สุกร:การจัดการในฟาร์มสุกรป้องกันโรคพีอาร์อาร์เอส

โรคพีอาร์อาร์เอส(PRRS) หรือโรคระบบทางเดินหายใจและระบบสืบพันธุ์ในสุกร เป็นโรคที่สร้างความเสียหายให้กับอุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีผลกระทบต่อประสิทธิภาพการผลิตโดยตรง เช่น การแท้งของแม่สุกร การตายของลูกสุกรอนุบาล การตายของสุกรขุน และการตายของสุกรพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ และที่สำคัญโรคพีอาร์อาร์เอสเป็นโรคที่ยังไม่มียารักษาโดยเฉพาะ อีกทั้งสุกรที่หายจากอาการป่วยแล้ว ยังสามารถแพร่เชื้อไปยังสุกรตัวอื่นได้ โดยเฉพาะสุกรที่นำเข้ามาร่วมฝูงใหม่ เมื่อได้รับเชื้อจากสุกรที่มีอยู่เดิมแล้วจะแสดงอาการรุนแรง และอัตราการสูญเสียสูงมาก ยิ่งไปกว่านั้นคือโรคนี้เป็นโรคที่กดกูมิคุ้มกัน ทำให้เชื้ออื่นๆ แทรกซ้อนเข้ามาโดยง่าย

นายปรีชา  สมบูรณ์ประเสริฐ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ปัจจุบันโรคพีอาร์อาร์เอส ยังไม่มียารักษาโดยเฉพาะ อีกทั้งเมื่อสุกรที่ได้รับเชื้อดังกล่าวจะไปกดภูมิคุ้มกัน ทำให้เชื้ออื่นแทรกซ้อนได้ง่ายขึ้น ดังนั้นแนวทางที่จะลดความสูญเสียและสามารถแก้ปัญหาโรคนี้ได้อย่างยั่งยืน คือการจัดการฟาร์มโดยใช้มาตรการความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosecurity) ซึ่งจะช่วยป้องกันโรคพีอาร์อาร์เอสตลอดจนโรคระบาดอื่นๆ เข้าสู่ฟาร์มได้ดีที่สุด

ในส่วนของเกษตรกรรายย่อยหรือประชาชนที่มีการเลี้ยงสุกรหลังบ้านเพื่อเป็นอาชีพเสริมหรือเลี้ยงเพื่อการบริโภคเองนั้น จะประสบปัญหากับโรคพีอาร์อาร์เอส รวมถึงโรคระบาดอื่นเป็นประจำ เนื่องจากการละเลยในด้านการป้องกันโรคเข้าสู่ฟาร์ม โดยเฉพาะการนำสุกรไม่ทราบแหล่งที่มา และการเลี้ยงสุกรรวมกันหลายรุ่น ทำให้เมื่อเลี้ยงไปเป็นระยะเวลาหนึ่ง ลูกสุกรจะแสดงอาการป่วยตาย ดังนั้นเกษตรกรจึงควรใส่ใจในการป้องกันโรคเข้าฟาร์ม โดยอาศัยหลักพื้นฐานของมาตรการความปลอดภัยทางชีวภาพ ซึ่งประกอบด้วย การป้องกันเชื้อโรคเข้าฟาร์มหรือสถานที่เลี้ยงสุกร ซึ่งการจะนำสุกรเข้ามาเลี้ยงควรจะมาจากแหล่งที่มีระบบป้องกันโรคที่ดีและไม่มีประวัติการระบาดของโรค และควรแยกเลี้ยงสุกรใหม่พร้อมกับให้ยาปฏิชีวนะผสมอาหาร เพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียในสัปดาห์แรกของการเลี้ยง หลีกเลี่ยงการใช้พ่อพันธุ์ร่วมกับฟาร์มอื่น หรือหากจำเป็นต้องใช้ร่วมกับฟาร์มในกลุ่มอื่นต้องมั่นใจว่าฟาร์มเหล่านั้นไม่มีดรคพีอาร์อาร์เอสระบาด ห้ามบุคคลภายนอกเข้าฟาร์ม หากจำเป็นต้องพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคก่อน พร้อมกันนี้ต้องมีการสุขาภิบาล การเลี้ยงสุกรที่ดี เช่น คอกสะอาด ไม่ชื้นแฉะ อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่อยู่ในที่หนาวเย็น ร้อนหรือถูกฝนมากเกินไป ต้องทำความสะอาดสถานที่เลี้ยงสุกรด้วน้ำยาฆ่าเชื้อโรคอย่างสม่ำเสมอและเสริมวิตามินในอาหารเพื่อบำรุงร่างกาย สังเกตอาการป่วยของสุกรในฝูงอย่างสม่ำเสมอ

หากพบอาการต้องสงสัยให้แจ้งอาสาปศุสัตว์ ปศุสัตว์ตำบล เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ ในพื้นที่ทราบทันที หรือ คอลเซ็นเตอร์ 08-5660-9906 ส่วนการควบคุมโรคเมื่อมีการระบาด ทำการรักษาสุกรป่วยด้วยยาปฏิชีวนะ ยาลดไข้และสารน้ำ ซึ่งถ้าพบแม่สุกรแท้งให้คัดทิ้ง ที่สำคัญห้ามนำสุกรเข้าเลี้ยงทันทีต้องทิ้งไว้หลังจากไม่มีสุกรป่วยในฝูงอย่างน้อย 2 เดือน เพื่อหยุดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสได้