ขมิ้น

“ขมิ้น” มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า เคอร์คิวม่า ลองก้า (curcuma longa, Linn. ) อยู่ในตระกูล ซิงจิเบอราซี่ (Zingiberaceae) ภาคเหนือเรียก “ขมิ้นหัว” เป็นพืชล้มลุกมีเหง้าสีเหลืองเข้ม เนื่องจากมีสารสีเหลือง (เคอร์คิวมิน) (Curcumin) และชัน (resin) ใช้แต่งสีอาหาร เช่น ข้าวหมกไก่ แกงเหลือง แกงกะหรี่ ผงมัสตาร์ด กลิ่นของน้ำมันหอมระเหยที่ได้จากเหง้าขมิ้น ใช้แต่งกลิ่นเป็นเครื่องเทศเช่นเดียวกับกระวาน กานพลู นอกจากมีคุณค่าทางอาหารแล้วยังมีสรรพคุณทางยาแก้ท้องร่วง ขับลม เหง้าสดตำกับใบมะขาม และการบูนห่อผ้านึ่งพอร้อนนำมานวดบริเวณชาให้เลือดเดินสะดวก เหง้าขมิ้นแห้งป่นเป็นผง ทารักษาผิวและแก้โรคผิวหนัง ขมิ้นยังใช้เป็นเครื่องบ่งชี้โดยใช้กระดาษกรองชุบยาดองขมิ้น เพื่อทดสอบกรดบอริค (Boric acid) ที่มีอยู่ในผงชูรสปลอมจะให้สีแดงที่กระดาษซึ่งในผงชูรสแท้จะประกอบด้วยโซเดียมโมโนกลูตาเมทไม่มีกรดบอริค หัวขมิ้นยังให้สีเหลืองจากธรรมชาติ อีกด้วย

ต้นขมิ้นใช้เหง้าปลูกเจริญงอกงามดีในฤดูฝน เมื่อถึงฤดูแล้งใบจะแห้งเหลือเหง้าอยู่ใต้ดิน ปลูกง่ายใช้เหง้านิดเดียวก็สามารถขยายพันธุ์ได้เป็นกอขนาดใหญ่ในระยะเวลาไม่นาน เหมาะสมสำหรับปลูกเป็นพืชสวนครัว ถ้าท่านมีพื้นที่ดินจำนวนมากท่านสามารถปลูกไว้เป็นสินค้าได้เป็นอย่างดี

สรุปสรรพคุณ

เหง้าขมิ้น ประกอบด้วยน้ำมันหอมระเหย ใช้แต่งกลิ่นเป็นเครื่องเทศแก่ท้องร่วง ขับลม ป่นเป็นผงทารักษาผิวและแก้โรคผิวหนัง

เหง้าขมิ้นสด ผสมใบมะขามและการบูนตำและห่อผ้านึ่งนวดบริเวณชา ทำให้เลือดเดินสะดวก

สารภายใน หัวขมิ้นเป็นเครื่องบ่งชี้ทดสอบกรดบอริคที่มีในผงชูรสปลอม