เพาะเห็ดอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ

คุณสมยศ  กรุณา หัวหน้าฝ่ายขายผลิตภัณฑ์ศูนย์รวมสวนเห็ดอรัญญิก

“ถ้าคนไม่มีประสบการณ์ในการเพาะเห็ดเลยควรเริ่มต้นจากการซื้อก้อนเชื้อสำเร็จไปที่เขาหยอดเชื้อแล้ว ไปลองเพาะดูก่อนเราดูแลรดน้ำให้ออกดอก เมื่อเราทำตรงนี้จนมีประสบการณ์ชำนาญแล้ว มีตลาดรองรับที่แน่นอนแล้ว เราอาจจะลองซื้อก้อนเชื้อสำเร็จมาเปิดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนเรามั่นใจว่าสามารถผลิตก้อนเชื้อเองได้ เราก็ผลิตก้อนเนื้อเองได้ โดยเราต้องลงทุนเพิ่ม คือ อุปกรณ์หม้อนึ่งฆ่าเชื้อและอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ เช่น วัตถุดิบพวกขี้เลื่อย”

ที่จริงแล้วตลาดของเห็ด เราสามารถทำได้ตั้งแต่ การผลิตหัวเชื้อเห็ด หรือการผลิตก้อนเชื้อเห็ด ขายก็ได้ แต่ถ้าเราไม่มีความชำนาญ ควรผลิตดอกเห็ดขายก่อน เราก็สามารถแบ่งช่องทางการขายได้อีก ทั้งขายดอกสด ขายดอกแห้ง หรือขายผลิตภัณฑ์เห็ดที่แปรรูปแล้ว หรือจะนำเห็ดสดดองเกลือแล้วส่งขายต่างประเทศ ซึ่งมีบริษัทต่างประเทศมาลงทุนทำแบบนี้อยู่ รับซื้อเห็ดสดมาดองแล้วส่งกลับไปบ้านเขา อันนี้ก็เป็นอีกตลาดหนึ่ง”

“สถานการณ์ดอกเห็ดตอนนนี้มีแนวโน้มที่สามารถเพาะเลี้ยงไปได้เรื่อย ๆ เพราะว่าในอนาคตสัตว์ต่าง ๆ สามารถเกิดโรคระบาดได้ง่าย แต่โรคระบาดเห็ดจะไม่กระทบกระเทือนถึงสุขภาพผู้บริโภค มีแต่กระทบกับผู้ผลิตเท่านั้นที่ผลิตได้น้อยลง”

“นโยบายของรัฐบาลเองก็ให้ความสำคัญ ในเรื่องของการผลิตอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เห็ด ก็เป็นตัวหนึ่งที่มีรสชาติอร่อย โปรตีนสูง ใช้แทนเนื้อสัตว์ได้ ยังมีพวกวิตามิน กรดอมิโน ที่จำเป็นต่อร่างกายอีกหลายชนิด แล้วยังเป็นอาหารหลักของกลุ่มที่ทานมังสวิรัส ยังมีคุณค่าทางด้านสมุนไพรที่จะช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ ได้ด้วย”

“อยากแนะนำให้เกษตรกรผู้ผลิตควรมองถึงคุณภาพเห็ดด้วย ถ้าเรามองแต่ว่าจะทำให้ได้วันละ 100 กก. 200 กก. ถ้าเราเน้นแต่ปริมาณ เราจะไม่ได้ในเรื่องของราคา ในช่วงที่อากาศเหมือน ๆ กัน เห็ดตัวเดียวกันก็ออกดอกมาเยอะ พร้อม ๆ กัน ราคาก็ถูกลงเหมือนกับสินค้าเกษตรตัวอื่น ๆ แต่ถ้าเราสามารถควบคุมคุณภาพของเห็ด และผลิตเห็ดได้หลาย ๆ ชนิดผสมผสานกันลงไปในฟาร์มของเรา ในช่วงที่เราเพาะเห็ดนางรม เราก็เพาะเห็ดหอมด้วย เห็ดหลินจือด้วย เห็ดโคนญี่ปุ่นด้วย หรือเห็ดอื่น ๆ อีกหลายอย่างที่เราเพาะได้ บางช่วงที่เห็ดนางรมราคาถูก แต่เห็ดตัวอื่นยังมีราคาแพง ก็จะทำให้เราอยู่ในอาชีพการเพาะเห็ดได้นานอย่างยั่งยืน ถ้าเราเพาะแต่เห็ดตัวใดตัวหนึ่ง บางช่วงถ้าราคาถูกเราจะขาดทุน แล้วจะอยู่ในอาชีพการเพาะเห็ดไม่ได้ก็ต้องเปลี่ยนอาชีพใหม่ไปเรื่อย ๆ”

