วิธีการทำความสะอาดด้วยวิธีธรรมชาติ

1.  การทำความสะอาดทั่วไป

–  ผสมสบู่เหลวหรือบอแรกซ์ 1 ช้อนชา ในน้ำอุ่นหรือ น้ำร้อน 1 ลิตร เติมน้ำมะนาวหรือน้ำส้มสายชูลงไป 1-2 ช้อนชา แล้วนำไปเช็ดถูบริเวณที่เป็นคราบไขมันสกปรก

–  ผสม Washing Soda (hydrated sodium carbonate) 3 ช้อนชา ในน้ำอุ่น 1 ลิตร ใช้ได้กับทุกพื้นผิวยกเว้นอลูมิเนียม

2.  วิธีกำจัดกลิ่นเหม็น/กลิ่นอับ

–  หาแหล่งกำเนิดกลิ่นเหม็นให้พบ แล้วกำจัดออกไป

–  หมั่นทำความสะอาดบ้านเรือนและข้าวของเครื่องใช้ให้สะอาด และเปิดประตูหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทให้สะดวก

–  ใช้น้ำส้มสายชูหรือผงฟู 2-4 ช้อนโต๊ะ ใส่ในจานแล้ววางไว้เพื่อดูดกลิ่น

–  นำไม้ประดับมาตั้งวางเพื่อดูดกลิ่นและฟอกอากาศ

–  ใช้สมุนไพร หรือเครื่องเทศที่ให้กลิ่นหอมมาต้มแล้วตั้งวางไว้

3.  การทำความสะอาดพื้น

–  เช็ดถูด้วยน้ำธรรมดา

–  ใช้น้ำส้มสายชู 1 ถ้วย ผสมกับน้ำอุ่น 1 แกลลอน 5 ลิตร ถูทำความสะอาดพื้น

4.  การล้างจานชาม

–  ใช้สบู่เหลวธรรมดาทั่ว ๆ ไปล้างจาน

–  ใช้ฟองน้ำกับสบู่ก้อน

–  ผสมน้ำส้มสายชู หรือน้ำมะนาว 1-3 ช้อน ลงกับสบู่เหลวล้างจานชามที่สกปรกมีคราบไขมันมาก

–  การทำความสะอาดจานชามและอุปกรณ์ครัวที่ทำด้วยไม้ ให้ใช้มะนาวฝานเป็นชิ้นบาง ๆ แล้วขัดบนพื้นผิวของภาชนะเหล่านั้น ล้างออกแล้วเช็ดให้แห้งด้วยผ้าสะอาดและอาจโรยเกลือตาม เพื่อดูดความชื้นจากไม้ก็ได้ นอกจากนั้นยังอาจใช้ผงฟูผสมกับน้ำเช็ดภาชนะที่ทำด้วยไม้ก็ได้ผลดี

–  ขจัดคราบสกปรกบนภาชนะเคลือบ ให้ใช้เกลือ ผสมกับน้ำส้มสายชูถูบริเวณที่สกปรก

–  ขจัดคราบรอยไหม้ของเศษอาหาร ให้โรยผงฟูให้ ทั่วบริเวณรอยไหม้ราดน้ำให้ชุ่ม ทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง เศษอาหารไหม้เกรียมจะหลุดออก

–  ขจัดคราบตะกอนในกาน้ำ ให้ใช้น้ำส้มสายชูกลั่น 1 ถ้วยครึ่ง ละลายในน้ำเปล่า 1 ถ้วยครึ่ง เติมเกลือ 3 ช้อนชา ลงในกาน้ำ ต้มให้เดือด 15 นาที ปล่อยทิ้งไว้ข้ามคืน 1 คืน จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด

–  การล้างขวด ให้ใช้ทรายกรอกลงไปในขวดผสมกับ น้ำปิดปากขวดด้วยฝาหรือมือ เขย่าแรง ๆ คราบตะไคร่เขียวจะหลุดออก

