วิธีการขยายพันธุ์กุหลาบโดยการเพาะเมล็ด

การขยายพันธุ์กุหลาบโดยการเพาะเมล็ด

กุหลาบเป็นไม้ดอกที่ขยายพันธุ์ได้ง่ายกว่าไม้ดอกอื่น ๆ หลายชนิด คือ สามารถขยายพันธุ์ได้โดยการเพาะเมล็ด  การตัดชำทั้งด้วยกิ่งและด้วยราก การตอนกิ่ง การติดตา การต่อกิ่ง  ตลอดจนการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ

1.  การเพาะเมล็ด

การขยายพันธุ์ด้วยวิธีนี้  มุ่งที่จะได้พันธุ์ใหม่ ๆ แปลก ๆ เท่านั้น ทั้งนี้เนื่องจากกุหลาบที่ปลูกอยู่ทุก ๆวันนี้เป็นลูกผสมทั้งหมด  การขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดจึงทำให้ได้ทันที  ไม่เหมือนพ่อแม่และไม่เหมือนกันเลยระหว่างลูกด้วยกัน  จึงไม่เหมาะที่จะใช้โดยทั่วๆ ไป  แต่เหมาะสำหรับนักผสมพันธุ์เพื่อที่จะหาพันธุ์ใหม่  ที่มีลักษณะดีเด่นกว่าต้นพ่อต้นแม่

การเพาะเมล็ดกุหลาบแตกต่างจากการเพาะเมล็ดไม้ดอกทั่วๆ ไป  เริ่มต้นจากเมล็ดกุหลาบที่มีการฟักตัวอยู่ชั่วขณะหนึ่ง  หลังจากเก็บเมล็ดมาจากต้นแล้ว  นำมาเพาะทันทีเมล็ดจะไม่งอกแม้จะปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมอย่างไรก็ตาม  ด้วยเหตุนี้  จึงต้องนำเมล็ดไปทำให้พ้นสภาพการฟักตัวเสียก่อน

ก.  การทำให้เมล็ดพ้นจากสภาพการฟักตัว  อาจทำได้ 2 วิธีคือ

1. นำฝักกุหลาบที่แก่เต็มที่ไปฝังไว้ในกระบะที่บรรจุทรายชื้น เก็บไว้ในอุณหภูมิ 41 องศาฟาเรนไฮน์  เป็นเวลา 3 เดือนแล้ว จึงเอาฝักกุหลาบมาแกะเอาเมล็ดเพาะ

2.  เมื่อตัดฝักกุหลาบมาจากต้น นำมาผ่าครึ่งด้วยมีด ใช้หัวแม่มือและนิ้วชี้เขี่ยเอาเมล็ดออกมา  เมล็ดกุหลาบมีลักษณะคล้ายเมล็ดแอปเปิ้ล ขนาดใกล้เคียงกัน (ขนาดของเมล็ดขึ้นอยู่กับพันธุ์)ฝักหนึ่ง ๆ อาจจะมีถึง 70 เมล็ด(5-70)

–  นำเมล็ดไปผึ่งลมให้แห้ง  อาจใช้เวลาประมาณ 7-10 วัน

–  นำเมล็ดที่ได้ไปเก็บไว้พีทมอสชื้น โดยใช้พีทมอส 3 ส่วนต่อเมล็ด 1 ส่วน

–  บรรจุส่วนผสมของพีทมอสและเมล็ดในขวดแก้วปากกว่าง  ปิดปากขวดด้วยผ้าขาวบางให้อากาศผ่านได้หรืออาจบรรจุลงในถุงพลาสติคแล้วรวบปากถุงด้วยเชือก  หรือยางรัดหลวม  พออากาศถ่ายเทได้บ้าง

–  เก็บขวดแก้วหรือถุงพลาสติคไว้ในตู้เย็น(ช่องผัก)เป็นเวลา 3 เดือน

–  ระหว่างที่เก็บต้องคอยตรวจความชื้นพีทมอสอยู่เสมอ ๆ ถ้าแห้งต้องรดน้ำเพิ่ม

–  เมื่อครบ 3 เดือนแล้ว เมล็ดจะเริ่มงอก  จึงนำเอาเมล็ดที่เริ่มงอกไปเพาะในอุณหภูมิธรรมดาต่อไป

