ประโยชน์ของทับทิม


ชื่อวิทยาศาสตร์ Punica granatum Linn.
ชื่ออื่นๆ พิลา (หนองคาย) พิลาขาว มะก่องแก้ว (น่าน) มะเก๊าะ (เหนือ) หมากจัง(แม่ฮ่องสอน) เซียะลิ้ว (จีน)
ชื่ออังกฤษ Pomegranate, Punica Apple, Granats, Carthaginian Apple, Granades.
ลักษณะ ไม้พุ่ม ชอบขึ้นในที่ดินปนทรายและกรวด สามารถปลูกขึ้นในทุกที่ ปลายกิ่งจะมีหนามแหลม ใบเดี่ยวมีขนาดเล็กเรียงตรงข้าม รูปวงรีแกมขอบขนาน ใบกว้าง 1-1.5 ซ.ม. ยาว 3-4 ซ.ม. ยอดอ่อนมีสีแดง นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ คนจีน ถือเป็นไม้มงคล ดอกเดี่ยวหรือเป็นกระจุก มีดอกสีแดงสด และดอกสีขาว ดอกอยู่ที่ปลายกิ่งอาจมี 1-5 ดอก กลีบรองดอกอวบนํ้าจะคงอยู่จนเป็นผล กลีบดอกบาง ไม่เรียบ ร่วงง่าย เกสรตัวผู้มีเป็นจำนวนมาก เกสรตัวเมียมี 1 ถ้าชนิดดอกสีแดงสด ผลจะค่อนข้างกลมมีขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 6-10 ซ.ม. ชนิดดอกแดงมี 2 พันธุ์ พันธุ์หนึ่งสีของผิวผลเมื่อแก่จัดสีเหลือง ปนส้มปนแดง ส่วนอีกพันธุ์หนึ่งสีของผิวสีแดงปนแดงเลือดนก ผิวนอกของ ผลมัน ส่วนดอกสีขาวเปลือกผลเมื่อแก่จัดเป็นสีนวลอมนํ้าตาล ผลแก่มากๆ เปลือกจะแตกอ้าออก เห็นเนื้อในประกอบด้วย เนื้อหุ้มเมล็ดมีสีแดงเรื่อๆ ในพันธุ์ที่มีเปลือกผลสีส้มอมเหลืองอมแดง ส่วนพันธุ์เปลือกผลสีแดงปนแดงเลือดนก เนื้อหุ้มเมล็ดสีแดงเช่นสีของพลอยทับทิม พันธุ์ดอกขาวเนื้อหุ้มเมล็ดสีชมพู เนื้อหุ้มเมล็ดมีลักษณะใส โปร่งแสง รสเปรี้ยวอมหวานหรือหวาน แล้วแต่พันธุ์เนื้อนี้ จะอัดแน่นอยู่ในเปลือกผลที่ค่อนข้างบาง
มีทับทิมอีกพันธุ์หนึ่งเรียก ทับทิมหนู (P.granatum L.var. nana PERS.) ทางจังหวัดแม่ฮ่องสอนเรียกว่า ลิกัวลอ ปลูกเป็นไม้ประดับ เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก สูงไม่เกิน 3 ฟุต ออกดอกดกสีแดงเต็มต้นตลอดปี

ส่วนที่ใช้ เปลือกต้นและเปลือกราก เปลือกผล เนื้อของผล และยอด
สารสำคัญ เปลือกต้นและเปลือกรากมีอัลคาลอยด์ pelletierine และ isopelletierine เป็นอัลคาลอยด์ที่มีลักษณะเป็นของเหลว พบในส่วนของเปลือกของต้น 0.35-0.6% ในเปลือกราก 0.3% เป็นอัลคาลอยด์ออกฤทธิ์ฆ่าพยาธิลำไส้ เปลือกผลมีรสฝาด มีแทนนินประมาณ 22-25 % และกรด gallotannic ยังพบสารสีเขียวอมเหลืองในเปลือก เนื้อของผลที่แก่จัดมีรสหวานอมเปรี้ยว รสเปรี้ยว เนื่องจากมีกรด malic และ ascorbic
ประโยชน์ทางยา เปลือกรากและเปลือกต้น ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิตัวตืดได้ผลดี โดยเฉพาะถ้าใช้เปลือกสดๆ ใช้ประมาณ 60 กรัม ต้มเคี่ยวกับนํ้าหนึ่งลิตร เคี่ยวให้เหลือครึ่งเดียว รับประทานครั้งละ 2 ช้อนโต๊ะ หรือ 30 มิลลิลิตร ต้องอดอาหารก่อนรับประทาน หลัง 2 ชั่วโมงให้รับประทานยาระบายตาม
เปลือกผล ใช้เป็นยาแก้ท้องร่วง ใช้ประมาณ 1/6-1/4 ของผล เติมกานพลู อบเชย ลงไปอย่างละเล็กน้อย เพื่อแต่งรส แต่งกลิ่น ต้มกับนํ้า 11 ถ้วยแก้ว เคี่ยวให้เหลือครึ่งเดียว ดื่ม 2 ครั้ง จะแก้อาการท้องเดิน และท้องเสียได้
เนื้อของผล มีวิตามินซี กันและแก้โรคลักปิดลักเปิดได้ นอกจากนั้นยังช่วยลดอาการกระหายนํ้าได้ด้วย
อื่นๆ เปลือกของผลในอินเดียใช้ย้อมผ้าจะให้สีเขียว ถ้าเติมขมิ้นหรือคราม จะได้ผ้าที่ย้อมมีสีน้ำตาลแดง
ส่วนยอดหรือใบ ถือเป็นไม้มงคล ชาวจีนนิยมตัดปักบนอาหารที่ใช้ไหว้เจ้า ต้นทับทิมนิยมปลูกกันมาก โดยเฉพาะทับทิมดอกขาว จัดเป็นไม้มงคลและไม้หายาก
ที่มา:ศาสตราจารยพเยาว์  เหมือนวงษ์ญาติ