เครื่องมือเกษตร

เครื่องมือเกษตร หมายถึง สิ่งที่มนุษย์ประดิษฐ์หรือสร้างขึ้นมาเพี่อใช้ผ่อนแรงในการทำการเกษตร และทำให้งานดำเนินไปอย่างสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

ประโยชน์ของเครื่องมือเกษตร

1. ทุ่นแรง เพราะเครื่องมือต่างๆ จะช่วยให้ผู้ใช้เหนื่อยน้อยลง เช่นการใช้จอบขุด แทนมือขุด การใช้รถเข็นแทนการแบกหาม เป็นต้น

2. ทุ่นเวลา การใช้เครื่องมือจะทำงานได้รวดเร็วและทุ่นเวลา

3. ทำงานได้มากและรวดเร็ว จึงสามารถขยายกิจการของฟาร์มให้ใหญ่ขึ้นได้

4. ลดค่าใช้จ่าย เช่นการใช้รถแทรคเตอร์สามารถพรวนได้วันละ 50 ไร่ แต่การพรวด้วยแรงสัตว์ จะได้เพียง 5 ไร่

5. ใช้แทนอวัยวะของคน เช่นเครื่องพ่นยาแบบต่างๆ ระหัดวิดน้ำด้วยแรงลม เครื่องกระเทาะเมล็ด เป็นต้น

ประเภทของเครื่องมือเกษตร

เครื่องมือเกษตรมีมากมายหลายชนิดตามแต่ประเภทของงานเกษตร เช่น เครื่องมือสำหรับงานทางพืช เครื่องมือสำหรับการเลี้ยงสัตว์ การเลี้ยงปลา เครื่องมืออนุรักษ์ดิน- น้ำ เครื่องจักรกลการเกษตร และอุปกรณ์การถนอมอาหารต่าง ๆ เครื่องมือเกษตรกรแบ่งตามต้นกำเนิดของพลังงานจะแบ่งได้เป็น 5-6 อย่างคือ

1. เครื่องมือที่ใช้แรงคน

-เครื่องมือกสิกรรม : เสียม จอบ พลั่ว คราด ฯลฯ

-เครื่องมือบำรุงรักษาพืช : เครื่องมือใส่ปุ๋ย เครื่องพ่นยา บัว กรรไกร ฯลฯ

-เครื่องมือเก็บเกี่ยว : เคียว มีด จอบ ตะกร้อ ฯลฯ

-เครื่องมือพิเศษ : รถตัดหญ้า เครื่องกระเทาะเมล็ด ฯลฯ

2. เครื่องมือที่ใช้แรงสัตว์

-ไถ คราด

-ลูกกลิ้ง และอุปกรณ์อื่น ๆ

3. เครื่องมือที่ใช้แรงเครื่องยนต์

-เครื่องยนต์ขนาดเล็ก : เครื่องสูบน้ำ รถไถเดินตาม ฯลฯ

-เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ : รถแทรกเตอร์ ตีนตะขาบ

4. เครื่องมือที่ใช้แรงธรรมชาติ

-ระหัดวิดน้ำ

-กังหันลม และกังหันน้ำ

5. เครื่องมือที่ใช้ไฟฟ้า (และมอเตอร์)

-เครื่องบดอาหาร เครื่องผสมอาหารสัตว์ เครื่องหั่นหญ้า

-เครื่องสูบน้ำ

6. เครื่องมือช่างเกษตรอื่น ๆ เช่น เครื่องมือช่างไม้ ช่างก่อสร้าง ช่างไฟฟ้า ช่างประปา ช่างเชื่อม บัดกรี ช่างรังวัด ชลประทาน และเครื่องทุ่นแรงต่างๆ

นอกจากนี้ เครื่องมือเกษตรอาจจะจำแนกออกไปตามลักษณะของงานที่เครื่องมือเครื่องทุ่นแรงนั้นทำ เช่น

1. เครื่องทุ่นแรงในการเตรียมดิน เช่น ไถ พรวน คราด จอบ สองเขาขุด ฯลฯ

2. เครื่องมือทุ่นแรงในการชลประทาน เช่น ระหัดวิดน้ำ เครื่องสูบน้ำ ท่อส่งน้ำ หัวฉีดน้ำ บัวรดน้ำ ฯลฯ