“เราจะเก็บดอกที่ตูมไว้อีกนิด แล้วไม่รดน้ำก่อนเก็บ 2 ชม. เราจะได้เห็ดที่มีคุณภาพขายได้ราคา อย่างเห็นล้นตลาดจะไม่เกิน 2-3 วัน ถ้าเราเก็บดอกตูมเราจะยืดเวลาไปได้อีก โดยแช่ไว้ในห้องเย็นจะชะลอการขายได้”

“เราอาจจะเริ่มจากตลาดในชุมชนท้องถิ่นของเราก่อนก็ได้ โดยดูว่าในชุมชนเรานิยมบริโภคเห็ดอะไร แล้วถ้าเป็นต่างจังหวัดต้องดูด้วยว่าช่วงไหนที่เห็ดป่าจะออก เพราะคนต่างจังหวัดจะนิยมบริโภคเห็ดป่ามากกว่า เห็ดเพาะเลี้ยง ซึ่งเราอาจจะเปลี่ยนไปรับเห็ดป่ามาจำหน่ายแทน”

“นอกจากนี้ เราจะส่งเห็ดไปตลาดขายส่งใหญ่ ๆ อย่างตลาดไท ปากคลองตลาด ตลาดสี่มุมเมือง หรือตลาดสดทั่ว ๆ ไป หรือตลาดชุมชนของเราเอง ที่มีถึง 100 หลังคาเรือน เราสามารถผลิตเห็ดขายได้แล้ว เราสามารถกำหนดคุณภาพ ควบคุมราคาได้ง่ายด้วย”

“อีกตลาดหนึ่งที่น่าสนใจ เราสามารถกำหนดราคาที่แท้จริงได้ คือ การแปรรูปเห็ด ซึ่งต่างจากเราขายเห็ดสด ที่เราต้องพึ่งพากลไกตลาด ที่พ่อค้าคนกลางเป็นคนกำหนดราคา โดยทั่วไป เขาจะรับเห็ดไปขายให้ก่อน แต่ยังไม่กำหนดราคา พอเขาขายได้เสร็จถึงจะมาบอกราคาทีหลัง อย่างเขาบอก กก.ละ 7 บาท เราก็ต้องขาย เราไม่สามารถต่อรองราคาอะไรได้มาก เพราะผลผลิตออกมาทุกวัน ๆ เพราะเราต้องการปริมาณมาก ถ้ามองไปอาจจะไม่ได้กำไร จากการเพาะเห็ดเลยก็ได้ หรือกำไรน้อย แต่ถ้าเราเพาะเองขายเองก็จะดีกว่า แต่เราก็ต้องมาดูว่ามีบุคคลากรตรงนี้หรือเปล่า ถ้าไม่มีเกษตรกรรวมตัวกันเพาะเห็ด โดยแบ่งหน้าที่กันทำได้ก็จะดี”

“ทุกอาชีพต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ใหม่ ๆ เราอาจจะไม่รู้ว่าเห็ดอะไรช่วงไหนดอกออกเยอะ แต่ขอให้ทำไปเราจะสะสมประสบการณ์ไปเรื่อย ๆ เราจะรู้ว่าช่วงนี้เห็ดชนิดนี้ออกเยอะ เราก็จะทำให้เห็ดของเราออกน้อย พอช่วงนี้เห็ดชนิดนี้ออกดอกน้อย เราทำให้ของเราออกดอกเยอะ”

“การแปรรูปเห็ด เป็นช่องทางการตลาดอีกช่องทางหนึ่งเลย โดยเราไม่ต้องรีบส่งเห็ดสดขายให้หมด เราสามารถชะลอการขายได้ออกไปได้ เป็นเดือน เป็นปี ขึ้นอยู่กับว่าเราจะแปรรูปเห็ดเป็นผลิตภัณฑ์อะไรออกมา”

“การแปรรูปต้องดูว่าอย่าง ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคใต้ เขานิยมบริโภคอะไรกัน เช่น แหนม ปลาร้า น้ำพริก ซอส ซีอิ๊ว ซึ่งเราต้องมาดูผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เหล่านี้ เราเอาเห็ดเข้าไปเกี่ยวข้องได้ไหม ทั้ง 100% หรือ 60% หรือ 20% ถ้าเรายิ่งเอาเห็ดสดไปเกี่ยวได้มากเท่าไร มันก็ยิ่งไปรองรับเห็ดสดเรามากเท่านั้น อีกอย่างเห็ดแปรรูป เราสามารถเพิ่มราคาได้อีก 20-50% ขึ้นอยู่กับว่าเราจะแปรรูปเป็นอะไร อาหารคาว อาหารหวาน ได้ทั้งนั้น”