ชื่อ
จีนเรียก กิมไซติ๊ง ตัวติ๊งซัว เอ่งไฉ่ หงฮ้วงตึ้ง แกจื่อเกี้ย Tinospora capillipes Gagnep.
ลักษณะ
ชอบขึ้นในป่าหรือทุ่งร้าง เป็นพืชไม้เลื้อยและพันกับต้นหวายหรือไม้อื่น ลำต้นเรียวกลมและเหนียว เปลือกไม่เรียบ ใบขึ้นสลับมีก้านใบยาว ประมาณนิ้วกว่า ใบรูปสามเหลี่ยมปลายแหลม ยาวประมาณ 3-4 นิ้ว กว้างประมาณ 1 นิ้ว ขอบใบเรียบ หน้าใบมีขนขึ้นประปราย เอ็นใบขึ้นเด่นชัด ดอกสีขาวขึ้นจากฐานก้านใบ ฤดูฝนและฤดูร้อนออกลูกหลังฝน เมื่อสุกสีแดง
รส
รสขมเผ็ดนิดๆ ธาตุร้อน ไม่มีพิษ
สรรพคุณ
รับประทานสามารถไล่ลม แก้ปวด แก้พิษ ใช้ภายนอกสามารถดับพิษ แก้บวม ฤทธิ์เข้าถึงกระเพาะและลำไส้
รักษา
แก้ปวดท้องหวัดร้อน ลงท้อง ลงท้องและอาเจียน เป็นบิด ใช้กายนอกแก้งูกัด ผิวหนังเป็นผื่นฝีเจ็บบวม ฝีตะมอย
ตำราชาวบ้าน
1. ปวดท้องหวัดร้อน – เถาสิงห์โตทองครึ่งตำลึง ต้มใส่นํ้าตาลแดงหรือต้มนํ้าประมาณ 1 ตำลึง แล้วใส่เกลือ รับประทาน
2. ลงท้องหวัดร้อน – เถาสิงห์โตทองตากแห้ง 3 เฉียน ต้มใส่น้ำตาลแดง
3. ปวดท้องลงท้อง -เถาสิงห์โตทองตากแห้ง 3 เฉียน ต้มนํ้าใส่เหล้านิดหน่อยหรือต้มกับหญ้าดอกตูบ และไผ่หยอง ไผ อย่างละครึ่งตำลึง ต้มน้ำใส่เกลือนิดหน่อย
4. ปวดท้องเป็นบิด – เถาสิงห์โตทองตากแห้ง 3 เฉียน ต้มนํ้ารับประทาน
5. งูกัด – เถาสิงห์โตทองตากแห้งครึ่งตำลึงดองเหล้าครึ่งชั่ง ต้มอุ่นกินครั้งละตะไล หรือใส่บัวครึ่งซีก (พระจันทร์ครึ่งซีก) 1 ตำลึง ต้มด้วยกัน ชงเหล้ารับประทาน
6. ผิวหนังผื่นแผลบวมเจ็บ – เถาสิงห์โตทองตากแห้งบดผงกินกับเหล้า
7. ฝีตะมอยนิ้วมือ -เถาสิงห์โตทองแห้งบดผง ผสมนํ้ามันชาทา
ปริมาณใช้
ใบใช้สดไม่เกิน 1 ตำลึง แห้งไม่เกินครึ่งตำลึง ใช้ภายนอกกะพอประมาณ
ข้อควรรู้
หญิงมีครรภ์ ห้ามรับประทาน
ที่มา:บุญชัย ฉัตตะวานิช