มะม่วงหิมพานต์

มะม่วงหิมพานต์ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า อะนาคาร์เดี่ยม ออคซิเดนตาเร่ ( Anacardium orcidentale. Linn หรือ Cassavium pomiferi) อยู่ในตระกูล อะนาคาร์เดี่ยม (Anacardiaceae) ภาษาอังกฤษเรียกว่า แคชชิวนัท (Cashewnut) ภาคเหนือเรียกว่า ม่วงชูหน่วย ภาคใต้เรียกว่า ยาหยี หรือมะม่วงกุลา

เมล็ดมะม่วงหิมพานต์

เนื้อในเมล็ดมะม่วงหิมพานต์ ซึ่งเป็นส่วนของผลจริงมะม่วงหิมพานต์มีลักษณะเป็นจงอยรูปไต มีเปลือกนอกแข็งสีขี้เถ้าเรียบหุ้มเนื้อในเมล็ด ใช้เป็นอาหารรับประทานได้ทั้งสด หรือคั่วโรยเกลือ และใช้เมล็ดมะม่วงหิมพานต์บดผสมกับเมล็ดโกโก้ทำช๊อกโกแล็ต (chocolate) ทำขนมได้หลายชนิด เมล็ดมะม่วงหิมพานต์นอกจากจะให้คุณค่าทางอาหารสูง เช่น ไขมัน วิตามิน แป้ง และเกลือแร่แล้ว ยังมีสรรพคุณเป็นยาขับปัสสาวะ แก้อาการบวมนํ้า (deopsy) นํ้ามันในเมล็ดมีสรรพคุณคล้ายกระเบาใช้ทาแก้โรคผิวหนัง ทางภาคใต้ใช้น้ำมันปรุงอาหาร และเนื้อเมล็ดปรุงเป็นขนมคล้ายถั่วตัด มีรสชาดอร่อยดี

ผลสุก คือส่วนของฐานรองรับผล ซึ่งมีลักษณะคล้ายชมพู่สาแหรกฉ่ำน้ำ มีสีเหลือง หรือสีแสด มีกลิ่นแรง บางคนไม่ชอบ น้ำคั้นจากผลนำมาหมักทำเหล้าไวน์ได้ ยางจากผลมะม่วงหิมพานต์มีพิษมาก มีฤทธิ์กัดเนื้อเยื่อทำให้เกิดความระคายเคืองเป้นผื่นแดงพอง กัดทำลายเนื้อด้านได้ การใช้ควรระวัง แต่มีผู้นำมาใช้กัดตาปลา (corns) หูด (warts) แผลเนื้องอก และรักษาโรคผิวหนังกลากเกลื้อน โรคเท้าช้าง

ยางจากต้น มีสีนํ้าตาลเกือบดำ มีคุณสมบัติเป็นกาวคล้ายยางอารบิค (gum arabic) ใช้เย็บเล่มหนังสือทำให้เเมลงและมดไม่กัดกินทำให้หนังสือผุ นอกจากนี้ใช้ทาพื้นเรือนกันปลวกขึ้นบ้าน ซึ่งอเมริกาเป็นประเทศหนึ่งที่ส่งยางจากต้นมะม่วงหิมพานต์ออก ที่เรียกว่า ยางแคดจี ( cadjii gum )

มะม่วงหิมพานต์เป็นไม้ยืนต้นขนาดต้นฝรั่ง หรือต้นมะยม ใบหนาแข็งคล้ายใบลั่นทม ปลายใบมนกว่า ใบมีกลิ่นหอม ดอกออกเป็นช่อใหญ่ ส่วนฐานรองรับดอกเจริญเป็นส่วนที่มีลักษณะคล้ายผลชมพู่ฉ่ำน้ำ มีผลลักษณะเป็นจงอยรูปไต ซึ่งเข้าใจว่าเป็นเมล็ดติดอยู่ที่ปลาย ส่วนที่เรียกว่าผล ผลมีขนาดโตกว่าเมล็ดถั่วคร้าเล็กน้อย มะม่วงหิมพานต์มีถิ่นกำเนิดแถวจาไมก้า หมู่เกาะอินเดียตะวันตก และอเมริกาเขตร้อน ในประเทศไทยมีปลูกกินมากทางปักษใต้ และตะวันออกแถวจันทบุรีจนถึงลองขลุง ปัจจุบันมีผู้ลงทุนทำไร่มะม่วงหิมพานต์ น่าจะเป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศชนิดหนึ่งในอนาคต

สรุปสรรพคุณ

เมล็ดมีคุณค่าทางอาหารสูง ประกอบด้วยวิตามิน ไขมัน เกลือแร่ มีสรรพคุณ เป็นยาขับปัสสาวะ แก้อาการบวมนํ้า

น้ำมันจากเมล็ด ใช้ทาแก้โรคผิวหนัง

ผลสุก คั้นน้ำทำเหล้าไวน์

ยางจากผล ทำลายเนื้อด้าน กัดตาปลา หูด เนื้องอก โรคผิวหนังกลากเกลื้ยน โรคเท้าช้าง แต่มีพิษมาก เวลาใช้ควรระวัง

ยางจากต้น ทำกาวเย็บเล่มหนังสือกันแมลง และใช้ทาพื้นบ้านกันปลวก