โป๊ยเซียน:ไม้แห่งโชคลาภ

เรื่อง….”ปลายปีก”

ข้อมูล…คุณประเสริฐ  พุ่มแก้ว

ในบรรดาไม้ดอกไม้ประดับที่กำลังฮิตหรือมาแรงสุดขีดในวงการพันธุ์ไม้บ้านเราในขณะนี้คงหนีไม่พ้นโป๊ยเซียน มีผู้นิยมเล่นโป๊ยเซียนมากขึ้นทั่วประเทศ  เห็นได้จากการประกวดโป๊ยเซียนทั่วประเทศ และพันธุ์โป๊ยเซียนที่เกิดขึ้นใหม่ ๆในวงการ  สมัยก่อนโป๊ยเซียนอาจจะเป็นเพียงไม้เสี่ยงทายสำหรับผู้ปลูกเลี้ยงว่าจะมีโชคดีหรือตกต่ำเท่านั้น แต่ในปัจจุบันได้กลายเป็นไม้แห่งโชคลาภดังตำนานไปแล้ว ในวงการโป๊ยเซียนหลายต่อหลายคนตั้งตัวได้ภายในเวลาไม่นานนักก็เพราะราคาของโป๊ยเซียนเข้าขั้นไม้เศรษฐีเลยทีเดียว  จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากจะพบว่าผู้คนหันมานิยมปลูกโป๊ยเซียนเพื่อการค้ามากขึ้น อีกทั้งโป๊ยเซียนเป็นไม้ที่ปลูกเลี้ยงและขยายพันธุ์ง่าย  หากผสมได้ลูกไม้ใหม่และคนนิยมแล้วล่ะก็เห็นเม็ดเงินเลยทีเดียว คุณประเสริฐ  พุ่มแก้ว เป็นผู้หนึ่งที่หลงใหลในตำนานโป๊ยเซียน เริ่มปลูกโป๊ยเซียนจากความเชื่อและความสวยงามของดอกจนกลายเป็นอาชีพไปในที่สุด  คุณประเสริฐคลุกคลีอยู่ในวงการโป๊ยเซียนจะมีบทบาทโดดเด่นในวงการพันธุ์ไม้เสียอีก  เดิมทีเดียวคุณประเสริฐเป็นครูสอนเกษตรอยู่ที่วิทยาลัยเกษตรกรรมแห่งหนึ่ง  ได้ทดลองผสมและขยายพันธุ์โป๊ยเซียนจนกระทั่งได้ลูกผสมพันธุ์ใหม่ขึ้นมา ตั้งชื่อว่า “เพชรชมภู” เมื่อประมาณปี 2526-27 คงไม่ต้องพูดถึงกันว่าดังขนาดไหนในสมัยนั้น ราคาขายตกกิ่งละประมาณ 500 บาท คุณประเสริฐตั้งหน้าตั้งตาขยายพันธุ์ไม้ต้นนี้อย่างเต็มที่  ได้เงินจากการขายมากทีเดียว แต่ปัจจุบันไม่ค่อยพบไม้ต้นนี้ในท้องตลาดเท่าไรนัก  สาเหตุก็เพราะเป็นไม้ที่ชำกิ่งยากพอสมควร  แต่เรื่องความนิยมนับได้ว่าอมตะเลยทีเดียว และจากการที่ไม้เพชรชมภูชำยากนี้ คุณประเสริฐเลยเปลี่ยนวิธีการชำเป็นเสียบกิ่งโดยใช้ต้น “แดงอุดม” เป็นตอ นับเป็นจุดสำคัญที่ทำให้การขยายพันธุ์โป๊ยเซียนพัฒนาไปสู่การเสียบกิ่งอย่างกว้างขวางจนทุกวันนี้และ “แดงอุดม” ที่คุณประเสริฐตั้งชื่อก็กลายเป็นไม้ตอต้นดังขายดิบขายดีมาจนทุกวันนี้เช่นกัน  คุณประเสริฐนับเป็นผู้ที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาวงการโป๊ยเซียนไม่น้อย ปัจจุบันยังคงผสมและขยายพันธุ์โป๊ยเซียนเพื่อให้ได้ลูกผสมพันธุ์ใหม่ ๆ ออกสู่วงการเสมอ อีกทั้งยังเป็นประธานในการตัดสินการประกวดโป๊ยเซียนแห่งประเทสไทยอีกด้วย จึงไม่พลาดที่จะนำเสนอเคล็ดลับการปลูกเลี้ยงโป๊ยเซียนของคุณประเสริฐมาฝากกัน

