ไม้ดอกล้มลุก:แพนซี่

Pansy

ชื่อวิทยาศาสตร์ Viola tricolor (VYE-oh-luh TRYE-kol-or)

ชื่อสามัญ Pansy

วงศ์ Violaceae

ถิ่นเดิม ทวีปยุโรป

ความสูง 10-20 ซม.

จำนวนเมล็ดในหนึ่งกรัม 700

สี ม่วงเข้ม ทอง แดง ขาว ครีม ฟ้า

เวลาจากเพาะเมล็ดจนให้ดอก 12 – 14 อาทิตย์

ดอกแพนซี่

ในเมืองหนาวเมื่อเห็นดอกแพนซี่บานนั้นแสดงว่าฤดูใบไม้ผลิมาถึงแล้ว แสดงว่าแพนซี่ต้องการอากาศเย็นมาก ในเชียงใหม่ถ้าอากาศหนาวมากๆ แพนซี่จะให้ดอกดก ดอกใหญ่และมีสีเข้มสวย ปัจจุบันนี้มีพันธุ์ใหม่ ๆ ที่ทนอากาศร้อนได้มากขึ้น การผสมพันธุ์เเละปรับปรุงพันธุ์ทำในอเมริกาและประเทศต่างๆ ในยุโรปแต่มากที่สุดในญี่ปุ่น โดยเฉพาะบริษัท Sakata และ Takii มีพันธุ์ใหม่ๆ ออกมาเรื่อยๆ ทุกปี เป็นพันธุ์ไม่ต้องการอากาศเย็นจัดนัก ทนมลภาวะและฝนได้ด้วย ต้นแข็งแรง ให้ดอกใหญ่ ให้ดอกเร็วขึ้น และบานได้นาน

ดอกของแพนซี่มี 5 กลีบเกยซ้อนกัน มีทั้งดอกสีพื้นและมีแต้ม ชนิดมีแต้มมักมีแต้มสีอื่น สองแต้มบนกลีบคู่กลางและมีแต้มใหญ่สีเดียวกันบนกลีบล่างด้วย ทำให้บางคนเรียกว่าดอกหน้าแมว หรือหน้าลิง ดอกมีขนาดตั้งแต่ 3 นิ้วขึ้นไป ต้นเป็นกอเตี้ยๆ แพนซี่ต้องการร่มบ้าง ไม่ควรปลูกแพนซี่กลางแจ้งที่มีแดดจัดเพราะแพนซี่ต้องการสภาพชื้น ๆ และเย็น อาจปลูกแพนซี่ใต้ต้นไม้ที่ร่มใบไม่ทึบนัก ถ้าปลูกเป็นจำนวนมากต้นใส่ภาชนะวางประดับสถานที่ก็สวยดี ในต่างประเทศนิยมปลูกแพนซี่บนเกาะ กลางถนนเพราะแพนซี่สามารถทนมลภาวะได้ดี หรือปลูกเพื่อตัดดอกมาทำช่อดอกไม้ขนาดเล็กก็เหมาะมาก

การปลูกแพนซี่ในเมืองไทยต้องกะให้ออกดอกในฤดูหนาวเท่านั้นเพราะแพนซี่ชอบอากาศเย็นมีร่มบ้างและดินปลูกต้องชื้น ดินที่ปลูกจึงต้องเป็นดินดีและการให้นํ้าต้องสม่ำเสมอ มีการคลุมดินให้ด้วย ถ้าต้นออกดอกขณะยังเล็กมากให้เด็ดดอกทิ้งเสีย ถ้าต้องการดอกขนาดใหญ่ให้เด็ดดอกทิ้งเสียบ้าง ให้เหลือเพียง 4-5 ดอกต่อต้น ควรให้ปุ๋ยสม่ำเสมอ ตั้งแต่เริ่มปลูกจนต้นโทรมและหมั่นเด็ดดอกที่เริ่มโรยออกกันไม่ให้ติดเมล็ด