5.  การทำความสะอาดท่อระบายน้ำ

–  ใช้ไม้ปั๊ม หรืองูเหล็กดันหรือเขี่ยเศษอาหารอุดตัน

–  เทผงฟู 1 กำมือ และน้ำส้มสายชูครึ่งถ้วยลงในท่อระบายน้ำ ปิดปากรูให้แน่นด้วยเศษผ้าประมาณ 1 นาที ปฏิกิริยาระหว่างผงฟูกับน้ำส้มสายชู จะทำให้เกิดแรงดันในท่อระบายน้ำ และดันเศษอาหารที่อุดตันอยู่ออกไป แล้วเทตามด้วยน้ำร้อน

–  เทเกลือและผงฟูอย่างละครึ่งถ้วยลงในท่อ แล้วเทน้ำเดือดตามลงไป 6 ถ้วย ทิ้งไว้ข้ามคืน จากนั้นราดน้ำแรง ๆ ด้วยน้ำธรรมดา

–  ทางที่ดีในการป้องกันไม่ให้ท่อระบายน้ำทิ้งอุดตัน ด้วยการใช้ตะแกรงกรองเศษผง เศษอาหาร เศษขยะ เศษเส้นผม ไม่ให้ไหลลงสู่ท่อระบายน้ำ และไม่ควรเทกากของเสียประเภทไขมันลงในท่อ ควรทิ้งลงในถังขยะหรือถังทิ้งน้ำมัน และควรพยายามใช้น้ำมันจนกว่าจะหมดคุณภาพ

6.  การฆ่าเชื้อโรค

–  ชำระล้างข้าวของเครื่องใช้เป็นประจำด้วยสบู่และน้ำธรรมดา แล้วล้างอีกครั้งด้วยน้ำร้อน เพียงเท่านี้ก็สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้

–  ควรให้ข้าวของเครื่องใช้แห้งอยู่ตลอดเวลา เพราะแบคทีเรียและเชื้อราไม่สามารถมีชีวิตหรือเติบโตได้ในที่แห้ง

–  ใช้บอแรกซ์ครึ่งถ้วยละลายในน้ำร้อน 1 แกลลอน (5 ลิตร) ใช้ล้างข้าวของเครื่องใช้ที่ต้องการฆ่าเชื้อโรคได้

7.  การขัดเงาพื้นและเฟอร์นิเจอร์

–  ใช้ผ้านุ่ม ๆ เช็ดถูอย่างธรรมดา ๆ

–  ใช้ผ้าชุบน้ำชาเช็ดถูพื้นหรือเฟอร์นิเจอร์

–  ใช้น้ำมันมะกอก 1 ช้อนชา น้ำมะนาว 1 ผล ผสมกับน้ำ 1 ช้อนชา ชุบด้วยผ้าใช้เช็ดถู

–  ใช้น้ำมันพืช 1 ส่วน ผสมกับน้ำมะนาวหรือน้ำส้มสายชู 1 ส่วน ชุบด้วยผ้าบาง ๆ ใช้เช็ดถู วิธีนี้ยังสามารถช่วยลบรอยขูดขีดได้ด้วย

–  ใช้น้ำมันมะกอก 3 ส่วน ผสมกับน้ำส้มสายชู 1 ส่วน ชุบด้วยผ้าบาง ๆ เช็ดถู

–  กรณีที่มีรอยสกปรกจากคราบไขมัน ให้รีบเทเกลือลงไปบนรอยเปื้อนทันทีเพื่อให้ดูดซับคราบไขมัน และป้องกันไม่ให้เกิดคราบฝังแน่น

8.  การเช็ดกระจก

–  ใช้น้ำส้มสายชูผสมกับน้ำอย่างละ 1 ส่วน ชุบด้วยผ้านุ่ม ๆ เช็ดกระจกหรือจะใส่กระบอกฉีด ๆ ที่กระจก แล้วใช้ผ้านุ่มเช็ดตาม

–  หากใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำเช็ดกระจกแล้วอาจจะเกิดคราบจากน้ำที่เช็ดเนื่องจากคราบตกค้างของน้ำยาเช็ดกระจกแบบที่มีส่วนผสมของสารเคมีตกค้างอยู่ จึงควรเช็ดออกก่อนด้วยแอลกอฮอล์ก่อน

