Category: Uncategorized

การปลูกพืชในดินเค็มชายทะเล โดยระบบการให้น้ำแบบหยด

การแก้ปัญหาการปลูกพืชในดินเค็มชายทะเล โดยระบบการให้น้ำแบบหยด

ฝ่ายเผยแพร่และประชาสัมพันธ์  สำนักงานเลขานุการกรม

กรมพัฒนาที่ดิน  กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ดินเค็ม คือดินที่มีเกลือชนิดต่าง ๆ ผสมอยู่เป็นจำนวนมากจนมีผลกระทบกระเทือนต่อการเจริญเติบโตของพืช  ทำให้การปลูกพืชไม่ได้ผล

ดินเค็มในประเทศไทยมีอยู่ 2 ชนิด คือ ดินเค็มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเกิดจากอิทธิพลของหินเกลือใต้ดิน และดินเค็มชายทะเลที่เกิดจากอิทธิพบของน้ำทะเล  ซึ่งจากการรายงานการสำรวจดินของกองสำรวจดิน กรมพัฒนาที่ดิน  ปรากฎว่ามีดินเค็มชายทะเลอยู่ถึง 1,509,137 ไร่ กระจายอยู่ทั่วไปตามชายฝั่งทะเลภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคใต้ ลักษณะดินส่วนใหญ่เป็นดินที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง  เนื้อดินเป็นพวกดินร่วนเหนียว ถึงดินเหนียว การระบายน้ำไม่ดี  สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าชายเลน และที่รกร้างว่างเปล่า การใช้ประโยชน์ทางด้านกสิกรรมมีน้อย

โดยทั่วไปการปลูกพืชในดินเค็มให้ได้ผลนั้น  การจัดการน้ำนับเป็นเรื่องสำคัญที่สุด  วิธีการให้น้ำแก่พืชที่เหมาะสมจะช่วยแก้ปัญหาการปลูกพืชในดินเค็มได้เป็นอย่างดี  โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิธีการให้น้ำที่สามารถควบคุมปริมาณน้ำได้เป็นอย่างดี  และยังสามารถควบคุมไม่ให้ความเค็มในดินเป็นอันตรายต่อพืชได้อีกด้วย  หลักการของการให้น้ำแก่พืชที่ปลูกในดินเค็มคือ  … Read More

เทคนิคการขยายพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับ

เทคนิคการขยายพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับ

รศ.สุนทร  ปุณโณทก

บทบรรยาย  เนื่องในการอบรมไม้ดอกไม้ประดับ หลักสูตรพิเศษ แก่ประชาชน “งานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับ” ณ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว เมื่อวันที่ 15  สิงหาคม  2527  เวลา 13.00 – 18.00 น.

งานเพาะปลูกพืชต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพืชไร่ พืชสวน หรือการป่าไม้ก็ตาม  สิ่งหนึ่งที่นับเป็นหัวใจของการเพาะปลูก  ซึ่งผู้ประพฤติปฏิบัติต้องมีความรู้ความเข้าใจ  มิเพียงแต่รู้จดรู้จำเท่านั้น  ยังต้องรู้แจ้งรู้จริง นั่นคือ “งานขยายพันธุ์พืช” ถ้ารู้หลักการขยายพันธุ์เป็นอย่างดีแล้ว  ความสำเร็จในอาชีพด้านการเพาะปลูกจะมีมากขึ้น

มนุษย์เรียนรู้การขยายพันธ์พืชมาช้านาน  ด้วยอาศัยการสังเกตพินิจพิเคราะห์อย่างให้ความสนใจ  สันนิษฐานว่าเดิมทีคงเก็บผลไม้ในป่าบริโภค  เมื่อเห็นว่าอร่อยไม่เป็นพิษเป็นภัย  จึงเก็บไปฝากลูกฝากเมียที่บ้าน  เมื่อกินเนื้อผลไม้หมดแล้ว  เมล็ดที่เหลือก็โยนทิ้งรอบบริเวณบ้านนั่นเอง  … Read More

เว็บบอร์ดแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการเกษตร

บล็อก thaikasetsart.com ได้สร้างขึ้นมาเพื่อรวบรวมความรู้ วิชาการด้านการเกษตร แต่ข้อจำกัดของบล็อก คือ การสื่อสาร ตอบโต้ แลกเปลี่ยนความรู้ ทำได้ยาก ดังนั้น ทางทีมงานไทยเกษตรศาสตร์ดอทคอม จึงได้จัดทำเว็บบอร์ดขึ้นมา สำหรับผู้ที่สนใจในวิชาการด้านการเกษตร จะได้มาแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกัน

ทุกท่านสามารถเข้าไปที่เว็บบอร์ดได้ ตาม URL ด้านล่าง ครับ

http://forums.thaikasetsart.com

Read More

การทำข้าวเกรียบกุ้งสงขลา

เมืองไทยในอดีตนั้น  ร่ำรวยด้วยทรัพยากรธรรมชาติ  อย่างล้นเหลือสมกับที่ศิลาจารึก  ของพ่อขุนรามคำแหงได้กล่าวไว้ว่าในน้ำมีปลาในนามีข้าว  ซึ่งตรงกับภาษาฝรั่ง  ที่บรรดาไกด์นำเที่ยวอธิบายให้พวกฝรั่งที่ไปเที่ยวสุโขทัยฟังว่า In the water there are fish, in thefields there is rice คนในสมัยกรุงสุโขทัย  อยุธยา กรุงเทพฯ ยุคนั้นจึงได้กิน แต่ กุ้ง หอย ปู ปลา สดๆ ชนิดที่พอขึ้นจากน้ำก็ทำกินกันเลย  เพราะที่ไหนมี คู คลอง หนองบึง  ที่นั่นก็จะมีสารพัดสัตว์น้ำให้เลือกจับตามชอบใจ

