เพาะเห็ดกินเองในครัวเรือนได้อย่างง่าย ๆ

โดยทั่วไป ถ้าพูดถึงเพาะเห็ดแล้ว คนส่วนใหญ่คงจะนึกถึง การใช้พื้นที่เยอะและมีโรงเรือนขนาดใหญ่ มีคนคอยดูแลอย่างเป็นประจำ ซึ่งที่จริงแล้วถ้าเราต้องการจะเพาะเห็ดกินเอง ก็ทำได้ไม่ยากมีพื้นที่ 1 ตารางเมตร ก็สามารถมีเห็ดไว้บริโภคได้ทุกวัน

เราสามารถเลือกเพาะเห็ดกินเองได้หลากหลายชนิด ขึ้นอยู่กับความชอบของเรา แต่ถ้าจะให้ดีควรเลือกเห็ดที่สามารถเพาะง่ายไปก่อนเช่น เห็ดนางรม เห็ดนางฟ้า เห็ดเป๋าฮื้อ เห็ดหูหนู เห็ดภูฐาน เห็นขอนขาว เห็ดฟาง ซึ่งเห็ดเหล่านี้ จะออกดอกได้ง่ายและเจริญเติบโตได้ดีในอุณหภูมิปกติของบ้านเรา เมื่อเกิดความชำนาญดีแล้ว จึงค่อย ๆ ขยายไปเพาะเห็ดที่ยากขึ้น อย่างเช่นเห็ดหอม เห็ดโคนญี่ปุ่น ที่จะออกดอกได้และเจริญเติบโตได้ดีในอุณหภูมิเย็น 20-30 องศาเซลเซียส)

ส่วนวิธีการเพาะจะประยุกต์มาจากวิธีการที่เพาะเห็ดโดยทั่วไป แต่เราจะมาย่อขนาดให้เล็กลง ถ้าเป็นเห็ดทั่ว ๆ ไป ยกเว้นเห็ดฟาง เราสามารถเพาะในก้อนถุงพลาสติกหรือบนท่อนไม้ก็ได้ ถ้าเป็นเห็ดฟางใช้วิธีเพาะในตะกร้า

การเพาะเห็ดในถุงพลาสติก

เป็นการเพาะเห็ดกินเองที่ใช้พื้นที่น้อย ขั้นแรกเราต้องเลือกชนิดของเห็ดที่เราจะมาเพาะตามที่เราชอบ โดยซื้อก้อนเชื้อเห็ดที่เชื้อเดินเต็มแล้วราคาก้อนละ 5-15 บาท ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดของเห็ด จากนั้นเรานำมาเปิดดอก

วิธีแรก เป็นการเพาะเห็ดที่ง่ายสุด คือ เรานำก้อนเชื้อมาเปิดดอกในห้องน้ำ ที่มีความชื้น มีการระบายอากาศที่ดี ไม่อับ หลังจากเปิดถุงประมาณ 7-10 วัน จะเกิดตุ่มดอก อีก 5-7 วันก็เริ่มเก็บดอกไปบริโภคได้ จากนั้นเห็ดจะหยุดพักตัว ต้องรอไปอีก 15-20 วัน เห็ดถึงจะให้ผลผลิตออกมา ซึ่งเห็ดจะออกดอกเช่นนี้ไปเรื่อย ประมาณ 3-6 เดือนก้อนเห็ดก็จะหมดสภาพ