แพนซี่มีดอก 2 ชนิดคือ ดอกสีปลอดหรือสีพื้น (cleared) กับดอกที่มีแต้มสีอื่นบนกลีบดอก (blotched หรือ faced) ซึ่งถ้าจัดตามขนาดดอกแล้วจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ

1. ดอกขนาดกลาง คือขนาด 2.5 – 3 นิ้ว บางครั้งเรียกว่า Multiflora Pansy

ดอกสีพื้นได้แก่ ชุด Crystal Bowl มีทรงต้นกะทัดรัด ให้ดอกเร็วกว่าพันธุ์อื่นๆ มีสีม่วงเข้ม สีส้ม พริมโรส (เหลืองอ่อน) โรส (ชมพูกุหลาบ) แดง ม่วง ขาว เหลือง และ ชุด Springtime สีต่างๆ

ดอกมีแต้ม ได้แก่ชุด Imperial สีม่วง (blue) และสีส้ม (orange) ได้ AAS ทั้งคู่ Lyric, Universal และ Maxium

ดอกมีทั้งสีพื้นและมีแต้มปนกัน ได้แก่ชุด Ultima และ Paramount

2. ดอกขนาดใหญ่ คือขนาด 3.5 – 4 นิ้ว บางครั้งเรียกว่า Grandiflora Pansy ดอกสีพื้น ได้แก่ชุด Grown ได้ชื่อว่ามีความสม่ำเสมอยอดเยี่ยม

ดอกมีแต้ม ได้แก่ชุด Majestic Giant, Colossal (หรือ Super Majestic Giant)

ดอกมีทั้งสีพื้นและมีแต้มปนกัน ได้แก่ชุด Character

3. กลุ่มใหม่มีขนาดดอก 2.5 – 3 นิ้ว แต่ให้ดอกดกให้ดอกเร็ว และบานได้นานกว่าสองกลุ่มแรก เรียกว่า Flonbunda Pansy เพิ่งออกมาในปี 1988 ได้แก่ชุด Faces มีสีต่างๆ

4. กลุ่มลูกผสมชั่วที่สอง (F2 Hybrid) ขนาดดอก 2 – 2.5 นิ้ว ต้นสูง 7-8 นิ้ว เมล็ดมีราคาถูกกว่าเมล็ดลูกผสมชั่วที่ 1 (F1 Hybrid) ถึง 1 ใน 4 คือ เมล็ดพันธุ์ Color Festival (F2) นํ้าหนัก 1/32 ออนซ์ราคา 6.25 เหรียญอเมริกัน แต่ Crystal Bowl (F1 ) น้ำหนักเท่ากัน ราคา 25.95 เหรียญอเมริกัน (ราคาจากแคตตาล็อกของบริษัท H.G. German Seeds ปี 1989)

นอกจาก Color Festival ก็มีพันธุ์ Ballerina และ Jolly Joker (AAS 1990)

Jolly Joker ดอกสีม่วงกำมะหยี่ มีแต้มสีส้มสด บางดอกมีเส้นสีม่วงขนาดเส้นดินสอบนแต้มสีส้มสดนั้นด้วย ดอกมีขนาด 2 – 3 นิ้ว ให้ดอกเร็ว และต้นกะทัดรัดดี

5. กลุ่มพันธุ์ผสมเปิด (Open Pollinated Varieties) ได้แก่ ชุด Alpine Giants, Mickey, Swiss Giant mixture, ชุด Forerunner, ชุด Roggli “Elite” Strain

แพนซี่มีดอกสีดำด้วย เช่น Black Pansy เป็นเมล็ดของบริษัท Thompson and Morgan สีดอกเหมือนผ้าไหมสีดำ มีแต้มสีดำเข้มมากและมีตาสีเหลืองสดตรงใจกลางดอก

อีกพันธุหนึ่งชื่อ Imperial Black Prince ดอกสีดำ ขนาด 2.5 – 3 นิ้ว มีตาสีเหลืองสด ตรงกลางดอก เป็นเมล็ดของบริษัท Takii