3. เครื่องมือทุ่นแรงในการปลูกพืช เช่น เครื่องหยอดเมล็ด เครื่องมือยกร่องทำแถว เครื่องปลูก จอบ คราด ช้อนพรวน ช้อนขุด เสียมขุดหลุม ฯลฯ

4. เครื่องมือทุ่นแรงในการกำจัดโรคพืช เช่น กระบอกฉีดยา ถังพ่นยา ถังผสมยา และเครื่องพ่นยา

5. เครื่องมือทุ่นแรงในการปราบและป้องกันศัตรูพืช เช่น อุปกรณ์ฉีดและพ่นยา ชนิดต่าง ๆ

6. เครื่องมือทุ่นแรงในการบำรุงดิน เช่น เครื่องมือเก็บตัวอย่างดิน จอบ พลั่ว คราด เสียม เครื่องมืออนุรักษ์ดินและน้ำ เครื่องมือหว่านปุ๋ย

7. เครื่องมือทุ่นแรงในการเก็บเกี่ยว เช่น เครื่องมือเก็บเกี่ยวข้าว ข้าวโพดเครื่องตัดหญ้า เคียวเกี่ยวข้าว แกระเก็บข้าว เป็นต้น

8. เครื่องมือทุ่นแรงในการแปรสภาพ เช่น เครื่องนวดข้าว เครื่องกระเทาะเมล็ด เครื่องสีข้าว เครื่องหั่นผัก เครื่องบดต่าง ๆ

9. เครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ในอุตสาหกรรมการเกษตร เช่น เครื่องสีและกระเทาะเมล็ด เครื่องบดอาหารสัตว์ เครื่องโม่แป้ง เครื่องมือถนอมอาหารเครื่องบรรจุกระป๋อง ฯลฯ

หลักการเลือกเครื่องมือและวิธีทำเครื่องมือบางชนิด

1. เลือกเครื่องมือให้เหมาะสมกับสภาพของพื้นที่และชนิดของดิน เช่นถ้าเป็นดินเหนียวที่แห้งก็ควรใช้สองเขาขุดหรืออีเตอร์ จอบที่ใช้ก็ควรเป็นชนิดจอบขุด ซึ่งมีสันคอแข็งแรง ถ้าจะพรวนดินหรือดายหญ้า ก็ควรใช้จอบถาก ซึ่งมีน้ำหนักเบาและหน้าจอบตัดตรง

2. เลือกให้เหมาะกับชนิดของงาน เช่นงานเตรียมดิน หรืองานปลูกพืช หรืองานเลี้ยงสัตว์ ซึ่งเครื่องมือและอุปกรณ์ย่อมไม่เหมือนกัน

3. ต้องพิจารณาความนิยมของเครื่องมือนั้นๆ ทั้งนี้เพื่อความสะดวกในการเปลี่ยนหาอาหลั่ย และซ่อมแซมต่าง ๆ

4. คุณภาพและราคายุติธรรม การซื้อเครื่องมือที่มีคุณภาพดีแม้ราคาจะสูงสักนิด ก็ยังดีกว่าซื้อของถูก ๆ แต่คุณภาพเลว ๆ

ในบางโอกาสเราอาจจะประหยัดเงินลงได้โดยการทำเครื่องมือบางชนิด หรือดัดแปลง สิ่งของที่มีอยู่แล้วเป็นเครื่องมือเกษตรได้ เช่น

ก. ทำบัวรดน้ำจากกระป๋องนม หรือกระป๋องโอวัลติน โดยการใช้ตาปูตัว

เล็ก ๆ เจาะรูที่ก้นกระป๋อง แล้วเอาไปตักน้ำรดกล้าผักและต้นไม้อ่อน ๆ ได้ดี นอกจากนั้น ก็อาจจะใช้ปีบน้ำมันก๊าดเจาะรูที่ด้านข้าง ๆ หนึ่ง แล้วต่อท่อทำ เป็นผักบัว จากนั้นก็ใช้ไม้ทำมือถือสำหรับหิ้วและรดน้ำต้นไม้