การให้น้ำ ก็ให้เวลาเราอาบน้ำ โดยระวังอย่าให้น้ำเข้าไปในถุง รดน้ำแต่ภายนอกถุงก็พอ

วิธีที่สอง เป็นการเปิดดอกในโรงเห็ดขนาดเล็ก ซึ่งเราต้องมีพื้นที่ประมาณ 1ตารางเมตร จะใช้โรงเรือนต้นแบบที่พัฒนา โดยศูนย์รวมสวนเห็ดบ้านอรัญญิกก็ได้ที่สามารถเพาะเห็ดได้ถึง 100 ก้อน หรือใครจะทำขึ้นมาใหม่ก็ได้ วิธีนี้เราจะมีเห็ดไว้บริโภคทุกวัน วันหนึ่งจะเก็บเห็ดได้ 2-3 ขีด โดยเราค่อย ๆ ทยอยนำก้อนเห็ดเข้าโรงเรือนไปเปิดดอกครั้งละ 20 ก้อน ทุก 3-5 วัน แล้วเราคอยดูแลรดน้ำ คุมความชื้นให้เหมาะสมกับเห็ดแต่ละชนิด จากนั้นก็มีเห็ดออกดอกมาให้เก็บกินทุกวัน จนกว่าก้อนเชื้อจะหมดสภาพ

การเพาะเห็ดในท่อนไม้

การเพาะเห็ดในท่อนไม้เป็นวิธีการเก่าแก่ โดยชาวจีนเป็นชนชาติแรกที่มีการเพาะเห็ดในท่อนไม้ วิธีการเพาะเห็ดบนท่อนไม้ ไว้บริโภคเองนี้ ค่อนข้างจะยุ่งยากกว่าเพาะในถุงพลาสติก เราต้องใช้ฝีมือนิดหน่อย และต้องมีพื้นที่พอสมควรในการนำกิ่งไม้มากองสุมกัน และเราต้องมีกิ่งไม้มาเป็นวัสดุเพาะด้วย หรือถ้าบ้านใครที่มีต้นมะม่วง เวลาตัดแต่งกิ่ง ถ้ามีขนาดเท่าแขนขึ้นไป เราก็นำมาเพาะเห็ดได้ หรือจะเป็นไม้อื่น ๆก็ใช้ได้เช่นกัน เช่น ไม้แค ไม้ขนุน ก้ามปู ไม้นกยูง ไม้นุ่น ไม้เงี้ยว ไม้ยาง หรือไม้เนื้ออ่อนอื่น ๆ

เมื่อได้ไม้แล้ นำมาตัดเป็นท่อน ๆให้ยาว 1 เมตร ควรเป็นไม้ที่ตัดมาใหม่ ๆ ถ้ามียางก็ทิ้งไว้ให้ยางหยุดไหลเสียก่อน นำมาเจาะด้วยดอกสว่าน ให้ขนาดรูมีความกว้าง ½ นิ้ว ลึก 1 นิ้ว แต่ละรูห่างประมาณ 3-4 นิ้ว จากนั้นก็เอาเชื้อเห็ดใส่ลงไปให้เต็ม ปิดทับด้วยพลาสติก (มีจำหน่ายโดยเฉพาะ) ถ้าหาไม่ได้ ก็ให้ใช้ตุ๊ดตู่ที่ใหญ่กว่ารู ตอกไปที่เปลือกไม้เพื่อนำมาปิดรู หรือถ้าไม่มีก็นำเทียนมาผสมกับน้ำมันพืชหลอมให้ละลาย เมื่อใกล้เย็นก็ให้ทำเป็นแผ่นไปปิดทับรู

จากนั้นนำไปวางกองรวมกันไว้แบบคอกหมู ในที่ร่ม โดยพื้นด้านล่างปูพลาสติกไว้กันแมลงกันหนอนมารบกวน ด้านข้างพันพลาสติกไว้ให้รอบ ด้านบนปล่อยให้มีอากาศถ่ายเทได้บ้าง หมั่นรดน้ำทุกเช้า ที่ขอนไม้วันละครั้ง ภายใน 1 เดือน ก็เริ่มจะมีเห็ดให้เก็บกิน สามารถเก็บกินได้จนท่อนไม้ผุพัง เป็นปีหรือสองปี

การเพาะเห็ดในท่อนไม้ สามารถเพาะกับเห็ดได้หลายชนิดเช่นเดียวกับ การเพาะในถุงพลาสติก แต่เห็ดที่เพาะได้ดี คือ เห็ดนางรม เห็ดหูหนู เห็ดขอนขาว เห็ดนางนวล ยกเว้นเห็ดฟาง