ไชยยงค์ สำราญถิ่น สถานีทดลองหม่อนไหมขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น
ด้วยเอกลักษณ์ของไหมไทย คือ ความเลื่อมมัน ปุ่มปม และคงทนต่อการใช้งาน ทำให้ไหมไทยได้รับความสนใจ และเป็นที่นิยมของผู้ใช้ผ้าไหมทั้งในและต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ดังจะเห็นได้ว่าผลผลิตเส้นไหมของเกษตรกรในประเทศถึงแม้จะเพิ่มมากขึ้น แต่ก็ยังไม่เพียงพอใช้ผลิตผ้าไหมออกจำหน่ายจนทำให้ประเทศต้องนำเส้นไหมจากต่างประเทศมาใช้ปีละเป็นจำนวนมากเพื่อผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ผ้าไหมออกจำหน่ายทั้งในและนอกประเทศ
จากเหตุผลดังกล่าว ทำให้รัฐเพิ่มความสนใจในการพัฒนางานหม่อนไหม โดยให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องและรับผิดชอบพัฒนาความสามารถของเกษตรกรในการผลิตไหมทั้งในด้านคุณภาพและปริมาณ ดังจะเห็นได้ชัดจากผลการดำเนินงานของสถาบันวิจัยหม่อนไหม กรมวิชาการเกษตร ทำให้เกษตรกรได้รับหม่อนและไหมพันธุ์ดีไปใช้ทำพันธุ์หลายพันธุ์ในปัจจุบัน
เพื่อให้ท่านที่มีความสนใจได้รับทราบข้อมูลและรายละเอียดบางประการของไหมพันธุ์ไทย จึงขอเสนอข้อมูลที่น่าสนใจพอสังเขปดังต่อไปนี้
ลักษณะพันธุ์ไหมไทย
(ก) ไหมพันธุ์ไทยเป็นไหมที่ฟักตัวเองได้ตลอดปีมีวงจรชีวิตประมาณ ๔๐-๔๕ วัน
(ข) รังไหมมีรูปร่างกลมรี หัวท้ายแหลม มีสีเหลืองแก่ เหลืองอ่อน จนถึงเหลืองตุ่นแล้วแต่ชนิดของพันธุ์
ชื่อพันธุ์ไหม
ชื่อไหมพันธุ์พื้นเมืองส่วนใหญ่จะมีคำว่า “นาง” นำหน้า เนื่องจากเกษตรกรผู้เลี้ยงจะเรียกชื่อตามผู้ที่เลี้ยงคนก่อนที่เลี้ยงมาอย่างต่อเนื่องจนได้ผลดี และมีคุณสมบัติดีเด่นเฉพาะตัว เกษตรกรจึงให้เกียรติแก่เจ้าของพันธุ์ โดยการเรียกชื่อเจ้าของซึ่งส่วนใหญ่จึงใช้คำว่า “นาง” นำหน้าและต่อด้วยผู้เลี้ยงมาตั้งเป็นชื่อพันธุ์ไหมเช่น นางเหลือง นางเขียว นางลิ่ว นางน้อย นางน้ำ ฯลฯ
ยุคต่อมาก็ใช้เรียกชื่อตามสถานที่ หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัดที่นำมา เช่น โนนฤษี หนองแก้ว เขียวสกล เป็นต้น
ไหมพันธุ์พื้นเมืองซึ่งสถานีทดลองหม่อนไหมต่าง ๆ ได้นำมาปรับปรุงพันธุ์ทางราชการจะเรียกว่าพันธุ์ไทย ปรับปรุงโดยการนำพันธุ์พื้นเมืองมาผสมและทำการคัดพันธุ์ ปรับปรุงพันธุ์จนให้ผลผลิตสูงและมีคุณสมบัติดีเด่น ผลิตจำหน่ายจ่ายแจกให้เกษตรกรนำไปเลี้ยงและขยายพันธุ์ มีหลายพันธุ์ด้วยกัน โดยจะทราบได้จากการดูชื่อพันธุ์ ชื่อย่อตัวหน้าจะเป็นจังหวัด อำเภอ หรือสถานที่สถานีฯตั้งอยู่ เลขตัวหลังจะเป็นเลขของชุดพันธุ์เช่น ปช.๒๑ รอ.๓ นค.๔ ๑๗ แอลดับเบิลยู ๑๗ แอลวาย ๑๕ เควาย เหล่านี้เป็นต้น
ข้อแตกต่างของพันธุ์
(ก) พันธุ์พื้นเมืองที่ยังไม่ได้ทำการปรับปรุงจะมีเปอร์เซ็นต์เส้นใยหรือเปอร์เซ็นต์เปลือกรัง ระหว่าง ๘-๙ เปอร์เซ็นต์
(ข) พันธุ์พื้นเมืองซึ่งสถานีทดลองหม่อนไหมต่าง ๆ ปรับปรุงแล้วมีเปอร์เซ็นต์เส้นใยหรือเปอร์เซ็นต์เปลือกรังระหว่าง ๑๒-๑๕ เปอร์เซ็นต์