ข. ทำเสียมขุดดินจากท่อแป๊ปนํ้า โดยการใช้ท่อแป๊ปน้ำขนาด 1 นิ้วครึ่งถึง 2 นิ้ว ยาวประมาณ 1 เมตรผ่าที่ปลายด้านหนึ่งเพียงซีกเดียว ผ่าให้ลึกประมาณ 20 -25 ซ.ม. แล้วแผ่ปลายออก จากนั้นจึงใช้ฆ้อนตีให้แบนโดยอาจจะเผาให้ร้อนแดงแล้วดีแผ่ให้กางออกเป็นลักษณะของเสียมขุดดิน

ค. ทำที่ตักขยะ ที่ตักอาหารสัตว์ และที่โกยมูลสัตว์จากปีบน้ำมันก๊าด โดยการเอาปีบ ที่มีผนังหนาแข็งแรงมาแล้วตักเป็นมุมเฉียง ก็จะได้ที่ตักหรือที่โกยมูลสัตว์ 2 ใบ

ง. ทำคราดสำหรับพรวนด้วยมือใช้ตาปูขนาดใหญ่(5 นิ้ว)ตอกบนแผ่นไม้(l นิ้วครึ่งคูณ 3 นิ้ว) ซึ่งตัดให้ยาวขนาด 6 นิ้ว โดยตอกตาปูห่างกันประมาณ 1นิ้ว-1นิ้วครึ่งตัด หัวตาปูทิ้งแล้วทำด้ามสำหรับถือตบแต่งให้สวยงามตามชอบคราดนี้จะใช้สำหรับพรวนดินได้ดี

จ. ทำที่ให้อาหารสัตว์ จากยางรถยนต์เก่า ๆ ใช้มีดที่คมจุ่มน้ำให้เปียก แลวผ่ายางรถยนต์ออกเป็น 2 ซีก เท่า ๆ กัน ก็จะได้รางอาหารไก่หรือสุกร 2 อัน

ฉ. ท่าตะเกียงจากกระป๋องนมหรือขวดปากกว้าง โดยใช้สังกะสีทำฝาปิดและทำท่อเล็ก ๆ ให้อยู่ตรงกลางสำหรับสอดใส้ตะเกียง ใช้ด้ายดิบหรือผ้าเก่า ๆ ทำใส้ตะ­เกียง และใช้น้ำมันก๊าดเป็นเชื้อเพลิง

ข้อควรพิจารณาก่อนซื้อรถเเทรคเตอร์

1. พิจารณาจำนวนที่ดินของตนเอง หรือของกลุ่ม ควรมีที่ดินอย่างน้อย 400 ไร่ หรือไม่ก็ต้องรู้ว่า จะรับจ้างไถที่ไหนได้บ้างหลังจากไถของตนหมดแล้ว

2. ควรมีความรู้พื้นฐาน เกี่ยวกับการใช้การขับขี่ และการบำรุงรักษา

3. ควรเป็นรถที่มีคนนิยมใช้มาก ก่อนซื้อควรดูแคทตาล๊อกของรถยี่ห้อต่าง ๆ เพื่อพิจารณาข้อดีข้อเสียของรถแต่ละชนิด

4. พิจารณาว่ าอาหลั่ยของรถชนิดนั้นมีพร้อมไหม และตัวแทนจะทำการค้าขายรถชนิดนี้อีกนานเท่าใด

5. พิจารณาว่าการบริการจากบริษัทและตัวแทนดีหรือไม่เพียงใด ถ้าหากว่ามีสาขา และบริการอยู่ในท้องถิ่นของเราก็จะสะดวกดี

6. พิจารณาชนิดของดินในไร่นา กล่าวคือถ้าเป็นดินเหนียวก็ต้องใช้แรงม้าสูงขึ้น ถ้าเป็นดินร่วนก็ใช้แรงม้าต่ำลง ถ้าเป็นดินแข็งก็ควรใช้ไถกระทะ แต่ถ้าเป็นดินร่วนดินทรายก็ควรใช้ไถหัวหมู

7. พิจารณาว่ารถยี่ห้อไหนราคาประหยัดกว่ากัน

หลักการใช้เครื่องมือเกษตร

1. เครื่องมือที่มีคมต้องลับหรือปรับให้คมอยู่เสมอ

2. ตรวจตราแก้ไข และซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพดีก่อนจะใช้ ขณะที่ใช้อยู่ ถ้ารู้สึกว่าเครื่องมือผิดปกติต้องแก้ไขทันที

