มุมมองเรื่องกุหลาบตัดดอก

เมื่อมีโอกาสผ่านไปเชียงใหม่ครั้งใดก็อดไม่ได้ที่จะแวะเยี่ยมเยือน คุณพจนา  นาควัชระ เจ้าของสวนกุหลาบพน.และประธานกลุ่มผู้ปลูกกุหลาบเชียงใหม่ กุหลาบที่สวนพน.ในปีนี้มีการฟื้นตัวช้า  บางแปลงต้องตัดทิ้งแล้วนำถั่วเหลืองมาปลูกเพื่อทำการปรับปรุงดินให้สภาพดินมีความอุดมสมบูรณ์  ซึ่งปกติแล้วการปลูกกุหลาบจะไม่นิยมปลูกซ้ำที่เดิม แต่ในกรณีที่บางสวนไม่มีพื้นที่ที่จะขยายไปปลูกแห่งใหม่มีความจำเป็นที่จะต้องปลูกซ้ำที่เดิม  ก็ควรจะมีการปรับปรุงพื้นที่หรือปลูกพืชบำรุงดิน ซึ่งเป็นทางออกที่ดีอีกวิธีหนึ่ง

กลุ่มผู้ปลูกกุหลาบเชียงใหม่รวมตัวกันเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้

ชมรมรวมตัวกันเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้เท่านั้น ส่วนตลาดต่างคนต่างมีตลาดเป็นของตัวเอง การรวมตัวกันขายเป็นไปไม่ได้ ไม่เหมือนกับชมรมผู้ปลูกกุหลาบฮิมดอยที่ อ.สันกำแพงเขาจะรวมตัวกันผลิตและรวมตัวกันขายเป็นการทำในหมู่บ้านในเครือญาติ

เกษตรกรรายย่อยต้องการพันธุ์กุหลาบสำหรับปลูกกลางแจ้ง

ปีนี้กุหลาบฟื้นตัวช้า ปัจจุบันมีเกษตรกรหันมาปลูกกุหลาบโดยที่ไม่มีความรู้ในเรื่องพันธุ์ เมื่อเห็นว่ากุหลาบพันธุ์นี้ดอกโตสีสวยก็นำมาปลูก ไม่ได้พิจารณาว่ากุหลาบที่ปลูกนี้อายุการปักแจกันอยู่ได้นานแค่ไหน ดอกโตสีสวยแต่ปักแจกันได้เพียง 2-3 วัน ตลาดเขาก็ไม่ต้องการ เกษตรกรรายใหม่ไม่รู้เรื่องพันธุ์เมื่อปลูกกุหลาบไปแล้วปรากฎว่ามันใช้ไม่ได้ กว่าจะรู้ว่าใช้ไม่ได้ก็เสียเวลาและหลงทางเสียเงินเปล่า ต้องมาเริ่มต้นใหม่ บางครั้งคนขายพันธุ์กุหลาบเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพันธุ์ไหนควรปลูก พันธุ์ไหนไม่ควรปลูก กุหลาบพันธุ์ที่ปลูกเป็นการค้าหายากขึ้นทุกวัน  พันธุ์ที่นำมาจากต่างประเทศเหมาะที่จะปลูกในโรงเรือน ซึ่งต้องลงทุนสูง โรงเรือนไร่ละ 400,000-500,000 บาท เกษตรกรทั่วไปปลูกไม่ได้ ฉะนั้นเกษตรกรจึงต้องมาสนใจพันธุ์ที่สามารถปลูกกลางแจ้งได้  ซึ่งขณะนี้คุณพจนากำลังศึกษาหาพันธุ์ที่จะมาปลูกนอกโรงเรือนหรือปลูกกลางแจ้ง กรมส่งเสริมน่าจะหาพันธุ์ที่ปลูกนอกโรงเรือนมาให้เกษตรกร เพราะพันธุ์ที่ปลูกในโรงเรือนเกษตรกรรายใหญ่เท่านั้นที่ปลูก  ซึ่งเขาก็ไม่ต้องมาอาศัยพันธุ์จากกรมส่งเสริมฯ

