ในอนาคตอันใกล้นี้ มะละกอจะเป็นพืชเศรษฐกิจ ที่สำคัญของประเทศที่สามารถจะทำรายได้ให้แก่เกษตรกรได้มากพืชหนึ่ง เพราะแนวโน้มการนำมะละกอไปใช้เป็นวัตถุดิบทางอุตสาหกรรมนั้นมีมากมายหลายชนิด แต่น่าประหลาดใจที่มะละกอกลับถูกมองข้ามไปอย่างน่าเสียดายและประการสำคัญ นักวิทยาศาสตร์การเกษตรที่ทำการค้นคว้าวิจัย เกี่ยวกับมะละกออย่างจริงจัง เท่าที่ทราบมานั้นมีเพียง 2 ท่านเท่านั้นคือ อาจารย์ ดร.จันทรวิภา ธนะโสภณ แห่งภาควิชาพืชสวน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม และอาจารย์สิริกุล วะสี แห่งศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกทดลอง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ฉะนั้นทางกอง บก.จึงหวังว่า บทความเกี่ยวกับมะละกอ ของ อ.สิริกุล วะสี คงจะเป็นประโยชน์สำหรับบรรดาท่านพี่น้องเกษตรกรและผู้ที่สนใจได้มาก และถ้าท่านอาจารย์มีเวลาว่าง ก็คงจะเขียนเรื่องมะละกอ มาลงในนิตยสาร “ชาวเกษตร” ฉบับต่อ ๆ ไป
ถ้าจะพูดถึงมะละกอแล้ว ทุกคนย่อมรู้จักและเคยรับประทานกันมาแล้วแน่นอน เพราะมะละกอเป็นไม้ผลที่เรียกได้ว่า มีปลูกแทบทุกบ้าน และเป็นที่นิยมบริโภคกันแทบทุกภาค โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคอีสาน แต่แหล่งปลูกขนาดใหญ่ เป็นการค้า จะจำกัดแหล่งปลูกอยู่บ้าง เพราะสาเหตุหลาย ๆ ประการ ดังที่ท่านได้อ่านมาแล้วในฉบับก่อน ๆ อย่างไรก็ตาม มะละกอก็สามารถปลูกได้ง่าย โตเร็ว ให้ผลดกทั้งประโยชน์ก็มีหลายทาง ตั้งแต่ผลอ่อน ที่มียางซึ่งเรียกว่า ปาเปน(papain)ซึ่งช่วยให้เนื้อเปื่อย ใช้หมักเบียร์ ทำให้เบียร์ใส ใช้ในอุตสาหกรรมฟอกหนัง เป็นตัวผสมในยารักษาโรคกระเพาะ และยาระบาย เป็นต้น ในผลดิบ ก็ใช้ปรุงอาหารได้หลายอย่าง ใช้แกงส้ม ทำส้มตำ หรือจะส่งเข้าโรงงานอุตสาหกรรมอีกก็ยังได้ ปัจจุบันมีการทำมะละกอดอง รับประทานกับข้าวต้มก็อร่อยมิใช่น้อย ทั้งยังสามารถทำเองได้อีกด้วย ส่วนในผลสุก ก็รับประทานเป็นผลไม้ ซึ่งให้คุณค่าทางอาหารมาก หรือจะเข้าโรงงานอุตสาหกรรม ทำซอส ทำผลไม้กระป๋อง และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อีกมากมาย จะเห็นว่ามะละกอแม้จะเป็นพืชพื้นบ้านธรรมดา แต่ประโยชน์ของมะละกอนั้นมากมายนัก ทั้งขณะนี้ก็มีแนวโน้มว่าจะเป็นพืชเศรษฐกิจอีกชนิดหนึ่งทีเดียว