ยาบังคับหรือสารเคมีที่ใช้บังคับให้มะม่วงตกช่อออกผลก่อนฤดู ที่นักวิชาการทดลองมีอยู่หลายอย่างหลายชนิด มีชื่อทั้งทางวิทยาศาสตร์และทางการค้าแตกต่างกันไป มีทั้งชนิดน้ำ ผงไอระเหย บางทีก็อยู่ในรูปของปุ๋ยทางใบ บางอย่างก็อยู่ในรูปของฮอร์โมนพืช แต่สรุปสารที่ใช้และมีผลตอบสนองต่อการใช้มากที่สุด ได้แก่ “โปตัสเซียมไนเตรท” ชื่อสามัญที่เรารู้จักกันดีก็คือ “ดินประสิว” ซึ่งมีทั้งในรูปบริสุทธิ์อย่างดินประสิวที่เราใช้ทำดินปืน พลุ ตะไล ฯลฯ และในรูปสารผสมรวมกับสารอื่น ๆ ซึ่งมาในรูป “ยาบังคับให้ออกดอก” มีชื่อการค้าต่าง ๆ กันไปตามบริษัทที่จัดจำหน่าย ชาวบ้านและชาวสวนส่วนใหญ่ไม่รู้จักและเข้าใจวิธีใช้ แต่ละชนิดมีความเข้มข้นแตกต่างกันไป บางบริษัทก็ติดฉลากบอกขนาดของการใช้ บางบริษัทก็ไม่บอกผู้ใช้จะต้องแสวงหาความรู้พื้นฐานเอาเอง ดังนั้นจึงพบว่า บางรายก็ประสบความสำเร็จ ส่วนอีกหลายรายต้องพบกับความล้มเหลว
กสิกรชาวสวนมะม่วงหลายรายซื้อหาไปใช้ ลงทุนกันเป็นพันเป็นหมื่น ไม่ได้ผลก็มี ทั้งนี้เพราะขาดการทำนุบำรุงต้นไว้ก่อน และไม่เข้าใจขั้นตอนของการใช้ สารเหล่านี้มีราคาค่อนข้างแพง มะม่วงต้นหนึ่ง ๆ ต้องลงทุนนับร้อยบาท หลายต้นก็เป็นพันเป็นหมื่น เมื่อใช้ไม่ได้ผลก็เท่ากับทิ้งเงิน ทิ้งเวลาและทิ้งผลประโยชน์ที่พึงได้ไป บางรายถึงกับต่อว่าผู้ขายว่า เอายาไม่ดีมาขายก็มี
คุณพนัส บุญสว่าง เป็นผู้หนึ่งที่ประสบความสำเร็จในการใช้ยาบังคับหรือเร่งให้มะม่วงออกดอกออกผลก่อนฤดู ได้ให้ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับการใช้ ดังนี้
ในบรรดา “ยาบังคับ “ หลายบริษัทมีอยู่ชนิดหนึ่ง มีชื่อการค้าว่า “ฟลอโรซาล”(Florosal) ของบริษัท เอ.บี.ซี. เคมีคัล จำกัด เป็นยาชนิดน้ำ ภาชนะที่ใช้บรรจุเป็นแกลลอนพลาสติกสีเขียวจุได้ประมาณ 4 ลิตร ราคาซื้อขายในท้องตลาดตกแกลลอนละ 100 บาท
อัตราการใช้ ฟอลโรซาล 650 ซี.ซี. ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วทั้งต้นและใบประมาณ 1-2 ปีบ ต่อต้น ทั้งนี้แล้วแต่ขนาดของพุ่มต้น ถ้าต้นใหญ่จะต้องใช้ถึง 2 ปีบ หรือกว่านั้น ต้นเล็กก็ใช้ลดน้อยลงมา
เครื่องมือที่ใช้พ่นยา ถ้ามะม่วงต้นเล็กต่ำก็ใช้เครื่องพ่นเล็ก ๆ หรือสูบมือธรรมดา แต่ถ้ามะม่วงต้นสูงใหญ่ สูบมือพ่นได้ไม่ทั่วถึง ชาวสวนส่วนใหญ่จึงใช้สูบน้ำ(ปั๊ม) ที่ฉุดด้วยเครื่องยนต์