การปลูกและการดูแลรักษา

คุณประเสริฐกล่าว่า “โป๊ยเซียนเป็นไม้เล่นไม่ยาก แต่ผู้เล่นโป๊ยเซียนหน้าใหม่ในวงการมักเจอกับปัญหาสุมอกหลายประการด้วยกันเช่น ไม้ไม่ออกกิ่งหรือออกดอก หรือออกดอกแล้วดอกเล็กกว่าของคนอื่น  ซึ่งปัญหาเหล่านี้น่าจะแก้ไขได้โดยง่าย  หากบรรดาผู้ปลูกเลี้ยงเก่า ๆ จะช่วยกันให้คำแนะนำแก่สมาชิกใหม่พวกนี้กลัวว่าถ้าสอนให้คนอื่นเก่งแล้วอีกหน่อยก็จะมาเป็นคู่แข่ง ตรงนี้แหละที่ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาวงการให้ก้าวหน้า” คุณประเสริฐแนะนำการปลูกเลี้ยงว่า

วัสดุปลูก : จะใช้ส่วนผสมของดินใบก้ามปู กาบมะพร้าวสับเล็ก ๆ ปุ๋ยคอก(มูลวัว) อัตราส่วน 1:1:1 เวลาปลูกใช้กาบมะพร้าวสับชิ้นใหญ่ ๆ รองก้นกระถางประมาณหนึ่งในสี่ส่วนที่เหลือใช้ดินผสม ดินผสมควรผสมสารเคมีกันเชื้อราลงไปด้วยเล็กน้อย

โรงเรือน: ในการปลูกเลี้ยงโป๊ยเซียน โรงเรือนนับว่ามีความสำคัญไม่นอ้ยเลย  พื้นโรงเรือนต้องเป็นพื้นยกสูงจากพื้นดิน  ต้องโปร่งอากาศถ่ายเทได้ดี   ใช้ไม้ระแนงตีให้เกิดร่องพรางแสงด้วยซาแลน 60℅ ถ้าเป็นไม้ขนาดเล็กเพิ่งย้ายปลูกต้องพรางแสงมากถึง 80℅ หรือพักในร่มสัก 2-3 วัน เมื่อตั้งตัวได้แล้วจึงนำเข้ามาปลูกในโรงเรือนปกติ  ไม้ที่ให้ดอกควรพรางแสง 40-50℅ เพื่อให้ดอกมีคุณภาพดี

การให้ปุ๋ยและอาหารเสริม: ควรใช้ปุ๋ยออสโมโค้ทสูตร 16-4-6 หรือ 16-8-8 รองก้นกระถาง  เมื่อปลูกเสร็จให้รดด้วยสตาร์ทบี-1  จะทำให้รากเดินเร็ว และทำให้โป๊ยเซียนตั้งตัวได้เร็วขึ้น  สำหรับไม้ที่ทำกิ่งจะเสริมด้วยปุ๋ยนาเซอร์สสูตร 15-5-5 (หรือสูตรตัวหน้าสูง)  เพื่อบำรุงต้นและใบ ถ้าเป็นไม้ทำดอกจะใช้ปุ๋ยนาเซอร์สสูตร 9-18-9 ราดลงดินประมาณ 4-5 ครั้ง เมื่อเห็นตุ่มดอกก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสูตร 0-0-30 เพื่อบำรุงดอกโดยให้พร้อมปุ๋ยสูตร 15-5-5 เพื่อบำรุงก้านดอกราดลงดิน 1-2 ครั้ง จะทำให้ได้ดอกขนาดใหญ่และสมบูรณ์  ก้านดอกแข็งแรง สำหรับเรื่องการให้ปุ๋ยแต่ละคนก็จะมีเทคนิคแตกต่างกันไปจึงไม่ตายตัว

การให้แสง:  สำหรับในไม้ทำกิ่งหรือไม้ต้นเล็ก จะเร่งการเจริญเติบโตโดยใช้หลอดไฟ 60 วัตต์ เปิดทิ้งไว้ทั้งคืน จะทำให้ไม้ต้นเล็กเจริญเติบโตเร็ว

