มะเขือยักษ์สีม่วง

มะเขือยักษ์สีม่วงเป็นมะเขือที่ได้มาจากการปรับปรุงผสมและคัดพันธุ์ใหม่ จากมะเขือยาวสีม่วงธรรมดา ทำให้ได้ผลที่สั้นลงแต่มีขนาดโตขึ้น และมีรูปร่างต่าง ๆ มะเขือยักษ์สีม่วงนี้มีอายุการเก็บเกี่ยวนับจากวันเพาะเมล็ดประมาณ 95 วัน สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี แต่จะปลูกได้ผลดีที่สุดระหว่างเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ และชอบดินที่มีความชื้นสูงพอเหมาะไม่แห้งหรือแฉะเกินไป

มะเขือยักษ์สีม่วงมีอยู่หลายพันธุ์ด้วยกัน ซึ่งแบ่งแยกตามความสูงของต้นไม้ดังนี้

1.ต้นเป็นพุ่มแบน พวกนี้มีต้นสูงไม่เกิน 60 เซนติเมตร เป็นพันธุ์เบา เช่นพันธุ์แบดเจอร์ เสตท (badger state), นิวแฮมเชีย ไฮบริด (New Hamshir hybrid)

2.ต้นสูงปานกลาง พวกนี้มีต้นสูงประมาณ 60-70 เซนติเมตร เป็นพันธุ์กลางจนถึงพันธุ์หนักเช่น พันธุ์แบลคบิวตี้ (Black beauty), อิมพรูฟค์ ลอง เพอร์เพิล (Improved long purple)

3.ทรงพุ่มสูง พวกนี้มีต้นสูงเกิน 75 เซนติเมตรขึ้นไปเป็นพันธุ์หนัก เช่น พันธุ์ฟลอริดา บิวตี้ (Florida beauty), ฟลอริด้าไฮบุช (Florida high bush), คลีโอล (Creole)

ก่อนที่จะปลูกมะเขือยักษ์สีม่วง ผู้ปลูกจำเป็นต้องเพาะกล้าเสียก่อน และควรเพาะในช่วงที่อากาศเริ่มเย็นและมีฝนน้อย ประมาณต้นเดือนตุลาคมเป็นช่วงที่เหมาะสมเพราะจะได้นำกล้าลงปลูกในเดือนพฤศจิกายน

การเพาะกล้า

การเพาะกล้ามะเขือยักษ์จะเพาะในกระบะหรือแปลงเพาะก็ได้ ควรเตรียมดินให้ร่วนละเอียดพร้อมกับใส่ปุ๋ยคอกเพื่อช่วยบำรุงดินลงไปด้วยกระบะเพาะไม่ควรลึกเกิน 10 เซนติเมตร และเช่นเดียวกันถ้าเพาะในแปลงก็ควรเตรียมดินให้ฟูในระดับลึกไม่เกิน 10 เซนติเมตรเช่นกัน เมื่อเพาะกล้าจนอายุได้ 30 วัน ก็ย้ายไปปลูกในแปลงได้

การปลูก

ปลูกโดยใช้ระยะห่างระหว่างต้น 50 เซนติเมตร และระยะห่างระหว่างแถว 70 เซนติเมตร เมื่อกล้าตั้งตัวได้ในระยะแรกควรใส่ปุ๋ยน้ำตาลทรายแอมโมเนียมซัลเฟต 20 % ต้นละประมาณ 1 ช้อนแกง เมื่อต้นกล้าอายุได้ 1 เดือนหลังจากย้ายปลูกควรใส่ปุ๋ยสูตร 5-10-5 ต้นละ 1 ช้อนแกง แล้วพรวนดินกลบ หลังจากนั้น อีก 15 วัน ก็ใส่ปุ๋ยสูตรเดิมให้อีก 1 ช้อนแกง และไม่จำเป็นต้องใส่ปุ๋ยอีกเลยจน

ถึงเก็บเกี่ยว

การเก็บเกี่ยว

เมื่อต้นมะเขืออายุได้ 75 วันนับจากวันหยอดเมล็ด ก็เริ่มเก็บผลได้ ควรเก็บก่อนที่ผลจะแก่เต็มที่ มะเขือที่ผลยังไม่แก่จัดจะมีสีสดสวยแต่เมื่อผลเริ่มแก่สีจะคล้ำลงและด้านด้วย หลังจากนั้นจะมีสีเขียวปนขึ้นมาและสีม่วงจะลดลงไปเรื่อย ๆ ส่วนคุณภาพก็ต่ำลง เนื้อเหนียวและแห้ง เมล็ดแข็ง

มะเขือยักษ์สีม่วงนี้เมื่อเก็บผลแล้วจะทิ้งไว้ได้ไม่เกิน 3 วัน ที่อุณหภูมิห้องธรรมดา ถ้าเลยจากนี้ไปแล้ว ผลจะเหี่ยวย่นมากและช้ำง่าย แต่ถ้าเก็บผลไว้ใน ตู้เย็นอุณหภูมิ 7-10 องศา จะเก็บไว้ได้นาน 7-10 วัน

เมื่อพูดถึงความนิยมบริโภคของประชาชนทั่วไปแล้ว นับว่ามะเขือยักษ์สีม่วงยังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากนัก แต่ถ้าพูดถึงคุณสมบัติทั่วไปแล้วมะเขือยักษ์สีม่วงก็เหมือนกับมะเขือยาวใช้ประกอบอาหาร เช่น ชุบไข่ทอด แกงเผ็ด ผัด หรือ ใช้เผาเช่นเดียวกับมะเขือยาว แต่มะเขือยักษ์สีม่วงอร่อยกว่าและเนื้อก็มากกว่าด้วย