1. เมล็ดมี 2 ชนิด คือ เมล็ดแห้ง เช่นข้าวโพด ข้าวฟ่าง ถั่ว ฝ้าย บานชื่น กระถิน ฯลฯ และเมล็ดเปียก เช่น มะเขือเทศ แตง บวบ ทุเรียน เงาะ ขนุน มะม่วง ลำใย กระท้อน น้อยหน่า ชมพู่ มะพร้าว ฯลฯ
2. เก็บเมล็ดจากต้นพันธุ์ดี หรือจากต้นที่ได้ผสมไว้เป็นพิเศษ
-เก็บจากต้นที่ขึ้นอยู่มาก ๆ เหมือน ๆ กัน เช่นข้าวโพด
-เมล็ดตรงตามพันธุ์ มีขนาด สี รูปร่าง ตรงตามพันธุ์
-เก็บเมล็ดพันธุ์จากต้นที่มีลูกดก ผลผลิตสูง
-เป็นเมล็ดที่สมบูรณ์ แก่เต็มที่ เมล็ดไม่ลีบ ไม่แตก ไม่บุบสลาย
-ไม่มีโรคและแมลงรบกวน
3. ตากเมล็ดให้แห้งสนิท ให้มีความชื้นราว 4-6%
4. ใช้ยาคลุกเมล็ดกันโรคและแมลง เช่นยาเซรีแซน และอลามอน 40
5. ทำความสะอาดเมล็ดให้หมดจากเปลือก และสิ่งเจือปน โดยเฉพาะเมล็ดเปียก
6. แยกเมล็ดเป็นพวก ๆ อย่าปนกัน
7. หากพบว่าเมล็ดใดเป็นรา จะต้องรีบแยกออก และคลุกยาใหม่
8. อย่าเก็บเมล็ดในที่เปียกชื้น หรือร้อนเกินใป ควรเก็บในที่เย็นจะอยู่ได้นาน (ตู้เย็นชั้นล่างสุดใช้ได้)
9. อย่าเก็บเมล็ดในกระป๋องมิดชิดนานเกินไป เพราะไม่มีอากาศหายใจ
การเก็บในถุงเท้าเก่า ๆ แล้วแขวนไว้จะดีมาก
10. เมล็ดบางชนิดต้องใช้หรือเพาะโดยเร็ว เพราะเก็บไม่ได้นาน เช่น
เมล็ดยางพารา ส่วนเมล็ดบางชนิดอาจเก็บไว้ได้นาน เช่น
อายุที่เก็บเมล็ดไว้ได้
ยาง อ้อย สน ปาล์มบางชนิด 2วัน- 2 เดือน
ข้าวโพด หอมใหญ่ ผักชี 1 ปี
พริก บานไม่รู้โรย 2 ปี
มะเขือเทศ กระเทียม ถั่วต่าง ๆ 3 ปี
แตงกวา แตงโม แตงไทย กะหล่ำต่าง ๆ ดาวเรือง 5 ปี
ดาวกระจาย บานชื่น ผักกาดขาวปลี คะน้า
พุดทรา มะขามไทย บัวหลวง 15 ปี