ขณะนี้สถานีทดลองหม่อนไหมได้ทำการปรับปรุงพันธุ์พื้นเมืองตระกูล “นาง” ต่าง ๆ จนเปอร์เซ็นต์เส้นใยหรือเปอร์เซ็นต์เปลือกรังเพิ่มขึ้นถึงระหว่าง ๑๑-๑๔ เปอร์เซ็นต์ทั้งนี้จะต้องต้องเป็น “นาง” ที่เกษตรกรขอรับพันธุ์จากสถานีทดลองหม่อนไหมโดยตรงเท่านั้น
ข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับตัวไหม
๑. ไข่ไหมพันธุ์ไทย ไข่ไหมพันธุ์ไทยทุกพันธุ์โดยเฉลี่ย ๑ แม่ มีจำนวนในฤดูฝน ๔๓๒ ฟอง ฤดูร้อน ๒๐๗ ฟอง เฉลี่ยทั้งปี ๓๑๙ ฟอง
๒. น้ำหนักหนอนไหม หนอนไหมจะมีน้ำหนักเมื่อโตเต็มที่เฉลี่ย ๑ ตัว ๑.๗ กรัม
๓. อายุหนอนไหม ฤดูร้อนและฤดูฝน ๑๙-๒๐ วัน ฤดูหนาว ๒๒-๒๔ วัน
๔. อาหารของไหมไทย อาหารที่ดีที่สุดของไหมไทย คือ ใบหม่อน ใบแกแล(Broussonetia papyrifera Vent)เป็นใบพืชอีกชนิดหนึ่งที่สามารถใช้เลี้ยงไหมไทยวัย ๔-๕ ได้ หากขาดแคลนใบหม่อน
๕. จำนวนใบหม่อนที่ใช้เลี้ยง ไหมไทย ๑ แม่ ใช้ใบหม่อนเลี้ยงโดยเฉลี่ยในฤดูร้อนและฤดูฝน ๓.๗ กิโลกรัม ในฤดูหนาว ๔.๒ กิโลกรัม
ตารางที่ ๑
สถิติการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมของประเทศ ปี พ.ศ. ๒๕๒๓-๒๕๒๘
ปี พ.ศ. | จังหวัด | จำนวนครัวเรือนเลี้ยงไหม(ครัวเรือน) | เนื้อที่ปลูกหม่อน(ไร่) | ผลผลิตเส้นไหม(ก.ก.) |
๒๕๒๓ | ๓๓ | ๔๕๑,๗๘๑ | ๒๕๗,๘๒๕ | ๖๑๑,๘๔๘ |
๒๕๒๔ | ๓๓ | ๔๑๙,๒๔๓ | ๒๔๔,๑๘๑ | ๗๑๘,๑๘๘ |
๒๕๒๕ | ๓๓ | ๔๑๙,๕๘๑ | ๒๘๒,๔๕๒ | ๗๙๖,๗๙๐ |
๒๕๒๖ | ๓๓ | ๔๐๓,๖๓๔ | ๒๒๘,๕๗๖ | ๗๙๖,๐๓๑ |
๒๕๒๗ | ๓๓ | ๓๙๐,๖๔๒ | ๒๓๑,๙๖๘ | ๘๐๑,๑๓๗ |
๒๕๒๘ | ๓๓ | ๓๘๓,๔๒๕ | ๒๒๗,๖๗๙ | ๙๒๙,๗๖๖ |
ที่มา : กรมส่งเสริมการเกษตร
ผลผลิตที่ได้
๑. รังไหมพันธุ์ไทยรังสดเฉลี่ย ๙๘๙ รัง ต่อ ๑ กิโลกรัม
๒. รังไหมพันธุ์ไทย ๑ รัง เส้นใยยาวเฉลี่ย ๓๐๙ เมตร
๓. เส้นไหมพันธุ์ไทย ๑ กิโลกรัมต้องใช้รังสดเฉลี่ย ๑๒ กิโลกรัม
๔. เส้นไหมพันธุ์ไทย ๑ กิโลกรัมต้องใช้เวลาสาวด้วยมือเฉลี่ย ๗๐ ชั่วโมง
สรุป
ข้อเขียนดังกล่าวมานี้เป็นข้อมูลเพียงเล็กน้อยของไหมไทยเท่านั้น แต่อาจทำให้เกิดประโยชน์เป็นแนวทางในการวิจัยและพัฒนาไหมไทย สำหรับท่านที่มีความสนใจที่จะช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงไหมพันธุ์ไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรยากจนและมีจำนวนมากที่สุดของจำนวนเกษตรกรผู้เลี้ยงไหมของประเทสไทยเราในปัจจุบัน
บรรณานุกรม
๑. สวัสดิ์ พิลาชัย และคณะ ๒๕๒๓ การสำรวจปริมาณใบหม่อนที่ใช้ในการเลี้ยงไหมพันธุ์ไทย ต่อแม่ต่อพันธุ์ รายงานผลการทดลองประจำปี ๒๕๒๓ สถานีทดลองหม่อนไหมศรีสะเกษ กองการไหม ๗ หน้า
๒. สวัสดิ์ พิลาชัย และคณะ ๒๕๒๗ การศึกษาการใช้แรงงานในการเลี้ยงไหมพันธุ์ไทยและสาวไหมด้วยมือ ของเกษตรกร รายงานผลการทดลอง ประจำปี ๒๕๒๗ สถานีทดลองหม่อนไหมศรีสะเกษ สถาบันวิจัยหม่อนไหม ๖ หน้า
๓. อุดม ครามลายออ และคณะ ๒๕๒๓ ความเป็นไปได้หรือไม่ได้ ในการใช้ใบแกแลเลี้ยงไหมวัยแก่ รายงานผลการทดลองประจำปี ๒๕๒๓ สถานีทดลองไหมศรีสะเกษ กองการไหม ๔ หน้า