Tag: ดอกทานตะวัน

ทานตะวัน:ข้อมูลจำเพาะของทานตะวัน

ทานตะวัน(Helianthus anuus) เป็นพืชที่น่ามหัศจรรย์ ดอกทานตะวันจะบานและหันไปทางทิศตะวันออกเสมอ ทานตะวันเป็นพืชที่มีระบบรากลึกและแข็งแรง ทำให้ต้นทนแล้งได้ดีมาก ในปลายปี 2536 ที่แล้งจัด จนต้นข้าวฟ่างที่ปลูกแถว อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ยืนต้นตาย แต่ต้นทานตะวันกลับสามารถเจริญเติบโตให้ผลผลิตได้ดี ดังนั้นจึงเป็นพืชที่น่าสนใจมากที่จะปลูกเป็นพืชปลายฤดูฝน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

พันธุ์

แต่เดิมพันธุ์ที่ใช้ปลูกต้องอาศัยแมลงช่วยผสมเกสร แต่ปัจจุบันมีพันธุ์ลูกผสม (แปซิฟิค 33) เป็นพันธุ์ที่ติดเมล็ดได้ดีโดยไม่ต้องใช้แมลงช่วยผสมเกสร พันธุ์นี้มีอัตราการงอกสูงกว่า 90℅ เก็บเกี่ยวภายใน 105-115 วัน ให้ผลผลิต 400-500 กิโลกรัมต่อไร่

การปลูก

เริ่มด้วยการไถเตรียมดินให้ร่วนซุย ควรทำเมื่อดินมีความชื้นเพียงพอ ก่อนไถดายหญ้าให้เตียน หว่านปุ๋ยคอกอัตรา 1.5 ลูกบาศก์เมตรต่อไร่ แล้วจึงทำการไถดะให้ลึกที่สุด หลังจากนั้นจึงไถแปรให้พื้นที่เรียบสม่ำเสมอตลอดแปลง ถ้าแปลงเป็นที่ลุ่มน้ำขังได้ … Read More

ทานตะวัน:ไม้ดอกยอดนิยมปลูกได้โดยไม่ต้องใช้สารเคมี

ทานตะวันเป็นไม้ล้มลุกอายุ 1 ปี ใบรูปกลมรี โคนใบโค้งเว้าเป็นรูปหัวใจปลายใบแหลมขอบใบหยักแบบฟันปลา หลังและใต้ท้องใบมีขนสาก ดอกออกเป็นช่อหรือกระจก กลีบดอกวงในมีสีเหลือง กลีบดอกวงนอกสีเหลืองอ่อนหรือเหลืองทอง ล้อมรอบเกสรขนาดใหญ่คล้ายจานเป็นไม้ดอกที่มีลักษณะพิเศษคือ ดอกจะหันหน้าเข้าหาดวงอาทิตย์เสมอ

พันธุ์ที่นิยมปลูกเป็นไม้ตัดดอก เช่น พันธุ์คัลเลอร์ แฟชั่น (Color Fashion) อิตาเลี่ยน ไวท์ (Italian White) ซึ่งเป็นชนิดที่แตกกิ่งก้านสาขา มีลำต้นสูงประมาณ 4-5 ฟุต ขนาดดอกประมาณ 3-4 นิ้ว

การขยายพันธุ์

ทานตะวันขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด ซึ่งนิยมเพาะเมล็ดในแปลงปลูกโดยตรง ทานตะวันสามารถปลูกได้ดีในดินทุกชนิด ทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดี และชอบแสงแดดจัด

การเลือกสถานที่ปลูก

สถานที่ปลูกทานตะวันควรเป็นที่โล่งแจ้ง ได้รับแสงอย่างน้อยไม่ต่ำกว่าวันละ 8-10 ชั่วโมง หากปลูกในที่ที่ได้รับแสงน้อยจะให้ผลผลิตต่ำ … Read More