แมงลักใช้เป็นอาหารได้ทั้งใบและเมล็ด

แมงลักเป็นพืชล้มลุกที่ใช้เป็นอาหารได้ทั้งใบและเมล็ด ส่วนที่เป็นใบนั้น มีกลิ่นฉุน ใช้ประกอบอาหารเช่นเดียวกับกะเพราและโหระพา ส่วนมากจะใช้ รับประทานกับขนมจีนนํ้ายา และใส่แกงเลียงต่าง ๆ ส่วนเมล็ดแมงลักใช้ทำเป็น ขนมซึ่งเด็ก ๆ ชอบรับประทาน คือนำมาละลายกับนํ้าให้พองตัวเสียก่อนแล้วใส่นํ้ากะทิ กับน้ำแข็งลงไป เท่านี้ก็จะได้ขนมหวานเย็นชื่นใจ นอกจากนั้นในปัจจุบันยังมีผู้คิดค้น นำเมล็ดแมงลักมาสกัดเป็นยาระบายและทำเป็นอาหารเพื่อสุขภาพหรือ Health food สำหรับคนที่ต้องการลดความอ้วนอีกด้วย

ต้นแมงลัก มีลักษณะทั่วไปคล้าย ๆ กับต้นกะเพราและโหระพา ขนาดของทรงพุ่มก็ใกล้เคียงกัน จะต่างกันก็ตรงที่กลิ่นไม่เหมือนกัน และใบของแมงลักมีสีเขียวอ่อน และมีขนอ่อนอยู่ตามใบและก้านใบ ส่วนใบของโหระพานั้นใบเป็นมัน และหนากว่า ดอกของแมงลักมีสีขาวก้านดอกสีเขียวอ่อน ส่วนเมล็ดนั้นมีสีดำ กลม ยาวขนาดโตกว่าเมล็ดงา เมื่อถูกนํ้าจะพองตัวออกคล้ายกับมีเมือกลื่น ๆ ห่อหุ้ม มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ใช้รับประทานได้ทันที

การปลูก

การปลูกแมงลัก ต้องเพาะกล้าเสียก่อน โดยเตรียมดินเหมือนกับการเพาะเมล็ดพืชทั่ว ๆ ไป เมื่อหว่านเมล็ดลงไปแล้ว ประมาณ 4-5 วัน เมล็ดก็จะงอกขึ้นมา ทิ้งไว้ในแปลงเพาะสัก 1 เดือน จึงย้ายไปปลูกในที่ ๆ เตรียมไว้

ต้นกล้าที่อายุ 1 เดือนจะสูงประมาณ 1 ฟุต เมื่อถอนต้นเพื่อนำไปปลูก ควรตัดยอดดอกออกเสียบ้างหรือจะตัดออกครึ่งต้นเลยก็ได้ ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นควรแต่ง รากให้ด้วย เพราะแมงลักที่ตัดรากออกจะงอกงามกว่าต้นที่ปลูกทั้งราก แต่ทั้งนี้เวลานำไปปลูกต้องรดน้ำให้ด้วย ใช้ปลูกหลุมละ 2-3 ต้น ให้ห่างกัน 40×40 เซ็นติเมตร เมื่อต้นแมงลักเติบโตแต่งกิ่งก้าน ใบก็จะคลุมถึงกันหมด