ปลูกกุหลาบทำยากขึ้นเรื่อยๆ

กุหลาบที่เชียงใหม่มีปริมาณการปลูกเพิ่มมากขึ้นแต่ที่เลิกปลูกไปก็มีการปลูกกุหลาบจะทำยากขึ้นเรื่อย ๆ ค่าใช้จ่ายหรือต้นทุนในการผลิตสูงขึ้น โรคแมลงดื้อยามากขึ้นพ่นสารเคมีไปใบก็ไหม้ แดดทุกวันนี้ร้อนจัดมากกว่าเมื่อก่อนชนิดที่ว่าคม  ซึ่งความร้อนนี้เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ที่ทำงานกลางแจ้งและนักตีกอล์ฟ แสงอุลตร้าไวโอเลตเพิ่มขึ้นมีผลกระทบต่อเกษตรกรกุหลาบปีที่ผ่านมาอาการน่าวิตกอยากจะฝากให้นักวิชาการช่วยวิเคราะห์เรื่องแสง โรงเรือนช่วยลดแสงได้ครึ่งหนึ่ง ทำให้แสงไม่คมมากไป  ถ้าแสงเข้มความจำเป็นที่จะต้องใช้โรงเรือนก็มีมากขึ้น  การปลูกกุหลาบกลางแจ้งก็ลำบากมากขึ้น

กุหลาบโรงเรือนผลิตมากมีผลต่อกุหลาบกลางแจ้ง

ตลาดกุหลาบมีสองตลาดคือตลาดบนและตลาดล่าง ตลาดบนจะเป็นตลาดกุหลาบเกรดดีได้มาตรฐานส่วนกุหลาบตลาดล่างจะเป็นกุหลาบที่ตกเกรด เช่น กุหลาบที่ปลูกกลางแจ้งและกุหลาบที่ตกเกรดจากกุหลาบโรงเรือน  เมื่อมีการปลูกกุหลาบในโรงเรือนมากขึ้นก็จะมีกุหลาบที่ตกเกรดนำมาขายยังตลาดล่าง เมื่อมีกุหลาบตกเกรดจากโรงเรือนมาก ๆ จะส่งผลกระทบต่อกุหลาบกลางแจ้ง ซึ่งเป็นของเกษตรกรรายย่อย เมื่อมีกุหลาบตกเกรดออกมาสู่ตลาดล่างมาก ๆ จะทำให้การผลิตกุหลาบของเกษตรกรรายย่อยลดลงเนื่องจากมีการขายตัดราคากัน

ราชการควรช่วยเกษตรกรในด้านเทคโนโลยี

นักวิชาการไม่อยากเป็นผู้เชี่ยวชาญแท้จริง  ถ้าเป็นนักวิจัยก็จะเป็นนักวิจัยไปจนตาย  จึงทำให้ข้าราชการอยากไปทำงานด้านบริหารเพื่อจะได้ก้าวไปสู่ตำแหน่งที่ใหญ่กว่า ถ้าทำงานวิจัยทำไปก็ทิ้งไม่ต่อเนื่อง ผลงานวิจัยที่ดีจึงไม่มีออกมาในที่สุดเกษตรกรก็ต้องช่วยตัวเอง ทางราชการน่าจะช่วยเกษตรกรในด้านเทคโนโลยีเช่น การวิเคราะห์ดิน วิเคราะห์ความต้องการธาตุอาหารของพืชที่เกษตรกรปลูก กรมปศุสัตว์เขาจะช่วยเกษตรกรผสมพันธุ์  ถ้าเราต้องการปลูกพืชอะไรก็ขอให้ทางราชการมาช่วยเช็คดินว่าควรจะใส่ปุ๋ยอะไร ถ้าใส่ปุ๋ยไม่ถูกก็เท่ากับเทเงินลงในดิน  บางคนอยากจะได้พันธุ์พืชแต่เมื่อได้มาแล้วดูแลไม่ถูกต้องไม่รู้จะเอามาทำไมสู้มาเอาความรู้ดีกว่า การปลูกพืชทุกวันนี้ต้องพัฒนาทางความรู้ทางเทคโนโลยีโดยเฉพาะทางด้านสารป้องกันกำจัดแมลง สารบางชนิดผสมกันได้ บางชนิดผสมกันไม่ได้ สารชนิดไหนใช้ซ้ำกันได้ ซึ่งหาคนตอบเรื่องนี้ยาก เกษตรกรจึงต้องช่วยเหลือตัวเองโดยการเสี่ยงลองผิดลองถูกกันเอง  ซึ่งสิ่งนี้เกษตรกรไม่น่าจะมาเสียเวลาตรงนี้น่าจะมีหน่วยงานของรัฐบาลมาช่วยให้บริการบริษัทขายปุ๋ย ขายสารเคมีจะอาศัยเขาก็ไม่ได้ เพราะเขาต้องการให้ใช้ยาของเขา แต่ก็มีบางบริษัทที่ใจกว้างแนะนำว่าอันไหนดีอันไหนไม่ดี