ถ้าไม่มีพีทมอส  อาจจะใช้สแพกนั่มมอสแทนก็ได้  จากการทดลองของ ผศ.สนั่น  ขำเลิศ  ภาควิชาพืชสวน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และ นส.อุบลพงษ์  แสงวานิช  ได้ใช้สแพกนั่มมอสสับเป็นท่อนยาว ¼ – ½ นิ้ว  แช่น้ำจนอิ่มตัว  แล้วจึงบีบเอาน้ำออกจนสะเด็ดน้ำ  แล้วนำไปผสมกับเมล็ดในอัตราส่วน 3 : 1 และทำต่อไปเหมือนวิธีดังกล่าวข้างต้นทุกประการ  หลังจากเก็บเมล็ดไว้ในตู้เย็นได้ 1 เดือน  ได้คอยตรวจดูความงอกของเมล็ดในถุงทุก ๆ สัปดาห์  ปรากฎว่าเมล็ดเริ่มงอก เมื่อเก็บได้ 2 ½ เดือน  จึงทยอยเอาที่งอกออกไปเพาะต่อไป

เนื่องจากเมล็ดของกุหลาบมีเปลือกหนา  เมื่อเปรียบกับไม้ดอกชนิดอื่น  การปฏิบัติการบางอย่างกับเมล็ดเช่น  การทำให้เปลือกหุ้มเมล็ดบาง หรืออ่อนตัวลงเพื่อจะช่วยให้เมล็ดงอกเร็วขึ้น  น่าจะได้รับการพิจารณา ดังนั้น เพื่อช่วยให้เมล็ดกุหลาบงอกเร็วขึ้น  จึงได้มีการแช่เมล็ดกุหลาบในน้ำอุ่นประมาณ 80 องศาเซลเซียส นาน 2-3 ชั่วโมงโดยใช้น้ำ 1 ส่วนต่อเมล็ด 1 ส่วน  แล้วจึงนำไปคลุกเคล้ากับสแปกนั่มมอส  หรือ พีทมอสต่อไป

ข.  การเพาะเมล็ด  หลังจากเมล็ดงอกรากออกมาแล้ว  นำเอาไปเพาะในกระถาง หรือกระบะเพาะต่อไป ในต่างประเทศใช้ส่วนผสมสูตรของ จอห์น  อินเนส(John Innes) โดยมีส่วนผสมดังนี้

1)  ดินร่วน 2 ส่วน

2)  พีทมอส 2 ส่วย

3)  ทรายหยาบ 1  ส่วน

โดยปริมาตร

ส่วนผสมนี้ 1 ลูกบาศก์หลา

เติม

–          ซูเปอร์ฟอสเฟต 2 ปอนด์

–         ปูนดิบ(ground limestone) 1 ปอนด์

หรืออาจใช้สูตรที่มีส่วนผสมดังนี้

1)  ดินร่วน  3  ส่วน

2)  พีทมอส 2 ส่วน

3)  ทรายหยาบ  1 ส่วน

โดยปริมาตร

ในเมืองไทยหาพีทมอสได้ยาก อีกทั้งราคาแพงมาก  อาจใช้ใบไม้ผุหรือขุยมะพร้าวแทนได้เป็นอย่างดี หรืออาจจะดัดแปลงไปตามวัสดุที่เราหาได้รอบ ๆ ตัวเรา  โดยยึดหลักว่า ส่วนผสมนั้นจะต้อง