3. มีอาหลั่ยและถุงเครื่องมือไว้ให้พร้อม

4. ใช้เครื่องมือให้ถูกกับงาน เช่นไม่ควรใช้สิ่วแทนไขควงหรือใช้ไขควงแทนสิ่ว

5. ไม้ที่จะไสกบไม่ควรมีทรายหรือตาปูติดอยู่

6. อย่าหยอกล้อเล่นหิวกันขณะปฏิบัติงาน

7. ถ้าร่างกายอ่อนเพลีย หรือง่วงนอนไม่ควรใช้เครื่องจักรกลต่าง ๆ

8. ควรแต่งกายให้เหมาะสมและรัดกุม เช่นอาจจะต้องสวมหมวก สวมแว่น ถุงมือ หน้ากากป้องกันสารพิษและรองเท้าถุงเท้าเมื่อจะเดินพ่นยาปราบวัชพืช เป็นต้น

9. จอบและการใช้จอบ

จอบเป็นเครื่องมือหลักที่จำเป็นสำหรับงานหลายชนิด การเข้าด้ามจอบเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะถ้าด้ามจอบหลวมและโยกคลอนจะทำงานไม่ได้ผล วิธีเข้าด้ามจอบควรบากด้ามจอบให้เล็กกว่าคอจอบเล็กน้อย แล้วจึงหายางรถยนต์เก่าๆ หรือ แผ่นหนังตัดเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมสอดใส่ระหว่างด้ามกับคอจอบ จากนั้นจึงใช้ลิ่มอัดให้แน่น

9.1 ควรเลือกจอบให้เหมาะสม ถ้าจะขุดดิน พลิกดินที่มีลักษณะแข็ง หรือมีตอไม้ รากไม้ก็ควรใช้จอบขุด ถ้าต้องการถากหญ้า ดายหญ้า หรือเกลี่ยดินก็ควรใช้ จอบถาก ซึ่งมีลักษณะบอบบางและเบากว่าจอบขุด

9.2 จอบต้องคมปานกลาง และเข้าด้ามแน่น

9.3 ในขณะขุดดิน ไม่ควรขยับเท้าบ่อย ๆ เพราะจะทำให้ดินแน่น ควรยืนอยู่กับที่ และขุดดินจนสุดด้ามจอบ จึงจะเปลี่ยนที่ใหม่

9.4 ควรขุดดินขณะที่ดินมีความชื้นพอคี อาจขุดดินไว้เป็นก้อนโต ๆ แล้วตากดินให้แห้ง ต่อไปใช้หัวจอบหรือสันจอบทุบลงบนก้อนดินให้ดินแตก การเกลี่ยดินให้เรียบควรใช้ด้านข้างสำหรับเกลี่ย

9.5 เมื่อขุดไปติดรากไม้ งัดไม่หลุด ควรใช้มือดึงคอจอบแรง ๆ หรือใช้เท้าถีบให้ตะแคงแล้วดึง อย่าพยายามงัดหรือดัน เพราะด้ามจะหัก

9.6 ต้องหยุดการใช้จอบทันทีเมื่อมีคนมาขวางหรือยืนอยู่หน้าจอบ

การเก็บรักษาเครื่องมือ

1. ทำความสะอาดเครื่องมือเมื่อเลิกใช้งาน

2. ไม่ทิ้งเครื่องมือตากแดดตากฝน

3. หาวิธีป้องกันสนิมโดยการทาด้วยน้ำมันเครื่อง หรือจาระบี

4. หยอคนํ้ามันเครื่อง หรือชะโลมด้วยจาระบีหลังใช้งาน

5. จัดวางให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ในกรณีที่มีตู้เก็บเครื่องมือ ควรใช้สีทาบนผนังตู้เป็นรูปเครื่องมือนั้น ๆ เพื่อจะได้ทราบว่าเครื่องมือแต่ละชิ้นอยู่ตรงไหน อะไรขาดหายไป

6. ทำบัญชีควบคุมเครื่องมือและอุปกรณ์ต่าง ๆ ควรทำบัญชีการยืมไว้ทุกครั้ง แต่ถ้าทำได้ไม่ควรให้มีการยืมเครื่องมือ หรือใช้กันหลายมือ