ข้อมูลของโล่ติ๊น


ชื่อวิทยาศาสตร์ Derris elliptica Benth.
ชื่ออื่นๆ กะลำเพาะ (เพชรบุรี) เครือไหลนํ้า หางไหลแดง ไหลนํ้า (เหนือ) อวดนํ้า(สุราษฎร์ธานี) โพตะโกส้า (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน)
ชื่ออังกฤษ Derris, Tuba Root, Touba, Aker-tuba, East Indian Fish Poison.
ลักษณะ เป็นไม้เถาเนื้อแข็ง เปลือกของเถาแก่สีนํ้าตาลเข้ม ชอบเลื้อยพาดกับต้นไม้อื่น ใบเป็นใบประกอบแบบขนนกมี 7 ใบขึ้นไป ใบย่อยใหญ่เกือบเท่าใบลำใยรูปไข่กลับแกมขอบขนานกว้าง 5-7 ซ.ม. ยาว 12-18 ซ.ม. ใบอ่อนเป็นสืนํ้าตาล ดอกออกเป็นช่อ ดอกย่อยสีชมพู บานจากล่างไปบน รูปดอกเป็น papiliona¬ceous form ผลเป็นฝักชนิด pod แบนๆ ภายในมี 1-3 เมล็ด
ส่วนที่ใช้ เถา ราก
สารสำคัญ มีสาร rotenone 13% ในราก
ประโยชน์ ใช้เป็นสารฆ่าแมลงที่ปลอดภัย ไม่เป็นพิษต่อสัตว์เลือดอุ่นสาร rotenone สลายตัวง่ายไม่ติดค้างอยู่บนพืชผัก จึงเหมาะสำหรับใช้เป็นสารฆ่าแมลงในสวนครัว หรือพืชที่ปลูกในบริเวณบ้านเรือน
รากหางไหล ยังใช้เบื่อปลาได้ โดยเอารากทุบๆ แล้วแช่นํ้าไว้ น้ำจะมีสีขาวเหมือนนํ้าซาวข้าว เทลงในบ่อ ปลาจะตายลอยขึ้นมา ปลาที่ฆ่าโดยหางไหล ใช้รับประทานได้ไม่เป็นพิษ นอกจากนั้นยังใช้ฆ่าพวกแมลงที่บินได้ เช่น ยุง โดยเอา rotenone รวมกับสารที่ชื่อว่า “pyrethrin” จะสามารถทำให้ยุง หล่นตายทันที เรียกว่า “knock down” ประเทศสหรัฐอเมริกาสั่งรากหางไหลเข้ามากที่สุด ในปี 1939 มีนํ้าหนักมากกว่า 4 ล้านปอนด์ สำหรับ ในปี 1954 สั่งเข้า 7 ล้านปอนด์ ถึงแม้ว่าการใช้สารสังเคราะห์ในการฆ่าแมลงจะลดลงแต่การใช้สารโรตีโนนก็ยังคงเป็นที่นิยมกันอยู่ ในปี 1963 สั่งเข้า รากหางไหลมากกว่า 3 ล้านปอนด์ ถ้านำมาสกัดจะให้ rotenone ประมาณ 1 ล้านปอนด์
ที่มา:ศาสตราจารย์พเยาว์  เหมือนวงษ์ญาติ