การเปลี่ยนดินปลูก:  เมื่อปลูกเลี้ยงโป๊ยเซียนไปได้นานประมาณ 6-12 เดือน ควรทำการเปลี่ยนดินเสียใหม่เพราะดินเริ่มจืดอาหารในดินมีน้อย ปุ๋ยเคมีที่ใส่จะทำให้ดินแข็งและกลายเป็นกรด ซึ่งอาจเป็นอันตรายกับต้นโป๊ยเซียนจึงต้องเปลี่ยนกระถางให้ใหญ่ขึ้นตามลำดับให้สัมพันธ์กับขนาดและความสูงของต้น ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนดินปลูกจะรดด้วยสตาร์ทบี-1 ทุกครั้ง

การขยายพันธุ์: การขยายพันธุ์ทำได้หลายวิธีด้วยกัน คือ

1.  การชำ คุณประเสริฐบอกว่าการชำในน้ำดีกว่าชำในวัสดุอื่น ๆ วิธีการชำก็ตัดกิ่งที่มีขนาดยาวประมาณ 4 นิ้ว ชุบด้วยฮอร์โมนเซราดิกซ์ เบอร์ 2 ทิ้งไว้ให้แห้งอาจจะเป็นวันเลยก็ได้

จากนั้นนำไปชำในขวดน้ำให้กิ่งแช่ในน้ำประมาณ 1 นิ้ว ตั้งไว้ในร่ม ประมาณ 15 วัน กิ่งชำก็จะออกราก คุณประเสริฐแนะนำว่า “เมื่อโป๊ยเซียนเริ่มสร้างฐานรากซึ่งจะมองเห็นเป็นตุ่มเล็ก ๆ สีขาว ให้นำไปปลูกได้เลย ถ้ารอให้รากยาวมากแล้วนำไปปลูกหมวกรากจะหักทำให้ต้นโตช้า  หากปักชำในวัสดุอื่นเช่น ดิน ทราย ขี้เถ้าแกลบ จะออกรากช้ากว่าคือประมาณ 15-21 วัน และโอกาสที่ต้นจะเน่าตายสูงมาก”

2.  การเสียบยอด วิธีใช้นี้เพื่อเพิ่มจำนวนโป๊ยเซียนที่มีราคาแพง การเสียบกิ่งและความรู้เกี่ยวกับโป๊ยเซียนนี้ คุณประเสริฐเล่าว่าได้รับการถ่ายทอดมาจากผู้ใหญ่ปรีชาคุณพ่อของคุณประนอมซึ่งเป็นเล้าโป๊ยเซียนเก่าแก่และเล้าใหญ่ที่สุดเล้าหนึ่งที่คนในวงการรู้จักกันเป็นอย่างดี การเสียบยอดนั้นจะใช้ต้นตอ “แดงอุดม” เนื่องจากหาอาหารเก่ง ต้านทานโรคดี และเยื่อเจริญติดง่ายกว่าพันธุ์อื่น การเสียบยอดทำโดยการผ่าต้นตอให้เป็นรูปตัววี  จากนั้นก็บากกิ่งที่ต้องการให้เป็นลิ่มเสียบลงไป มัดด้วยเทป แล้วนำถุงพลาสติกมาครอบไว้ คุณประเสริฐแนะนำให้ใช้ขวดพลาสติกของน้ำอัดลม (ขวด 2 ลิตรป ที่ตัดคอขวดออกมาครอบแทนถุงพลาสติก  ซึ่งสามารถซื้อขวดน้ำได้จากรถขยะขวดละ 1 บาทเท่านั้น เป็นวิธีที่ง่าย สะดวก และรวดเร็วกว่าการใช้ถุงพลาสติกเมื่อต้องการเสียบยอดให้ได้ปริมาณมาก  จากนั้นนำต้นที่เสียบยอดพักในร่มประมาณ 7 วัน กิ่งพันธุ์ดีที่เสียบยอดไว้ก็จะติด  จากนั้นเปิดขวดออกนำไปเลี้ยงในโรงเรือนต่อไป มีข้อควรระวังคือ ก่อนเสียบยอด 3 วันไม่ต้องรดน้ำต้นตอ  เพราะรากอาจเน่าได้เมื่อครอบขวดพลาสติกและในต้นที่เตรียมกิ่งไว้เสียบต้องงดปุ๋ยประมาณ 2 สัปดาห์

3.  การเพาะเมล็ดและการผสมพันธุ์ นับเป็นจุดสำคัญที่ทำให้เกิดโป๊ยเซียนต้นใหม่ที่เรียกกันว่า ลูกไม้ใหม่ คุณประเสริฐแนะนำว่าก่อนอื่นต้องคัดเกรดไม้ก่อน  เลือกพ่อ-แม่พันธุ์ที่มีลักษณะดี สำหรับต้นที่ดอกสวยแต่ติดเมล็ดยากก็นำมาเป็นพ่อพันธุ์ ต้นที่ติดเมล็ดง่ายนำมาเป็นแม่พันธุ์  ระยะที่พร้อมผสมก็คือเกสรตัวเมียจะมีน้ำเหนียว ๆ เยิ้มออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนเวลาประมาณ 7-9 โมงเช้า เกสรตัวผู้ที่แก่จะเป็นขุย  การผสมพันธุ์ใช้พู่กันเขี่ยละอองเกสรตัวผู้ไปติดกับเกสรตัวเมียที่เยิ้ม ประมาณ 7-8 วันดอกจะเหี่ยวและเริ่มมีผักที่กลางเกสร ประมาณ 4 สัปดาห์ต่อมาเมล็ดแก่จะลอยออกมาเหนือดอก ต้องรีบเก็บเมล็ด หรือเอาถุงเล็ก ๆ ไปคลุมไว้ เมื่อฝักแตกเมล็ดจะได้ไม่หล่นหาย นำเมล็ดไปเพาะในวัสดุเพาะคือ ทราย ขี้เถ้าแกลบ และขุยมะพร้าว อัตรา 1:1:1 วางกระบะในที่มีแสงแดดรำไร  รดน้ำพอชุ่มทุกวัน ประมาณ 5-7 วัน เมล็ดจะงอกเป็นต้นออกมา หลังจากต้นกล้าเติบโตในกระบะเพาะประมาณเดือนเศษ ๆ ก็แยกลงปลูกในกระถางได้แล้ว อีก 4-5  เดือน ต่อมาก็จะเริ่มทยอยออกดอก  คราวนี้ล่ะก็ลุ้นกันใจจดใจจ่อกันทุกวันเลยว่า ต้นนี้ดอกจะใหญ่จะสวยไหม เล่นเอาเหนื่อยเลยทีเดียว อันนี้ก็เป็นเรื่องของดวงกันแล้วล่ะ  บางครั้งก็ต้องรอฟรีกันถึงครึ่งปี ดังนั้นจึงต้องขยันผสมพันธุ์กันหน่อยคงมีสักต้นที่มีลักษณะตามที่ต้องการ

การทำดอกให้เป็นกิ่ง..ความลับที่ไม่มีใครอยากเปิดเผย

คุณประเสริฐบอกว่า การทำดอกให้เป็นกิ่งเป็นเทคนิคสำหรับเพิ่มจำนวนกิ่งให้มีปริมาณมาก  โดยใช้วีทำให้ดอกออกเป็นกิ่งแซมขึ้นมา  โดยใช้สาร บีเอ (BA) หรือสารกลุ่มไซโตไคนิน  คุณประเสริฐแอบกระซิบว่า “หาซื้อได้แถว ๆ ร้านเคมีเกษตรหน้ามหาวิทยาลัยเกษตาศาสตร์” นำสารนี้ในรูปครีม(ลาโนลิน) ป้ายที่ก้านดอกและใต้กลีบดอกบาง ๆ เมื่อสารบีเอออกฤทธิ์มันจะเร่งให้เกิดการสร้างตาแตกกิ่งขึ้นมาที่บริเวณรอยต่อของกลีบดอก  สามารถนำไปเสียบยอดได้ ที่สำคัญถ้าจะใช้วิธีนี้ต้องทำให้ไม้สมบูรณ์มาก ๆ นับเป็นอีกวิธีหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อวงการโป๊ยเซียนไม่น้อยเลย  โดยเฉพาะกับไม้ที่ให้กิ่งยาก  ถ้าจะให้ดีใช้กิ่งจากตากิ่งข้างลำต้นจะให้กิ่งที่มีคุณภาพดีกว่า  แต่จำนวนกิ่งอาจน้อยกว่า  ซึ่งสามารถเร่งให้แตกกิ่งข้างโดยป้ายสารบีเอ (BA) ที่บริเวณตากิ่งข้างลำต้น  ตานั้นก็จะแตกกิ่งออกมา นำไปเสียบยอดได้เช่นเดียวกัน เคล็ดลับข้อนี้แหละที่คนในวงการปิดกันนักหนาล่ะ..

