วงศ์ออร์คิเดซีอี (ORCHIDACEAE)
ประเทศไทยนับเป็นแหล่งหนึ่งในโลกที่มีกล้วยไม้ขึ้นอยู่ตามธรรมชาติมากถึงพันชนิด และเป็นที่รู้จักกันค่อนข้างมากเมื่อเปรียบเทียบกับพันธุ์ไม้อื่นๆ มีชื่อไทยเรียก เช่น เอื้องหวายและ ว่าน นำหน้าชื่อกลุ่มต่างๆ ได้แก่ เอื้องคำ (Den- drobium chrysotoxum Lindl.) หวายแดง (Renan- thera coccinea Lour.) ว่านเพชรหึง (Grammato- phyllum speciosum Bl.) เป็นต้น ลำต้นมักจะอวบนํ้า มีข้อปล้องเห็นได้ชัด ใบเดี่ยวและมักจะ หนา ดอกช่อหรือดอกเดี่ยว มีกลีบเลี้ยงและกลีบดอกอย่างละ 3 กลีบ กลีบดอกหนึ่งกลีบมีลักษณะพิเศษคือ มีรูปร่างเปลี่ยนแปลงไปมาก อาจจะเป็นแผ่นใหญ่หรือเล็กกว่ากลีบอื่น ๆ หรือแยกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นถุงและส่วนที่แผ่แบน กลีบดอกกลีบนี้คนไทยเรียก ‘กระเป๋า’ หรือ ‘lip’ ซึ่งอยู่ในตำแหน่งตรงข้ามกับเส้าเกสร นอกจากนี้ละอองเกสรตัวผู้ของกล้วยไม้ยังเกาะกันเป็นกลุ่มก้อนมีจำนวนรูปร่างต่าง ๆ กัน
Bulbophyllum lindleyanum Griff.
สิงห์โต
กล้วยไม้สกุล Bulbophyllum นิยมเรียกกัน ว่า ‘สิงห์โต’ เนื่องจากกลีบดอกพิเศษยึดติดกัน โคนเส้าเกสรแบบบานพับ ทำให้เคลื่อนไหวได้ง่าย กลีบอื่น ๆ ในแต่ละกลุ่มย่อยก็เช่นเดียวกันมักมีลักษณะเฉพาะกลุ่ม ลำต้นของกล้วยไม้สกุลนี้มี ‘ลูกกล้วย’ รูปทรงต่างๆ กัน อาจกลม รี แบน หรือรูปคล้ายหยดน้ำ จำนวนใบต่อต้นมีเพียง 1 หรือ 2 ใบ โดยมากเป็นพืชอิงอาศัยหรือพบบนหิน สิงห์โตชนิดนี้ปัจจุบันจัดเป็นพืชหายาก ออกดอกในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม
Ascocentrum semiteretifolia Seid.
เข็มชมพู
กล้วยไม้สกุลเข็ม (Ascocentrum spp.) เป็นสกุลที่นิยมปลูกเป็นไม้ประดับกันมาก ที่รู้จักกันค่อนข้างดี ได้แก่ เข็มแสด (Ascocentrum miniatum Schltr.) เข็มม่วง (Ascocentrum ampullaceum Schltr.) และเข็มแดง (Ascocentrum curvifolium Schltr.) ส่วนเข็มชมพูเป็นกล้วยไม้ที่พบเมื่อปี พ.ศ. 2511 และยังไม่มีการรายงานว่าพบในประเทศอื่น เป็นกล้วยไม้ที่สวยงามและหายาก ยังไม่เป็นที่รู้จักกันแพร่หลาย ออกดอกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน