ลักษณะ ลำต้นมีจุดๆ ลายสีน้ำตาล ก้านเขียวมีลายทางขาวเคลือบบ้างเขียวเคลือบบ้าง ใบเหมือนใบพายแต่ปลายแหลม ใบมีจุดสีขาวเป็นจุดๆ ตลอดทั้งใบ หัวกลมคล้ายกับหัวบอน เล่นใบดอกเป็นพุ่มสีแดงสวยงามมาก ว่านต้นนี้ข้าพเจ้าใช้ตำราศึกษาค้นคว้า 9 เล่ม ตำราแต่ละเล่มว่าลักษณะไม่เหมือนกันสักเล่มเดียว ใบนั้นออกลักษณะเหมือนว่านไม้ดีด, ว่านตาไม้, ว่านนารายณ์แปลง, ว่านคํ้าคูณ, ว่านทิพย์เนตร และไม้ประดับอีกหลายต้น และว่านมหาประสาน ฯ

สรรพคุณ เป็นว่านอยู่ยงคงกะพันชาตรี ว่านต้นนี้เป็นไม้สกุลเดียวกับว่านหมื่นปี หรืออ้อยใบซึ่งยางของหัวว่านหมื่นปีนั้นมีฤทธิ์ ถ้าถูกลิ้นเข้าแล้ว ทำให้ลิ้นแข็ง พูดไม่มีเสียง หรือพูดไม่เป็นภาษา นอกจากอ้อๆ แอ้ ๆ กลายเป็นคนใบ้ ฉะนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เป็นอันตรายตามกล่าว เพราะเป็นพืชพันธุ์เดียวกัน จึงควรหั่นหัวว่านนี้เป็นชิ้นพอดีคำ แล้วเอาส้มมะขามเปียกที่แกะเม็ดออกแล้วแผ่ออกหุ้มห่อหัวว่านที่หั่นไว้นั้นให้มืดเก็บไว้สำหรับกิน เมื่อเวลาจะใช้เป็นคงกระพันชาตรี โดยใส่ลงไปในลำคอแล้วกลืนลงไปในท้องเลยทีเดียว เหมือน … Read More

ลักษณะ ต้นและใบขึ้นจากหัวเป็นก้านเหมือนกับกระชายดำ

และคํ้าคูนหรือว่านกำบังแต่ใบและก้านเล็กกว่าอ่อนกว่ากันมากหัวออก เรียงกันเป็นแถวคล้ายกับว่านกระแจะจันทร์ หัวเจริญเติบโตออกสองข้างเรียงกัน เนื้อในหัวเป็นสีขาว มีรสหอมเย็น

สรรพคุณ ปลูกไว้กับบ้านเป็นเมตตามหานิยม ถ้าเอาหัวว่าน ติดตัวไปไหน ๆ ด้วย จะทำให้มีผู้เมตตาสงสารศัตรูไม่กล้าคิดร้าย อำนาจ ของว่านนี้ทำให้ศัตรูเกิดงงงวยเป็นจังงังไป ถ้าเอาหัวว่านมาตำให้ละเอียดเป็นผงเหมือนผงขมิ้นแล้วเอาผสมกับแป้งหรือดินสอพอง ใช้ลูบไล้ตัวจะทำให้เพศตรงข้ามเกิดความพอใจรักใคร่ตน ยิ่งตำเป็นผงเหมือนขมิ้น เอาโรยลงในตุ่มน้ำเล็กน้อยจะทำให้ผู้ดื่มน้ำรักและหลงหมดทั้งครอบครัว หรือผู้ที่ดื่มน้ำนั้นเข้าไปเป็นพระยาเทครัวไปเลย ก่อนจะนำไปใช้ให้เศกด้วยคาถาดังนี้

“พุทธ สังมิ นะชาลีติ อิสะวาสุ จิเจ รุนิ” ว่า 7 หน แล้วจึงเอาไปใช้ จะทรงคุณค่าในทางเสน่ห์ดีนัก

วิธีปลูก ใช้ดินบริสุทธิ์ปราศจากมลทินโทษใดๆ เป็นดินปลูก คอยเอาหัวว่านมาวางกลบด้วยดินที่เตรียมไว้พอมิดหัวว่าน จึงเอาน้ำที่

เศกด้วยคาถา “อิติปิโสภควาจนถึงภควาติ” … Read More

ลักษณะ ต้น,ใบ และหัวคล้ายขมิ้นอ้อย ริมใบเขียว กระดูกใบแดง,ลำต้นสีแดง เนื้อในหัวสีเหลืองอ่อน ว่านต้นนี้ ถ้าเอาว่านต้นอื่น ๆ ในกระถางเดียวกัน ว่านต้นอื่นที่ปลูกอยู่ด้วยนั้นจะกลายเป็นพญาว่านไปด้วย ว่านต้นนี้สำคัญมาก ต้นและใบคล้ายๆ กับว่านอีกหลาย ๆ ต้น เช่น มหาเมฆ, พยัพหมอก, ขมิ้นดำ มีข้อสังเกตุอยู่ คือ มีกระดูกใบแดงเรื่อๆ ริมขอบใบเขียวมากกว่าพื้นใบ ริมใบยังมีขอบขาวนิดๆ ใบจะเล็กกว่าว่านที่กล่าวมานี้

สรรพคุณ เป็นว่านป้องกันและแก้ว่านต่างๆ ใช้แก้เมื่อกินหรือถูกพิษว่านร้าย หรือต้นไม้มีพิษต่าง ๆ เช่นถูกว่านตอดเป็นแผลจะรักษาไม่หาย ให้นำหัวจ่าว่านไปฝนทาและกิน จะหายปวดทันที บาดแผลก็จะหายไปในที่สุด ชาวป่าเดินทางต้องพกว่านนี้ติดตัวเพื่อป้องกันพิษร้ายจากต้นไม้มีพิษ ที่โดนตัวคนแล้วมีอาการคันและเจ็บปวดทั้งผิวหนังและวิ่งเข้าหัวใจ และยังแก้ของเบื่อเมาในอาหารต่างๆ ได้ชะงัดอีกด้วย เป็นว่านชั้นเดียวกันกับพญาว่าน, … Read More

ลักษณะ หัวแลดูคล้ายกันกับหัวฆ้อนปอนด์ชนิดหัวตัดท้ายตัด มีรากเล็กๆ แทงย้อนขึ้นตามลำหัวและรากใหญ่แทงลงดินคล้ายกระชาย แตกหัวออกเป็นกอๆ เป็นกระจุกๆ ต้น ก้าน ใบ…คล้ายขมิ้นอ้อย ก้านของใบสั้นกว่า มีขนเล็กน้อย ดอก…ขึ้นเป็นก้าน บานเป็นช่อ 1 สีขาวอ่อนๆ

สรรพคุณ ปลูกไว้กับบ้านเป็นเสน่ห์ดีนัก ใช้ในทางคงกระพัน หรือพกติดตัวไปไหนๆ ด้วยดีมาก ก่อนจะกินให้เศกด้วยคาถา นะโมพุทธายะ 3 จบก่อนกิน คมอาวุธท่านว่าไม่ระคายผิวหนังได้

วิธีปลูก เลือกเอาวันที่เป็นศิริมงคลกับเจ้าตัวคนปลูก เหมือนปลูกว่านกระชายดำ

หมายเหตุ ว่านต้นนี้บางคนเอามาทำเป็นว่านเพชรกลับก็มี เพราะเหตุที่รากเล็กนั้นย้อนขึ้น จึงต้องใช้ความสังเกตให้ดีป้องกันการผิดพลาด

… Read More

ลักษณะ ต้นและใบคล้ายขมิ้น กลางใบแดง ต้นเขียว หัว

เป็นแง่งเล็กๆ เหมือนขมิ้น เนื้อในหัวมีสีม่วงอ่อนเป็นสีชา

สรรพคุณ มีคุณในทางแก้ซางชักสำหรับเด็กๆ แก้ไส้เลื่อน สำหรับผู้ใหญ่ และชักมดลูกสำหรับสตรีคลอดบุตรในเรือนไฟ โดยเอาหัวว่านต้มกิน หรือดองสุราไว้กินก็ได้ ฝนกับเหล้าทาคอหรืออมไว้แก้คอเจ็บ ฝนกับนํ้าปูนใสกินแก้ปวดท้อง

วิธีปลูก ใช้ดินร่วน ๆ หรือปนทรายบ้าง เป็นดินปลูก พอกลบหัวว่านมิดก็ใช้น้ำรดให้ชุ่ม

… Read More

ลักษณะ เป็นไม้ลงหัวจำพวก ขิง, ข่า, กะทือ, ไพล ใบโตขนาดใบพุทธรักษา เส้นกลางใบสีแดงเข้ม ดอกออกมีกลีบซ้อนเป็นชั้นๆ คล้ายลูกสับปะรด สีม่วงขาวน่าดูมาก เป็นไม้ยืนต้น เจริญงอกงามในฤดูฝน พอย่างเข้าฤดูหนาวใบจะตาย คงมีหัวอยู่ในดินเท่านั้น หัวยาวเหมือน ว่านม้า พบมีทางจังหวัดจันทบุรีมาก ลักษณะต้นใบก้าน และสีเหมือน กับว่านหนังแห้งทุกอยาง

สรรพคุณ ทางยามีกลิ่นและรสคล้ายว่านนางคำมากแต่มี

หัวเป็นสีขาว ใช้หัวฝนทาแก้เคล็ดฟกบวมได้ดี ใช้ฝนกับสุราหรือน้ำส้ม สายชูและน้ำซาวข้าว ชุบสำลีอมไว้ข้างแก้ม กลืนทีละน้อย ๆ แก้ต่อม ทอมซินอักเสบ แก้ฝีในคอได้ดีมาก ใช้ตำพอกฝีคันทมาลา ฝีมะคำร้อย และฝีทุกชนิดได้ผล ถ้ากินจะเป็นคงกระพันชาตรีดีด้วย

ชื่อที่เรียกกันว่า คันทมาลา, ว่านนางคำขาว, … Read More

ลักษณะ หัว ราก คล้ายกระชายธรรมดา แต่เล็กกว่ากระชาย มาก และคล้ายกันกับว่านถอนโมขศักเหมือนกัน เนื้อในหัวเป็นสีเหลืองอ่อน ต้น ก้าน ใบ คล้ายกระชาย หรือว่านเปราะหอม แต่ใบใหญ่กว่าเปราะหอม ก้านเขียว ใบเขียว ปลายใบแหลมมน ดอกขึ้นเป็นก้านยาวตรงโคนต้น บานเป็นช่อแตกเป็นแฉกเหมือนว่านดอกโมกขศักดิ์

สรรพคุณ ว่าน ต้นนี้เป็นว่านเมตตามหานิยมแก่สถานที่และผู้ เป็นเจ้าของ

วิธีปลูก ให้ปฏิบัติการปลูกเหมือนกับว่านกระชายดำ โดยใช้ดิน ร่วนๆ ปนกับใบทองหลางและหญ้าแห้งๆ สับเป็นท่อนๆ ใส่ลงกระถาง ราวค่อนกระถาง แล้วเอาหัวลงดินกลบอย่าให้มิดหัว รดนํ้าพอสมควร อย่าให้ชุ่มมาก จะทำให้หัวว่านเน่าตายเสีย ว่านต้นนี้เป็นว่านล้มลุก เจริญเติบโตหน้าฝนเท่านั้น ๆ

 

… Read More

ลักษณะ ต้นสีคล้ำๆ ค่อนข้างดำ ก้านดำใบสีเขียวอ่อนมีกระ เป็นปานสีบรอนซ์เงินตลอดทั้งใบ เกือบเหมือนว่านกวักทางลาย ใบสั้นกว่าหัวมนๆ ถ้าเลี้ยงงอกงามดีใบจะใหญ่ขอบใบจะออกสีเหลืองๆ หัวเป็นลำโต ๆ มียางออกสีขาว เจริญงอกงามขยายพันธุ์ได้รวดเร็วมาก ว่าน ต้นนี้เป็นแม่ว่านนิยมเลี้ยงกันมาช้านาน เป็นมรดกตกทอดจนถึงปัจจุบัน (บางแห่งนำไปเรียกกันว่ากวักเงินเกวักทอง ความจริงเขียวหมื่นปีต้นนี้ไม่ค่อยมีใครสนใจมานานแล้ว)

สรรพคุณ เป็นว่านคงกระพันชาตรี โดยนำใบตำให้พอแหลก ห่อส้มมะขามเปียกกลืนเข้าไปเจ็ดคำ ใบคันคอมาก ใบยังนำไปตำให้ ละเอียดผสมกับสุราขาว สำหรับพอกแผลสดๆ ที่ถูกของมีคมเช่น มีด หรือถูกฟัน นำไปปิดที่แผลแล้วเอาผ้าผูกมัดให้แน่น เมื่อหายเจ็บแล้วแก้ ผ้าออกแผลจะกลับสนิทกัน เหลือแต่เป็นรอยไม่อักเสบ ไม่เจ็บ เมื่อแผล ตกสะเก็ดหายแล้วไม่เป็นแผลเป็น (จากคำบอกเล่าของหลวงพ่อนาค นาคเสโน ซึ่งเป็นศิษย์ของหลวงพ่อกลั่นวัดพระญาติ แห่งจังหวัดอยุธยา ปัจจุบันท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ราษฎร์บูรณะ … Read More

ลักษณะ ต้นเหมือนกวักทางลาย ใบยาวเรียวมีลายเป็นทางบ้างจุดบ้างแต่น้อยกว่าว่านเขียวหมื่นปี ดอกออกโคนกาบของก้านใบคล้าย ดอกว่านขันหมาก มีลูกเมื่อดอกแก่เหมือนลูกตำลึงเล็ก ๆ เมื่อแก่จะมีสีส้ม ว่านเขียวหมื่นปีนี้สังเกตได้ง่ายๆ คือปลายแหลมมากมองดูสวยงามดี

สรรพคุณ ใบ และต้นตำผสมนํ้าสุราขาว คั้นเอานํ้ากิน เอากากพอกถอนพิษสัตว์กัดต่อย ว่านต้นนี้ให้คุณในทางเมตตามหานิยม ปลูก ไว้เป็นศรีเป็นสง่าแก่บ้านเรือน เป็นไม้มงคลต้นหนึ่ง โดยมากมักจะเลี้ยง ไว้เป็นไม้ประดับ เพราะไม้ต้นนี้สวยงามไปอีกแบบหนึ่ง

วิธีปลูก ให้นำดินร่วน ๆ ปนทรายบ้างปนใบไม้บ้างนำมาปลูกให้นำอิฐหักทุบรองก้นกระถาง ใส่ทรายหยาบให้มิดอิฐ นำดินที่เตรียมไว้ ใส่ลงไปให้เกือบเต็มกระถาง นำกิ่งว่านซึ่งตัดจากต้นเดิม หรือหน่อ ปัก ลงไปกลบดินให้พอดี นํ้าที่รดให้เศกด้วยคาถาพระเจ้าห้าพระองค์ “นะโมพุทธายะ” 3 คาบ แล้วจึงรดน้ำจึงจะดี

… Read More

ลักษณะ ต้นและใบคล้ายข่า แต่เล็กกว่าข่าธรรมดามาก ใบมีลายเส้นขาวกระจายอยู่หน้าใบ รากเป็นฝอย มีแต่รากดอกออกปีละครั้ง ถึงต้นปีจึงจะมีดอกครั้งหนึ่ง ดอกเหมือนดอกเซ่ง แต่สีแดงเหมือนดอก เข็มแดง แม้ว่าจะมีดอกแล้วหัวก็คงไม่มีใครพบว่านต้นนี้จงเก็บเอาราก

และต้นเอาไว้เถิดใช้ได้

สรรพคุณ เป็นว่านที่มีสรรพคุณพิเศษแปลกประหลาดกว่าว่านทั้งหลาย คือถ้าจะต้องการบำบัดอาการของโรคใด ๆ ก็ตาม ให้เอารากว่านนี้ฝนให้กินโรคนั้นหายได้ ใช้รากกับน้ำฝน หรือนํ้าปูนใสทาแก้ฝี ทุกชนิด ท่านให้เอาว่านนี้มาตัดแล้วกลึงเป็นลูกประคำ ผูกติดตัวไว้ เมื่อทำเป็นลูกประคำแล้วให้เสกด้วยคาถา “นะโมพุทธายะ” 108 คาบ เมื่อ เวลาจะใช้ให้เสกคาถา “นะโมพุทธายะ” ตามกำลังวันที่ใช้ เช่นวันอาทิตย์ 1 ครั้ง วันจันทร์ 2 ครั้ง วันอังคาร 3 วันพุธ … Read More