ไม้ดอก:อคีมินิส

อคีมินิส เป็นไม้ดอกวงศ์เดียวกับแอฟริกันไวโอเล็ตและกล๊อกซีเนีย คือวงศ์ Gesneriaceae มีชื่อสามัญว่า Achimenes, Magic Flower และ Hot water plant

ถิ่นกำเนิดเดิมของอคีมินิสอยูในเขตร้อนของอเมริกาซึ่งมีฤดูฝนและฤดูแล้งสลับกัน อคีมินิส จะเติบโตในช่วงฤดูใบไม้ผลิเรื่อยมาจนถึงฤดูใบไม้ร่วง พักตัวในฤดูหนาวและเติบโตใหม่เมื่อเข้าฤดูใบไม้ผลิ อคีมินิสเป็นพืชที่นำมาปลูกเลี้ยงกันมานานกว่าร้อยปีแล้ว มีการผลิตลูกผสมพันธุ์ใหม่ๆ ขึ้นมากมายและเป็นที่นิยมปลูกกันทั่วโลก

Achimenes orange

อคีมินิสเป็นพืชหัวชนิด tuberous rhizome หัวเป็นที่สะสมอาหารรูปร่างคล้ายดีปลี ขนาดของหัวแตกต่างกันไปตามพันธุ์ เมื่อนำหัวมาปลูกจะได้ต้นงอกขึ้นมา ลักษณะการเจริญเติบโตของต้นมี 3 แบบ คือทรงต้นตั้งตรงเป็นพุ่ม ลำต้นกึ่งเลื้อยและลำต้นชนิดเลื้อย ชนิดทรงต้นตั้งตรงใช้ทำเป็นไม้กระถางได้ดี เช่นพันธุ์ Tarantella, Blue Planet, English Waltz, Early Arnold และ Purple King เป็นต้น ชนิดลำต้นกึ่งเลื้อยและชนิดเลื้อยเหมาะสำหรับปลูกเป็นไม้กระถางแขวน (hanging basket) เช่นพันธุ์ India, Mexicana และ Peach Blossom เป็นต้น

ใบของอคีมินิสค่อนข้างกลมหรืออาจรีเป็นรูปไข่ ขอบใบจัก ใบมีขน สีของใบมีตั้งแต่เขียวสดจนเขียวเข้ม บางพันธุ์สีของใบออกสีม่วงอมน้ำตาล ใบเกิดที่ข้อ แต่ละข้อมี 1 หรือ 2 ใบ บางทีมีถึง 3 ใบ

ดอกของอคีมินิสมีหลายสี เช่น ชมพู ม่วง เหลือง ขาว บานเย็น ส้ม แดง ลักษณะดอกมีโคนกลีบเชื่อมกันเป็นหลอดยาว มีปลายแยกเป็น 5 กลีบ แต่ละกลีบมีลักษณะกลมเรียงกันเป็นปากแตร ดอกมีขนาดต่างๆ ตั้งแต่เล็กขนาดปลายนิ้วก้อยจนถึง 3 นิ้วแล้วแต่พันธุ์ ตาดอกเกิดขึ้นที่โคนใบ ดอกเกิดเดี่ยวๆ หรือเกิดเป็นกลุ่ม ส่วนมากเป็นดอกชั้นเดียวและมีชนิดดอกซ้อนด้วย เมื่อให้ดอกจะมีดอกพราวรอบต้น การปลูกและเลี้ยงดูนับว่าง่าย

ทางหมวดไม้ดอกของคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ทดลองปลูกอคีมินิสเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2522 โดยสั่งหัวพันธุ์มาจากบริษัท จี. ดับเบิลยู. พาร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทดลองใช้ดิน 1 ส่วนผสมกับขุยมะพร้าว 3 ส่วนเป็นเครื่องปลูกเนื่องจากทราบว่า ไม้ดอกชนิดนี้ต้องการความชื้นสูงมาก ในปีแรกได้ทำการศึกษาลักษณะทั่ว ๆ ไปดูก่อนปรากฎว่าอคีมินิสเติบโตได้ดี ในปี 2523 น.ส.สุจิตรา เลิศพฤกษ์ นักศึกษาของหมวดไม้ดอกได้ทำปัญหาพิเศษทดลองหาเครื่องปลูกที่เหมาะสมในการให้ดอกและให้หัวพันธุ์ และในปี 2524 นายอุดม เจียรวิริยะพันธุ์ ได้ศึกษาดูว่าการใช้หัวขนาดต่าง ๆ มาปลูกมีผลต่อการเติบโต การให้ดอกและการให้หัวพันธุ์หรือไม่อย่างไร จากการทดลองสรุปผลได้ดังนี้

ในสภาพของจังหวัดเชียงใหม่ อคีมินิสพักตัวในฤดูหนาว และหัวจะเริ่มงอกในเดือนเมษายน จึงควรเริ่มปลูกต้นเดือนเมษายนโดยต้นจะงอกพันเครื่องปลูกในเวลา 2-4 อาทิตย์นับจากวันปลูก

หัวของอคีมินิสมีลักษณะเป็นเกล็ดเล็กๆ เรียงซ้อนกันคล้ายดีปลี สี ขนาดและรูปร่างของหัว แตกต่างกันไปตามพันธุ์ เนื่องจากหัวมีขนาดเล็กและให้ลำต้นเรียวยาว จึงแนะนำให้ปลูกหลายหัวในกระถางเดียว แคตตาล็อกของบริษัทพาร์คให้ปลูก 3-5 หัวในกระถางขนาด 10 นิ้ว หนังสือบางเล่มแนะนำให้ปลูกถึง 8 หัวในกระถาง 6 นิ้วโดยวางหัวในแนวนอนให้ห่างกัน 1 ½ -2 นิ้ว การปลูกหลายหัวจะได้หลายต้นและให้ดอกพราวกว่า เมื่อปลูกแล้วคลุมด้วยเครื่องปลูกหนา 1-2 นิ้ว

เครื่องปลูก อคีมินิสชอบเครื่องปลูกที่ร่วนโปร่ง แต่ต้องเก็บความชื้นได้สูงมาก จากการทดลองของ น.ส.สุจิตรา เลิศพฤกษ์ ใช้ดิน ใบจามจุรีสับละเอียดและทรายในอัตราส่วนต่างๆ กัน เป็นเครื่องปลูก สรุปได้ว่าการใช้ดิน:ใบจามจุรี:ทรายในอัตราส่วน 1:1:2 ทำให้ดอกใหญ่ ดอกดกและให้ดอกเร็วด้วย

ผู้ปลูกอาจทดลองใช้อินทรียวัตถุอื่นแทนใบไม้ได้ เช่น เปลือกถั่ว หญ้าหมัก ขี้วัว ขุยมะพร้าว เป็นต้น ข้อควรระวังในการปลูกอคีมินิสคือ การดูแลรักษาเครื่องปลูกให้ชื้นอยู่เสมอ ถ้าเครื่องปลูกแห้งต้นจะเหี่ยว ใบเหี่ยวและอ่อนตัว ในที่สุดจะแห้งกรอบร่วงไป อคีมินิสทนสภาพเครื่องปลูกแห้งติดต่อกันได้ใม่เกิน 2 วัน ถ้าเกินกว่านั้นจะตาย การให้น้ำจึงต้องให้อย่างพอเพียงและสม่ำเสมอ

แสง นอกจากต้องการน้ำมากแล้ว อคีมินิสยังชอบสภาพร่มหรือร่มรำไร ถ้าไม่มีโรงเรือนพรางแสงต้องปลูกใต้ต้นไม่ใหญ่ที่ไม่มีแดดส่องโดยตรงตลอดวัน ถ้าได้แดดอ่อน ๆ โดยตรงเฉพาะตอนเช้าไม่เป็นไร และถ้ามีโรงเรือนต้องพรางแสงลงครึ่งหนึ่งเป็นอย่างน้อย ถ้าปลูกในสภาพแดดจัดเกินไปจะทำให้ใบเหลืองและแห้งกรอบตายไปในที่สุด แต่ไม่ควรให้ร่มมากเกินไป ถ้าปลูกอคีมินิสในที่มีแสงน้อยจะเจิญแต่ทางลำต้นและใบ คือต้นแตกกิ่งก้านและใบมาก แต่ให้ดอกน้อยมาก ถ้าได้รับแสงพอเหมาะเมื่อถึงช่วงออกดอกจะออกดอกได้พรูสวยดี

ในฤดูร้อนถ้าเครื่องปลูกแห้งเร็วมาก อาจใช้มอสสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ คลุมผิวหน้าเครื่องปลูกไว้ เพื่อช่วยรักษาความชื้น พอถึงฤดูฝนก็เอาออกเสียเพราะจะทำให้เครื่องปลูกแฉะเกินไป

อุณหภูมิ สำหรับอุณหภูมิในเมืองไทยไม่มีปัญหาในการปลูกเลี้ยงอคีมินิส เพราะใบมีขนาดเล็กและดอกก็มีขนาดเล็กไม่ค่อยเหี่ยวง่าย เพียงแต่ในฤดูร้อนสีดอกจะซีดลงและขนาดดอกเล็กกว่าเมื่อเทียบกับดอกที่เกิดในฤดูหนาว