1)  สะอาด ปราศจากเชื้อโรค

2)  โปร่ง ระบายน้ำได้ดี

3)  อุ้มความชื้นไว้พอสมควร

4)  มีปริมาณเกลือแร่ต่ำ

5)  มีธาตุอาหารพืชพอควร

นำเอาส่วนผสมที่ได้คลุกกับน้ำให้ชื้นพอดี  ไม่ถึงกับแฉะ  แล้วบรรจุลงในกระถางหรือกระบะ  ถ้าจำนวนเมล็ดที่งอกมามีไม่มาก  อาจใช้กระถางขนาด 2 นิ้วแสตนดาร์ด(ความสูงเท่ากับความกว้างของปากกระถาง)  ถ้าจำนวนเมล็ดที่งอกมีจำนวนมากพอที่จะปลูกในกระบะ  หรือตะกร้า  โดยบรรจุส่วนผสมที่คลุกเคล้าชื้นแล้วลงไปประมาณ 2/3 ของตะกร้า  เกลี่ยหน้าดินให้เรียบ  ทำร่องตามทางยาวของตะกร้า  ให้แต่ละร่องห่างกัน 1 นิ้ว ลึก 1 ซม.  โดยให้แต่ละร่องเป็นรูปตัววี (V-shape) ใช้ปากคีบ ๆ เมล็ด (อย่างเบามือที่สุด) วางลงที่ก้นร่อง  โดยให้รากจิ้มลงไปในดิน 1 ระยะห่างระหว่างเมล็ดประมาณ 1 นิ้ว เรียงเมล็ดจนครบทุกร่อง  ถ้าใช้ตระกร้าขนาด 10×14 นิ้ว  จะเพาะกุหลาบได้ประมาณ 100 เมล็ด กลบร่องด้วยส่วนผสมอันเดิม  พยายามทำให้ผิวหน้าของดินเรียบสม่ำเสมอกันทั้งตะกร้า  ด้วยการใช้ไม้ท่อนหนา 1 นิ้ว  กว้าง 2 ½ นิ้ว ยาวประมาณ 6 นิ้ว  หรือจะใช้แปรงลบกระดานดำที่ใช้แล้ว  ตบลงไปบนผิวดินเบา ๆ จะกระชับเมล็ดและราก  จะช่วยให้เมล็ดแตกยอดได้เร็วขึ้น

น้ำที่ใช้รดในระยะที่เพาะเมล็ดนี้จะต้องสะอาด  พยายามรักษาความชุ่มชื้นของดินในกระบะหรือตะกร้า หรือกระถางที่ใช้เพาะไว้ในถุงพลาสติก  รวบปากถุงไว้ให้แน่นพอสมควรก็ได้

หลังจากนี้ประมาณ 5-7 วัน เมล็ดจะเจริญงอกใบเลี้ยงและใบจริงตามลำดับ  จะนำตะกร้าออกจากถุงพลาสติกเลยก็ได้ เพื่อว่าต้นกล้าจะได้รับแสงแดดบ้าง  แต่ไม่ควรจะได้รับแสงแดดโดยตรงเพราะกล้าที่ได้ยังเล็กนัก  ควรจะดูแลอย่างใกล้ชิดต่อไปจนกว่าจะมีใบจริง 3-4 ใน  จึงจะย้ายลงกระถางเดี่ยวเล็ก ๆ (ไม่เกิน 3 นิ้ว)  โดยใช้ส่วนผสมของดินปลูก เช่นเดียวกับใช้เพาะ  ตั้งทิ้งไว้ในที่มีแสงเพิ่มขึ้น ๆ และออกแดดในที่สุด

นับจากวันย้ายกล้าจนกระทั่งมีดอกแรก  ใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน

จากนี้จะย้ายลงในกระถางขนาดใหญ่ขึ้นเป็นลำดับ ดอกที่ให้ดอกแรก ๆ จะมีขนาดดอกเล็ก กลีบดอกน้อย สีไม่สวย ดอกต่อ ๆ ไปเมื่อต้นโตขึ้น  จะได้ดอกที่มีลักษณะและคุณภาพที่แท้จริง  ดังนั้น  ควรที่จะตัดต้นใดทิ้ง  หรือต้นไหนควรจะเอาไว้นั้นควรจะได้แน่ใจเสียก่อน