เกษตรไทยไม่มีอนาคต

การเกษตรทุกวันจะอยู่เฉย ๆ ไม่ได้ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองตลอดเวลา น่าเห็นใจเจ้าหน้าที่เกษตรเหมือนกัน งานที่ทำมันกว้างจะให้เจ้าหน้าที่รู้ทุกอย่างก็เป็นไปไม่ได้  อย่างลิ้นจี่ผิวแห้งแบ่งครึ่งผลจนป่านนี้ก็ยังหาทางแก้ไขไม่ได้น่าเสียดายเงินหลวง  ว่ากันกว้าง ๆ ไม่ใช่แค่เรื่องกิ่งพันธุ์อย่างเดียวแต่มันเป็นหลายเรื่อง  เราไม่พูดถึงเรื่องคอรัปชั่นแต่มันเสียไปเพราะการปฏิบัติไม่ได้ผลดีจริง ๆ อย่างภัยแล้งมีงบขุดบ่อไม่รู้จะขุดที่ไหนก็หาที่ขุดบ่อมาบ่อหนึ่ง เงินก็เสียไปแต่ไม่มีใครได้ใช้ประโยชน์จากบ่อนี้  อันนี้มันแก้ไม่ง่ายอย่างที่เราตำหนิเขา  แต่ถ้ายอมรับปัญหาว่าเงินหลวงที่ออกมาเสียหายยอมรับเสียก่อนแล้วหาทางแก้ไข  ตราบใดที่ยังไม่ยอมรับยังยินดีที่จะทำงานเอาทีวีมาถ่ายแล้วมาบอกว่าแจกไอ้นั่นไอ้โน่นแก้ไขอันนี้แล้ว เงินก็เสียไปเปล่า ๆ ผมทำสวนมานานก็มองเห็นว่าการทำการเกษตรไม่มีอนาคต อย่างเกษตรกรที่ปลูกลำไขทุกวันนี้ปีไหนได้ผลผลิตก็เป็นกำไร ปีไหนไม่ได้ก็เสมอตัว แต่อย่าไปลงทุนซื้อปุ๋ยสารเคมีทุกวันนี้ก็ราคาแพง ปัจจุบันมีเกษตรกรหันมาใช้สารราคาถูกเป็นยาพื้นฐาน ซึ่งเมื่อก่อนใช้ไม่ได้ผลแมล่งมันดื้อยา การใช้สารเคมีทุกวันนี้มั่ว เกษตรกรที่ปลูกกุหลาบมืออาชีพยังรู้ไม่จริง  ประสาอะไรกับเกษตรกรทั่วไปใช้ปุ๋ยใช้สารเคมีไม่ถูกเสียเงินเปล่าโรคก็ไม่หาย  ก็คงต้องใช้เวลา ถ้ารัฐาลมีแนวทางจะทำงานให้ได้ผล อย่าทำเพื่อเอาหน้า อย่าทำเพื่อออกทีวี อย่าจับปลาหลายมือ ทุกวันนี้การเมืองเข้ามาแทรกราชการมากเกินไป  สมมุติข้าราชการที่หวังดีอยากทำอะไรให้เป็นผลแต่ผลอันนั้นมันไม่มีผลทางการเมือง อย่างน้อย ๆ ต้องมีผลงานออกมาภายใน 4 ปี ถ้าโครงการไหนยาว ๆ ก็คงไม่ต้องการ  นักการเมืองควรจะรู้ว่าตนมีสิทธิ์มากน้อยแค่ไหนที่จะต้องมาเกี่ยวกับงานราชการประจำ  ทุกวันนี้ข้าราชการถูกนักการเมืองสั่งเปลี่ยนจนระส่ำระสาย  คงต้องอาศัยข้าราชการที่มีอุดมคติ  แต่ถ้ามีอุดมคติมากไปก็ต้องลาออก

เรื่อง  “พลัดถิ่น”

ข้อมูล  คุณพจนา  นาควัชระ