ว่านขันหมาก

ว่านขันหมาก

ลักษณะ ใบคล้ายจำปี หรือใบจำปา แต่เล็กกว่ามีสีเขียว ลำต้นส่วนที่อยู่บนดินมีสีขาวเหลือบ ลำต้นส่วนที่อยู่ใต้ดินและหินมีสีเหลือง ลำต้นเป็นปล้องๆ สีเหมือนว่านกวักทางลายแต่เรียวและเล็กกว่ามีรากยึดติดกับดินและหิน 3 แฉกบ้าง 4 แฉกบ้าง เหมือนกับตีนไก่ ดอกออกเหมือนดอกบอนเล็ก ๆ มีปลียาว ดอกสีเหลืองอ่อนๆ มีผลเหมือนลูกแตงตาหนู (หรือลูกตำลึงเพิ่งออก) ลูกดิบสีเขียว สุกแล้วสีแดงมีถิ่นกำเนิดอยู่ตามเชิงเขาทั่วไปทุกภาคของประเทศไทย

สรรพคุณ ว่านต้นนี้ผู้ใดสามารถหามาปลูกเลี้ยงไว้ให้รอดตายได้จนมีดอกออกผลสุก ก็หมายว่ามีของวิเศษกายสิทธิ์เป็นสมบัติไว้ เหตุเพราะถ้าได้กินผลสุกแดงของว่านต้นนี้เข้าไปเมื่อใด ย่อมทรงคุณค่าในทางเกิดเสน่ห์แก่ผู้ที่พบเห็นท่าน และเป็นกายสิทธิ์บันดาลให้ผู้ที่กินเข้าไปแล้วทรงความเป็นหนุ่มสาวอยู่ตลอดไป มองดูไม่แก่ เหมือนเมื่อขณะก่อนกินผลว่านนี้เข้าไป (กินเมื่ออายุ 20, 30, 40 หรือ 50 ก็คงสภาพอยู่เหมือนท่านอายุเท่านั้น) ดูไม่รู้จักแก่ อายุยืน, ฟันไม่หัก, ผมไม่หงอก, เนื้อหนังเต่งตึงไม่เหี่ยวย่น, มีพละกำลังดีมาก, อยู่ยงคงอาวุธทั้งปวง จะวิ่งจะเดินคล่องแคล่วไม่รู้จักเมื่อยขบ วิธีกินควรนำผลสุกใส่ปากแล้วกลืนกับนํ้าลงคอเลย อย่าเคี้ยว เพราะจะทำให้คันคอได้ กินมากผลยิ่งดีวิเศษยิ่งขึ้น ท่านว่าผู้ใดได้กินเข้าไป 3 ผลเป็นดีวิเศษแน่แล้ว ถ้าได้กินมากกว่านั้นยิ่งดีมากขึ้น ๆ

วิธีปลูก ท่านให้หาดินธรรมดา หรือได้ดินตามเชิงภูเขานำมาปลูก ควรผสมอิฐหักหรือหินปนกับทรายหยาบไม้ผุๆ จะงามดี เพราะว่านต้นนี้ชอบอยู่ตามซอกหินตามภูเขา เป็นว่านไม้ยืนต้นไม่เหมือนกับว่านชนิด อื่น ให้นำรากที่เป็นแฉกๆ วางแล้วกลบด้วยดินหินทรายและไม้ผุ ๆ กลบให้มิดรากและโคน เมื่อรดน้ำทุกครั้ง ควรว่าคาถาพุทธคุณย่อ “นะโมพุทธายะ” 3 คาบ ว่านต้นนี้หากไม่เอาใจใส่ดูแลจะไม่ออกดอกผล