การให้ปุ๋ย ใช้ปุ๋ยเกล็ดของเชลล์สูตร 15-30-15 พร้อมธาตุรองในอัตรา 2 ช้อนโต๊ะ ต่อนํ้า 1 ปีบ (20 ลิตร) ให้เดือนละ 2 ครั้งตั้งแต่หัวงอกจนถึงออกดอก การให้ปุ๋ยใช้วิธีละลายน้ำรดตรงโคนต้น

การออกดอก เมื่อต้นสูงสัก 3 นิ้ว ควรเด็ดยอดให้แตกพุ่มโดยเฉพาะพันธุ์ที่ไม่เลื้อย สำหรับพันธุ์เลื้อยจะเด็ดยอดหรือไม่เด็ดก็ได้ หลังจากปลูกได้ประมาณ 2 เดือนจะเริ่มเห็นตุ่มดอกและดอกแรก เริ่มบานเมื่ออายุได้ 3 เดือน พันธุ์ Tarantella ใช้เวลา 85-100 วันนับจากวันปลูกจนดอกแรกเริ่มบาน และดอกมีมากขึ้นเรื่อยๆ ช่วงที่ดอกพรูที่สุดคือช่วง 3  ½ -4 เดือนนับจากปลูก ต่อจากนั้นต้นจะให้ดอกน้อยลงและเริ่มโทรม สำหรับพันธุ์ Crimson Tiger ออกดอกล่ากว่าพันธุ์อื่น คือจะเริ่มให้ดอกเมื่อปลูกได้ 4 เดือนและให้ดอกพรูในเดือนที่ 5 นับจากปลูก ส่วนพันธุ์ Purple King นั้นเริ่มให้ดอกพรูเมื่อปลูกได้เพียง 2 เดือน และให้ดอกดกมากตลอดช่วงการให้ดอก

การเก็บหัว ถ้าเริ่มปลูกในเดือนเมษายน อคีมินิสจะให้ดอกตลอดจนถึงเดือนพฤศจิกายน (ยกเว้นพันธุ์หนักเช่น Crimson Tiger) และต้นจะเริ่มโทรมประมาณปลายเดือนพฤศจิกายนและยุบหมดเมื่อเข้าเดือนมกราคม ดังนั้น เมื่อต้นทิ้งใบเนื่องจากเข้าระยะพักตัวควรงดการให้น้ำแล้วขุดต้นขึ้น เพื่อเก็บหัว ตัดต้นและใบทิ้งไป ต้นหนึ่งๆ จะให้หัวเป็นปริมาณต่างกันและขนาดต่างๆ กัน นำมาแกะดินออกแล้วผึ่งหัวในที่ร่มและแห้ง มีอากาศถ่ายเทดี มิฉะนั้น หัวจะขึ้นราได้เร็วมากเมื่อกองรวมไว้ด้วยกันเป็นจำนวนมาก เชื้อราจะลามติดต่อกันทั้งกระบะในเวลาไม่กี่วัน

การคัดขนาดหัว ได้คัดขนาดอย่างง่ายๆ คือ หัวขนาดใหญ่ มีความยาว 3-4 ชม. หัวขนาดกลางมีความยาว 2-3 ซม. และหัวขนาดเล็กมีความยาว 1.5-2 ซม. หัวสั้นกว่านี้จัดเป็นพวกขนาดเล็กมาก

จากการทดลองพบว่า เครื่องปลูกมีผลต่อขนาดหัวด้วย คือ ถ้าจะปลูกเอาหัวให้ใช้เครื่องปลูกที่โปร่งมากๆ เช่นใบไม้:ทราย ในอัตราส่วน 1:3 (ไม่มีดินเลย มีทรายเป็นจำนวนมาก) จะได้หัวขนาดกลางซึ่งเป็นขนาดจำหน่ายเป็นปริมาณมากที่สุด

เมื่อคัดขนาดแล้ววางใส่ตะแกรงผึ่งไว้ในห้อง หัวจะพักตัวอยู่อย่างนั้นจนถึงเดือนเมษายนจึงเริ่มงอกให้นำไปปลูกได้

การขยายพันธุ์

อคีมินิสเป็นพืชที่ขยายพันธุ์ง่ายมาก และขยายพันธุ์ได้หลายวิธีดังนี้

1. เด็ดยอดไปปักชำเด็ดยอดให้มีใบติด 1-2 คู่ใบให้ยอดดังกล่าวมาจากกิ่งที่มีชั้นใบ ประมาณ 6-7 ชั้นใบเป็นกิ่งที่ไม่แก่ไม่อ่อนเกินไป กิ่งชำที่ชำในฤดูฝนจะออกรากใน 4-7 วัน ถ้าชำในฤดูหนาวจะออกรากใน 2 อาทิตย์