–  สำหรับกระจกที่เป็นฝ้ามัว ให้ใช้ผ้าเปียกถูกับ สบู่ก้อน แล้วเช็ดบนกระจก จากนั้นล้างออกแล้วเช็ดตาม ด้วยผ้าแห้ง

–  รอยขูดขีดบนกระจก ให้ใช้ยาสีฟันถู แล้วใช้ ผ้านุ่มเช็ดเบา ๆ

9.  ทำความสะอาดพรม เฟอร์นิเจอร์ เบาะ นวม

–  การดูดกลิ่นให้ใช้ผงฟูหรือแป้งข้าวโพด โรยบนพรมโดยใช้อัตราส่วน 1 ถ้วย ต่อพื้นที่ห้องขนาดกลาง ทิ้งไว้ 30 นาที แล้วใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดออก ถ้ากลิ่นติดแน่น ให้โรยทิ้งไว้ข้ามคืนแล้วจึงดูดออก

–  คราบเหนียวเหนอะหนะ ใช้ผงฟูทาทับรอยเปื้อน แล้วใช้มือถูเบา ๆ ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วจึงเช็ดออกทำซ้ำอีกถ้ารอยเปื้อนยังไม่หมด

–  คราบไขมัน ใช้แป้งข้าวโพดทาทับรอยเปื้อน ทิ้งไว้สัก 1 ชั่วโมง จากนั้นเช็ดออก

–  คราบไขมัน ใช้แป้งข้าวโพดทาทับรอยเปื้อน ทิ้งไว้สัก 1 ชั่วโมง จากนั้นเช็ดออก

–  คราบเขม่าหรือเถ้าถ่าน ใช้เกลือทาทับบาง ๆ แล้วเช็ดออก

–  คราบปัสสาวะของเด็ก หรือสัตว์เลี้ยง เช็ดด้วยน้ำธรรมดา 1 ครั้ง จากนั้นใช้น้ำส้มสายชู 3 ช้อนโต๊ะ ผสมกับสบู่เหลว 1 ช้อนชา เช็ดถูบริเวณรอยเปื้อน ทิ้งไว้ 15 นาที จึงเช็ดออก

10.  การกำจัดมด แมลงสาบ ยุง

มด

–          ใช้ฟองน้ำเปียก ๆ เช็ดตามทางเดินมด มดจะหาทางเดินไม่เจอ

–          โรยพริกป่น สะระแหน่แห้ง กากกาแฟ ตามบริเวณที่มดเดินหรือบีบ   มะนาวไว้ตรงนั้น ปลูกสะระแหน่ไว้รอบบ้าน มดจะไม่เข้าใกล้

–         ใช้ผงฟูโรยตามทางเดินมด

–         ใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำเช็ดตามทางเดินมด

แมลงสาบ

–         ใช้ข้าวโอ๊ตหรือแป้งข้าวโพดผสมกับปูนพลาสเตอร์ ในอัตราส่วนเท่า ๆ กัน โรยบริเวณที่แมลงสาบมารบกวน เมื่อแมลงสาบกินเข้าไปปูนพลาสเตอร์จะแข็งตัวแมลงสาบจะตาย

–         ใช้ผงฟูผสมกับน้ำตาลทรายอย่างละเท่า ๆ กัน โรยบริเวณที่แมลงสาบมารบกวน

–         ใช้แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ ผงโกโก้ 1 ช้อนโต๊ะ บอแร็กซ์ 4 ช้อนโต๊ะ ผสมให้เข้ากันใช้โรยบริเวณที่แมลงมารบกวน

ยุง

–         เอาตะไคร้หอมหั่นแล้วตำคั้นเอาแต่น้ำแล้วนำไปเคี่ยวจนเป็นน้ำมันใช้ทาผิวหนังกันยุง

–         ใช้กาบมะพร้าวหรือเปลือกส้มตากแห้งสุมไฟ เพื่อให้เกิดควันไล่ยุง

–         ปลูกต้นแก้วหรือต้นราตรีไว้บริเวณปากประตู หน้าต่าง จะช่วยไล่ยุงได้