คำนวณ แก้วช่วง
วิทยาลัยเกษตรกรรมพังงา
พืชในสกุลมะไฟที่พบอยู่โดยทั่วๆไปในป่าภาคใต้ของประเทศไทยมีมากมายหลายชนิดด้วยกัน เช่น มะไฟป่า ละไม ลังแข จำไร มะไฟลี และมะไฟกา ปัจจุบันพื้นที่ป่าไม้ถูกทำลายลงไปมากในอนาคตหากไม่ช่วยกันอนุรักษ์ไม้ในสกุลมะไฟเอาไว้ก็อาจจะมีโอกาสสูญพันธุ์จากป่าเมืองไทยได้ มะไฟกาเป็นไม้ป่าพื้นเมืองอีกชนิดหนึ่งที่มีโอกาสจะสูญพันธุ์ไปเช่นเดียวกับไม้ป่าพื้นเมืองชนิดอื่นๆ
ลักษณะโดยทั่วๆ ไปของมะไฟกา เป็นพืชที่อยู่ใน Family Euphorbiaceae จัดเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลาง ทรงพุ่มสูงและทึบ ลักษณะของเปลือกสีน้ำตาลใบคล้ายกับใบของมะไฟ การออกดอกติดผลเช่นเดียวกับมะไฟ ดอกหรือผลจะไม่มีจั่นหรือชาวบ้านเรียกว่าทับอยู่บนดอกหรือผลเช่นเดียวกับมะไฟ ซึ่งแตกต่างไปจากละไม ลักษณะการออกดอกติดผลตามลำต้นและกิ่งขนาดใหญ่ ลักษณะเด่นที่น่าสนใจออกดอกติดผลตั้งแต่โคนต้นจากพื้นดินจนไปถึงปลายกิ่งเลยทีเดียว ผลที่สุกนั้นมีสีแดงสด เด่นสะดุดตา บางต้นก็มีรสชาติหวาน และบางต้นก็มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว ต้นที่มีขนาดใหญ่อาจให้ผลผลิตสูงถึง 800-1,000 กิโลกรัม
แหล่งที่พบ เป็นพรรณไม้ยืนต้นที่พบขึ้นอยู่ตามป่า ตามธรรมชาติพบขึ้นอยู่มากในป่าดิบชื้นในภาคใต้โดยทั่วๆ ไป โดยเฉพาะภาคใต้ตอนล่าง มีพบมากในจังหวัดยะลา นราธิวาส ฯลฯ และภาคใต้ฝั่งตะวันตก (ฝั่งอันดามัน)พบขึ้นอยู่ในป่าในจังหวัดพังงา และจังหวัดอื่นๆ โดยจะมีผลผลิตจำหน่ายตามเพิงข้างถนนในช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคมของทุกๆปี
การใช้ประโยชน์ ใช้บริโภคเป็นผลไม้สด โดยจำหน่ายในราคากิโลกรัมละประมาณ 8-10 บาท โดยเก็บผลผลิตจากป่าออกมาขายเป็นหลัก ยังไม่มีการพัฒนามาเป็นระบบการปลูกในเชิงพาณิชย์ ในอนาคตอาจจะต้องมีการปลูกกันจึงจะได้มีโอกาสบริโภค
มะไฟกาไม้ผลพื้นเมืองในสกุลมะไฟ เป็นไม้ผลที่น่ารู้และน่าสนใจอีกชนิดหนึ่ง หากได้มีการศึกษาอย่างจริงจังในอนาคตอาจจะเป็นประโยชน์ในการปลูกในเชิงพาณิชย์เช่นเดียวกับลังแข มะไฟ ละไม เป็นต้น จึงควรที่จะช่วยกันอนุรักษ์มะไฟกาไม้ในสกุลมะไฟอีกชนิดหนึ่งที่น่าจับตามอง และเพื่อป้องกันไม่ให้สูญพันธุ์ไปจากป่า