วัสดุชำใช้ถ่านแกลบอย่างเดียว หรือจะใช้ขุยมะพร้าว : ดินในอัตราส่วน 2:1 ก็ออกรากได้ดีพอๆ กัน

2. ใช้หัวปลูก หัวหนึ่งให้ 1 ต้น เมื่อต้นโทรมแล้วถ้าลองขุดหัวขึ้นดูจะได้หัวใหม่เป็นสิบหัวขึ้นไป เคยทราบมาว่าแต่ละเกล็ดบนหัวนั้นสามารถฉีกออกมาหว่านจะให้ต้นใหม่ได้ด้วย แต่เมื่อลองทำดู ปรากฎว่าขึ้นราง่ายมาก

3. เด็ดใบไปปักชำ ใช้ใบติดก้านใบ จิ้มโคนก้านใบลงในเครื่องปลูกจะได้ต้นและรากใหม่ นำไปปลูกได้

4. ใช้เมล็ด โดยสั่งเมล็ดจากบริษัทจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ หรือลองผสมเกสรให้ติดเมล็ดแล้วนำไปเพาะโดยไม่ต้องกลบเมล็ด ใช้เวลาจากเพาะ 7-9 เดือนจึงจะให้ดอก

5. ถ้ามีห้องปฏิบัติการเลี้ยงเนื้อเยื่อใช้ชิ้นส่วนเล็กๆ ของใบเลี้ยงในอาหารวุ้นในสภาพปลอดเชื้อ จะได้ต้นใหม่

เมื่อสั่งหัวอคีมินิสพันธุ์ Tarantella มาจากอเมริกานั้น หัวที่ได้รับมีขนาดกลางคือยาวประมาณ 2-3 ซม. เมื่อนำมาปลูกต้นหนึ่งๆ จะให้หัวทุกขนาดรวมกันอีก 15 หัว ทำให้ต้องการทราบว่า การใช้หัวขนาดต่างกันปลูกจะมีผลต่อการออกดอกอย่างไรหรือไม่ นายอุดม เจียรวิริยะพันธุ์ได้ทำการทดลองใช้หัวทั้ง 4 ขนาดปลูกดู ปรากฎว่า การใช้หัวขนาดใหญ่จะได้ต้นที่เจริญเร็วกว่าในระยะแรก แต่เมื่อถึงเวลาออกดอก หัวขนาดใหญ่ ขนาดกลางและขนาดเล็กใช้เวลาพอๆ กันคือ 76-79 วันนับจากวันปลูก แต่หัวขนาดเล็กมากคือเล็กกว่า 1.5 ซม. นั้นให้ดอกช้าไปกว่านั้นอีก 7-9 วัน และความแตกต่างนี้มีนัยสำคัญทางสถิติ แต่การใช้หัวขนาดใดก็ตามจะให้ดอกขนาดพอ ๆ กันและจำนวนดอกทั้งหมดก็ไม่แตกต่างกัน ดังนั้น ถ้าหัวขนาดใหญ่มีราคาแพงกว่า ผู้ซื้อก็อาจจะใช้หัวที่มีขนาดกลางและเล็ก ปลูกให้ได้ดอกเหมือนกัน แม้จะใช้หัวขนาดเล็กมาก ข้อแตกต่างก็เพียงแต่ได้ดอกช้าไปอีกเพียงอาทิตย์เดียว การใช้หัวขนาดใดจึงไม่สำคัญนักและถ้าขนาดหัวต่างกันมีราคาต่างกัน การใช้หัวเล็กกว่าจะเป็นการประหยัดเงินกว่าด้วย

ตัวอย่างชื่อพันธุ์อคีมินิสที่เป็นต้นตั้งตรง

Tarantella สิชมพอมส้ม
Blue Planet สีม่วงครามอ่อน ตรงปากมีสีเหลืองเรื่อ
Early Arnold สีม่วงอมแดงอ่อน
English waltz สีชมพูอมส้ม ใจกลางดอกสีเหลือง

พันธุ์ค่อนข้างเลื้อย

Purple King สีม่วงอมแดงเข้ม
Violet Night สีฟ้าอมม่วง ใจกลางดอกสีเหลือง
India สีม่วงคราม ปากม่วงเข้ม
Evening Glow สีชมพูอมส้ม ใจกลางดอกสีเหลือง
Peach Blossom สีชมพูอ่อน กลางดอกสีเหลือง
Quick Step สีม่วงอ่อน