โป๊ยเซียนยังครองความนิยมในตลาดอีกนาน

คุณประเสริฐบอกว่า “ปัจจุบันคนหันมาเล่นโป๊ยเซียนกันทั่วประเทศ ดูได้จากการประกวดโป๊ยเซียนที่ผมไปตัดสินจะแทบทุกจังหวัดอยู่แล้ว ตลาดยังไปได้อีกไกล เพราะไม่เหมือนต้นไม้ต้นอื่นตรงที่มีลูกไม้แปลกใหม่เกิดขึ้นอยู่เสมอ ไม่เคยหยุดอยู่กับที่” ลักษณะโป๊ยเซียนที่ตลาดต้องการจะต้องมีดอกใหญ่ระดับ 4-6 เซนติเมตรเลยทีเดียว รูปทรงดอกต้องดี เรียบกันเป็นระเบียบ ฟอร์มดอกหนา ลำก้านดอกใหญ่ ก้านส่งดอกสูงกว่ายอด เส้าเกสรใหญ่ เป็นสีที่เกิดใหม่ หรือสีแฟนซี เช่น สีม่วง ดำ ขาว ฟ้า ฯลฯ

ไม้ที่ยังมีความนิยมอมตะก็มีเพชรน้ำหนึ่ง เพชรชมภู นายเมือง ปู่เจ้า สาวเอเซีย พรรณราย อัญมณี และที่กำลังดังในขณะนี้ก็เห็นจะเป็นทรัพย์ประเสริฐ เทพอรชุน นายทองเหม็น หนึ่งในจักรวาล ประเภทกำแพงเมืองจีนก็ต้องยกนิ้วให้เจ้าเซียนและเจ้ายุทธิ์  สาเหตุที่ไม้ได้รับความนิยมและมีราคาแพงนั้น  คุณประเสริฐบอกว่า “มักจะเป็นไม้ที่ติดประกวดบ่อย ๆ ติดอันดับยอดเยี่ยมเสมอ เพราะคนเล่นโป๊ยเซียนจะนิยมไม้ที่ติดประกวดและจะมีการซื้อขายลิขสิทธิ์กันด้วย ราคาที่แพงขึ้นหลักแสน เรียกว่าแทบตั้งตัวได้ว่างั้นเถอะ” ไม้ที่ดัง ๆ ขณะนี้ต้นสูงไม่กี่นิ้วก็ขึ้นหลักหมื่นกันแล้วยังไม่เห็นดอกเลย เมื่อเห็นราคาแล้วก็เร่งพันธุ์ใหม่ ๆ ส่งเข้าประกวดกันนะ คนดวงดีอาจจะเป็นท่านก็ได้

สะสมโป๊ยเซียนต่างประเทศเหมือนกัน

ในต่างประเทศก็เริ่มนิยมโป๊ยเซียนเหมือนกัน   คุณประเสริฐสะสมโป๊ยเซียนของประเทศฮอลแลนด์ เคนยา และญี่ปุ่นไว้หลายต้น “ของเขาจะเด่นกว่าของเราในเรื่องของลำต้นและดอกซึ่งมีขนาดใหญ่ สีสดสวย และสีแปลก อย่างโป๊ยเซียนของเคนยาดอกสีเทาเกือบดำ  ถ้าอยู่ในเขตหนาวจะเป็นสีฟ้า เกสรตัวผู้จะลอยออกมาข้างนอก เป็นลักษณะเด่นที่ไม่มีในบ้านเรา ผมลองนำพันธุ์ของเคนยาผสมกับเจ้าสัวซึ่งมีดอกสีแดงและผสมกลับอีกครั้ง ปรากฎว่าให้ลูกผสมดอกสีม่วง แต่ขนาดดอกยังเล็กอยุ่ยังไม่เป็นที่พอใจก็จะลองผสมพันธุ์ไปเรื่อย ๆ”

