก่สีนํ้าตาล ยอดเถาสีน้ำตาลอมม่วง ใบจะออกตรงข้อของเถา 4 ใบ ใบยาวแหลม บนใบเป็นมันเหลี่ยม เส้นกลางใบมีขนเล็ก ๆ ใบยาวประมาณ 3-6 นิ้ว ขอบใบเรียบ ดอกจะออกเป็นช่อที่โคนใบและยอด ดอกใหญ่ดอกตูม กลีบดอกจะบิดไปทางเดียวกัน ดอกบานเป็นรูปแตรสีเหลือง กลีบดอกออกเป็น 2 ชั้น ชั้นนอกลา 5 กลีบ ชั้นในบิดม้วน มี 5 กลีบ เป็นลักษณะซ้อนอยู่ภายใน ดอกเมื่อบานเต็มที่สักระยะหนึ่ง กลีบชั้นในจะร่วงก่อนกลีบชั้นนอก ดอกมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ออกดอกตลอดปี บานบุรีเหมาะที่จะปลูกขึ้นซุ้มหรือปลูกเป็นทรงพุ่ม เพื่อประดับก็ได้ การขยายพันธุ์

โดยการตอนกิ่งและปักชำกิ่ง ที่นิยมขยายพันธุ์คือการปักชำกิ่ง ระยะเวลาปักชำ 15-20 วัน