มะขาม

มะขาม มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า ทามารินดุ๊ส อินดิก้า (Tamarindus indira, LinnJ อยู่ในตระกูล ซีซัลบินาซี่ (Caesalpinasae ) เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ประกอบด้วยใบย่อย มีขนาดเล็กจำนวนมาก ให้ร่มเงาได้ดี และใบที่ล่วงไม่สกปรก เป็นปุ๋ยให้ต้นได้ดีมาก เดิมเป็นพืชพื้นเมืองของทวีปอัฟริกาเขตร้อน ปัจจุบันมีทั่วไปในเขตร้อน ดอกสีเหลืองประแดง ใบ และดอกมีรสอมเปรี้ยว ใช้ปรุงเป็นอาหารรวมทั้งฝักอ่อนและฝักแก่ด้วย ฝักยาว เนื้อในฝัก เมื่อแก่เต็มที่เรียกว่า “มะขามเปียก” ประกอบด้วยกรดอาหารหลายชนิด เช่น กรดทาร์ทาริก (tartaric acid), กรดซิทริก (citric acid), กรดมาลิก (malic acid) และมีสารเมือก gum, pectin ซึ่งเมื่อขยำมะขามเปียกกับน้ำมีลักษณะเหมือนแป้งเปียก มีคุณสมบัติเป็นยาระบายช่วยลดอุณหภูมิในร่างกาย นำมาทำเป็นน้ำมะขามเปียกเติมน้ำตาลและเกลือให้ออกรสนิดหน่อยดื่มเป็นยาระบาย ลดความร้อน บรรเทาอาการไข้ ทำให้ชุ่มคอชื่นใจ และยังใช้ประกอบอาหารต่างๆ ได้หลายชนิด มะขามเปียกทาหน้าเพื่อป้องกันฝ้าและชลอการเหี่ยวย่นของใบหน้า ฝักมะขามอ่อนก็อุดมด้วยวิตามินซี ใช้ปรุงเป็นอาหารคาว เช่น น้ำพริกมะขามอ่อน ฯลฯ และเป็นผลไม้จิ้มพริกกับเกลือ หรือตำส้มมะขามอ่อนก็มีคุณค่าทางอาหารสูง

เมล็ดมะขาม เพาะได้เช่นเดียวกับการเพาะถั่วงอกจากเมล็ดถั่วเหลือง นำต้นอ่อนจากเมล็ดมะขามแกงส้มอร่อยดี ให้วิตามินซีสูง

ตำหรับโบราณที่ไม่ล้าสมัย ใช้ใบมะขามต้มกับหัวหอมแดงโกรกศีรษะเด็กแก้เป็นหวัดคัดจมูก หรือใช่อาบอบตัวคนไข้ขับเหงื่อหายใจคล่อง

วิธีทำน้ำมะขาม

เอามะขามเปียกล้างใหสะอาดใส่ภาชนะเคลือบต้มให้น้ำเปรี้ยวออกมากๆ ประมาณ ๑๕ นาที กรองเอาแต่น้ำ ห้ามบีบหรือคั้นเพราะจะทำให้ขุ่น แล้วใส่น้ำตาลทราย เติมเกลือนิดหน่อยเพื่อให้รสเข็มข้น ชิมรสตามชอบ ต้มพอเดือดยกลง ผสมน้ำสะอาดดื่มอุ่นๆ หรือผสมน้ำแข็งดื่มเย็น แก้กระหายนํ้าชุ่มคอดี ถ้าจะเก็บไว้นานๆ ต้องใส่ขวดปิดฝาให้แน่น

สรุปสรรพคุณ

ดอก ฝักอ่อน มีรสอมเปรี้ยว ปรุงเป็นอาหารได้ ประกอบด้วยวิตามินซีสูง

เนื้อในฝัก ประกอบด้วยกรดอาหารและสารเมือก ใช้เป็นยาระบายลดอุณหภูมิในร่างกาย

มะขามเปียก ทำเครื่องดื่มสมุนไพร ดื่มเป็นยาระบาย ลดความร้อน บรรเทาอาการไข้ ทำให้ชุ่มคอชื่นใจ

มะขามเปียก เป็นเครื่องสำอางค์ ทาหน้าป้องกันฝ้า ชลอการเหี่ยวย่นบนใบหน้า