โป๊ยเซียนส่งออกยังมีปัญหาแต่อนาคตน่าจะสดใส

คุณประเสริฐให้ความเห็นว่า “โป๊ยเซียนของต่างประเทศยังพัฒนาสู้ของไทยไม่ได้ ตลาดต่างประเทศจึงต้องการโป๊ยเซียนบ้านเรามากเช่นญี่ปุ่น เกาหลี เคนยา บรูไน โดยจะส่งออกในรูปของการล้างราก  เพราะประเทศเขาไม่ยอมให้ดินของเราเข้าประเทศ ต่างประเทศจะกำหนดพันธุ์ ราคา ขนาด และจำนวนมายังเรา  แต่ปริมาณในบ้านเรายังมีน้อยและราคาขายในบ้านเราสูงมาก ต่างประเทศเขาให้ราคาเราต่ำมากจนขายไม่ได้ ถ้าจะพัฒนาการส่งออกต้องมีการรวมกลุ่มกันในรูปสหกรณ์ และต้องพัฒนาในเรื่องการปฏิบัติหลังเก็บเกี่ยวและการขนส่งเพราะมีบางต้นเน่าตายก่อนจะถึงประเทศลูกค้าและหนามโป๊ยเซียนก็เป็นปัญหาหนึ่ง เพราะหนามจะแทงกันเอง  ทำให้โป๊ยเซียนบอบช้ำมาก ถ้าพัฒนาสิ่งเหล่านี้ได้ ผมเชื่อว่าอนาคตการส่งออกโป๊ยเซียนสดใสกว่านี้แน่นอน”

โป๊ยเซียน…ไม้แห่งโชคลาภจริง ๆ

โป๊ยเซียนที่เกิดจากการผสมพันธุ์และได้พันธุ์ใหม่ ๆ ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันด้วยฝีมือคุณประเสริฐมีอยู่หลายพันธุ์ ที่นิยมในปัจจุบันก็คือ กำแพงเมืองจีน เจ้าเซียน และเจ้ายุทธ์ นับเป็นแบบฉบับของกำแพงเมืองจีนที่มีรูปทรงงดงามมาก ราคาแพงและหายาก ขณะนี้คุณประเสริฐกำลังขยายพันธุ์โป๊ยเซียนดอกหอมที่ชื่อ ราชินีกลิ่นหอม อยู่ซึ่งได้มาโดยบังเอิญ เมื่อสังเกตเห็นแมลงมาดมมากกว่าต้นอื่น  พอเข้าไปดมดูบ้าง ปรากฎว่าดอกมีกลิ่นหอม ขณะนี้ยังหวงพันธุ์อยู่ไม่เอาออกตลาดมากนัก และตั้งราคาไว้สูง คุณประเสริฐส่งท้ายถึงโป๊ยเซียนว่า “โป๊ยเซียนเป็นไม้แห่งโชคลาภจริงๆ เพราะโป๊ยเซียนทำให้ผมมีบ้าน มีรถยนต์ และมีความเป็นอยู่ที่สบายขึ้นมาก”

เรื่องของการปลูกเลี้ยงโป๊ยเซียน นับเป็นเรื่องที่มีความยาวพอสมควร ขอฝากข้อคิดสำหรับผู้ที่คิดจะเลี้ยงโป๊ยเซียนพันธุ์ดัง ๆ ไว้สักนิดว่า ให้สอบถามและสังเกตลักษณะประจำพันธุ์ให้ดีก่อนซื้อเพราะบางครั้งอาจจะถูกหลอกได้ ราคาโป๊ยเซียนก็ไม่ใช่ถูก ๆ เสียเงินเสียใจล่ะไม่เท่าไหร่ เสียรู้ล่ะก็น่าเจ็บใจ  สำหรับผู้ที่เริ่มเลี้ยงควรจะหาไม้ที่ดัง ๆ และคุณภาพค่อนข้างดีเอาไว้บ้าง เช่น นายเมือง หนึ่งในจักรวาล น้อมเกล้า สาวเอเซีย อัญมณีและพรรณราย เป็นต้น ซึ่งเหมาะสำหรับเป็นพ่อ-แม่พันธุ์ที่ดีในการผสม หากต้องการทราบความเคลื่อนไหวของวงการโป๊ยเซียนว่าง ๆ ก็ลองไปเดินจตุจักรดูบ้าง กลุ่มผู้ปลูกเลี้ยงโป๊ยเซียนที่นี่มีไม่น้อยเลย…