สมุนไพร:ขิง

ขิง

ชื่อวิทยาศาสตร์ Zingiber officinale Rosc.

ชื่ออื่น ๆ ขิงเผือก(เชียงใหม่)

ลักษณะของพืช เป็นพืชที่มีลำต้นเป็นเหง้าสีขาวนวลอยู่ใต้ดินและมีส่วนที่อยู่บนดินสูงได้ถึง  50  ซม.  ใบเป็นแบบสลับ มีกาบใบหุ้มลำต้นยาว 8-12 ซม.  ตัวใบยาวปลายเรียวแหลม กว้าง 1-3 ซม. ยาว 10-25 ซม. ขอบใบเรียบ  ตัวช่อดอกประกอบด้วยดอกจำนวนมากอัดกันเป็นรูปทรงกระบอกยาว 4-7 ซม.

ส่วนที่ใช้เป็นยา เหง้าแก่สุด

สรรพคุณและวิธีใช้

1.  แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ปวดท้อง และแก้อาการคลื่นไส้อาเจียน(เกิดจากธาตุไม่ปกติ)

2.  แก้ไอ และขับเสมหะ ฝนกับน้ำมะนาวแทรกเกลือ ใช้กวาดคอหรือจิบบ่อย ๆ

การขยายพันธุ์ ใช้เหง้า

สภาพดินและฤดูที่เหมาะสม ชอบดินร่วนปนทราย  มีอินทรีย์วัตถุสูง  ความชื้นสูง  มีการระบายน้ำดี ไม่ชอบดินเหนียวหรือดินทรายจนเกินไป  ฤดูปลูกที่เหมาะสมประมาณเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม

การปลูก

เตรียมดินโดย ไถ พรวน  และยกร่อง  เพื่อให้ดินร่วนซุย  ระยะห่างระหว่างสันร่อง ประมาณ 50 ซม. ขุดหลุมห่างกันหลุมละ 25 ซม.  ใช้ท่อนพันธุ์ที่ชำงอกแล้ววางลงในหลุม ๆ ละ 1 ท่อน โดยวางให้ด้านที่แตกหน่อตั้งขึ้น  กลบดินหนา 2-5 ซม.  ใช้ฟางคลุมตลอดทั้งในร่องและสันร่อง  เมื่อขิงอายุ 2 เดือน  จึงกลบโคนครั้งที่ 1  โดยใช้จอบโกยดินบนสันร่องกลบโคนขิง  หลังจากนั้น 1 เดือน  จึงกลบโคนอีกครั้ง  จะทำให้ขิงแตกหน่อดีและแง่งขิงแข็งแรง  การใส่ปุ๋ยใช้ปุ๋ยหมัก ใส่ตอนเตรียมดินและตอนกลบโคนครั้งแรก ซึ่งใส่เพื่อกระตุ้นให้ขิงงามดี  ไม่ควรใช้ปุ๋ยเคมี

การบำรุงรักษา

หมั่นตรวจแปลงหลังฝนตก  เพราะมักจะเกิดโรคเน่า เนื่องจากเชื้อรา  นอกจากนี้ขิงมีศัตรูพวกหนอนกระทู้ เพลี้ยไฟ เพลี้ยหอย และไส้เดือนฝอย  ควรป้องกันและกำจัดโดยถอนและรวบรวมต้นที่เป็นโรคทำลายโดยเผาไฟ