การควบคุมคุณภาพมะม่วงส่งออก
การศึกษาวิธีการป้องกันโรคผลเน่าและควบคุมคุณภาพของมะม่วงเพื่อการส่งออก
การส่งมะม่วงไปต่างประเทศในปัจจุบันยังคงมีปัญหาเรื่องการเน่าเสียของผลิตผลภายหลังการเก็บเกี่ยว ทั้งนี้เนื่องจากการป้องกันกำจัดโรคในแปลงปลูกโดยการใช้สารเคมีเพียงอย่างเดียวไม่สามารถคุ้มครองผลผลิตให้ปลอดจากการเน่าเสียภายหลังการเก็บเกี่ยวได้ ประกอบกับผู้นำเข้าหลายประเทศมีความเข้มงวดในเรื่องการใช้สารเคมีกับผลิตผลสดภายหลังการเก็บเกี่ยว ดังนั้นการป้องกันกำจัดโรคผลเน่าของมะม่วงโดยวิธีผสมผสานในแปลงปลูก และภายหลังการเก็บเกี่ยวจึงมีความจำเป็นเพื่อให้มะม่วงมีคุณภาพดี ปราศจากการเน่าเสีย และเป็นที่ยอมรับของต่างประเทศ การทดลองในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวของการใช้สารป้องกันกำจัดโรคพืชทั้งก่อนและหลังการเก็บเกี่ยวร่วมกับการห่อผลมะม่วงในแปลงปลูก และการใช้ความร้อนเช่น การจุ่มน้ำร้อน และการอบไอน้ำภายหลังการเก็บเกี่ยวเพื่อควบุคมโรคเน่าภายหลังการเก็บเกี่ยวและควบคุมคุณภาพของมะม่วงเพื่อส่งออกจำหน่ายต่างประเทศ ซึ่งสรุปผลการทดลองได้ดังนี้
– ทำการทดลองกับมะม่วงพันธุ์หนังกลางวันและน้ำดอกไม้ที่สวนเกษตรกร จ.ฉะเชิงเทรา ราชบุรี และลำพูน พบว่าสภาพสวนมะม่วงและการปฏิบัติดูแลรักษาในแปลงปลูกมีความสำคัญต่อการเกิดโรคผลเน่าภายหลังการเก็บเกี่ยวของมะม่วงเป็นอย่างมาก จากการทดลองกับมะม่วงพันธุ์หนังกลางวันที่ จ.ราชบุรีพบว่า มะม่วงจากสวนที่ปลูกแบบยกร่องจะมีการเน่าเสียภายหลังการเก็บเกี่ยวมากกว่ามะม่วงจากสวนที่ปลูกสภาพไร่ แม้ว่าจะมีการพ่นสารป้องกันกำจัดโรคพืชในช่วง 1 เดือนก่อนเก็บเกี่ยว
– การห่อผลมะม่วงเป็นวิธีการหนึ่งที่จะช่วยลดการเกิดโรคภายหลังการเก็บเกี่ยวลงได้ จากการทดลองที่ จ.ลำพูน พบว่า มะม่วงที่ห่อผลแม้ว่าจะไม่นำมาผ่านการจุ่มสารป้องกันกำจัดโรคพืช ภายหลังการเก็บเกี่ยวจะมีการเน่าเสียในระดับใกล้เคียงกับมะม่วงที่ไม่ได้ห่อผลแต่นำมาจุ่มสารป้องกันกำจัดโรคพืช นอกจากนี้มะม่วงที่ได้รับการห่อผลจะมีผิวสวย และปราศจากริ้วรอยบนผล ต่างจากมะม่วงที่ไม่ได้ห่อผลอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะมะม่วงทางภาคเหนือที่มักจะเจอพายุลมแรงในช่วงระหว่างการเจริญเติบโตของผล
– การใช้สารป้องกันกำจัดโรคพืชในแปลงปลูก มีความจำเป็นเพื่อลดปริมาณของเชื้อสาเหตุของโรคที่จะติดไปกับผล การทดลองที่ฉะเชิงเทรา … Read More