ก็ไม่ต้องดูอื่นดูไกลหรอก  เอาแค่สมัยเมื่อ 40 กว่าปีนี้เองเจ้าของร้านค้าแถว ๆ ท่าช้างวังหลวง  ได้เล่าให้ฟังว่าตอนที่ยังเป็นเด็ก … Read More

การคลุมดินเพื่อช่วยรักษาความชื้นและความโปร่งของดินในแปลงกุหลาบและข้อควรระวัง

กุหลาบ(ต่อจากฉบับที่แล้ว)

การคลุมดิน


เนื่องจากกุหลาบต้องการความชื้นสูง  และอากาศในดินดี  เพื่อที่จะช่วยรักษาความชื้นและความโปร่งของดินในแปลง  ให้เป็นไปตามต้องการของกุหลาบ  จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหาวัสดุที่หาง่าย  ราคาถูก หรือไม่จำเป็นต้องซื้อหาเช่น  หญ้าแห้ง  ฟาง  เปลือกถั่วลิสง  ซังข้าวโพด  ชานอ้อย  ขุยมะพร้าว  หรือแกลบดินอย่างใดอย่างหนึ่ง  มาคลุกดินในแปลงรอบ ๆต้นกุหลาบ  หนาประมาณ 2-3 นิ้ว

ข้อควรระวัง ในการใช้วัสดุคลุมดินที่ยังไม่สลายตัว  จะทำให้เกิดปัญหาการขาดอ๊อกซิเจนเกิดขึ้นกับกุหลาบได้  ดังนั้นจึงควรเติมปุ๋ยที่ให้ธาตุไนโตรเจนเช่น แอมโมเนียมซัลเฟตหรือ ยูเรียลงไปด้วยทุกครั้งที่คลุมดินเพื่อป้องกันไว้ก่อน  ไม่ควรเติมในปริมาณที่มากเกินไป  ถ้าเป็นไปได้ก่อนคลุมดินควรหาทางทำให้วัสดุที่คลุมชื้นหรือเปียกเสียก่อน  มิฉะนั้นแล้วจะเป็นปัญหาเรื่องความชื้น  เพราะวัสดุที่ใช้คลุมเปียกน้ำได้ยาก  ถ้าไม่ทำให้ชื้นก่อนจะต้องรดน้ำในระยะแรกบ่อย ๆ และหลาย ๆ ครั้ง  มิฉะนั้นจะเกิดปัญหาการขาดน้ำตามมา  กุหลาบอาจจะเหี่ยวเฉาได้

นอกจากวัสดุคลุมดินจะช่วยรักษาความชุ่มชื้น และการถ่ายเทอากาศในดินแล้ว  … Read More

กุหลาบพันธุ์ต่างๆที่ใช้เป็นต้นตอในการขยายพันธุ์

โดยทั่วไปแล้วเรามักจะสรรหากุหลาบที่จะนำมาใช้เป็นต้นตอ  โดยคัดเลือกจากพันธุ์กุหลาบป่าที่มีระบบรากดี  ทรงพุ่มแข็งแรง  ทนหนาว ทนร้อน มีอายุอยู่ได้นาน ต้านทานโรค  เช่น.-

1.  โรซ่า มัลติฟลอร่า (Rosa multiflora) มีถิ่นกำเนิดในญี่ปุ่น  มีระบบรากดี ทรงพุ่มแข็งแรง ช่อดอกใหญ่ อายุยืน ทนหนาว ทนร้อน ทนต่อโรคใบจุด (black spot) แต่ไม่ทนต่อโรคราขาว (powdery mildew) และโรคเหี่ยว(verticillium wilt) มีข้อสั้น

อีกประการหนึ่งคือ กุหลาบต้นนี้ดูดธาตุโบรอนและคลอรีน สะสมไว้ในใบมากกว่ากุหลาบชนิดอื่น ๆ จึงเป็นผลให้พันธุ์ดีเกิดอาการไหม้ตามขอบใบในฤดูร้อน

 

2. โรซ่า อินดิค่า (Rosa indica) … Read More

การขยายพันธุ์กุหลาบด้วยวิธีการต่อกิ่งและการติดตา

การต่อกิ่ง (grafting)

การขยายพันธุ์ด้วยวิธีนี้  นิยมทำกับกุหลาบที่ปลูกในกระถาง  ไม่นิยมทั่วไป  เพราะเสียเวลาและไม่มีความแน่อน  อีกทั้งต้องใช้ฝีมือพอสมควร

การติดตา (budding)

การขยายพันธุ์ด้วยวิธีนี้  ดูเหมือนว่าจะเป็นที่นิยมมากที่สุด  ทั้งนี้เพราะสามารถขยายพันธุ์ดีได้เร็วกว่า คนที่มีความชำนาญในการติดตา  จะสามารถทำการติดตาได้มากกว่า 1,000 ต้นต่อวัน ต่อสองคน อีกทั้งยังสามารถคัดเลือกต้นตอทีเหมาะสมกับสภาพดินฟ้าอากาศในแต่ละท้องถิ่น  และแต่ละพันธุ์ของกุหลาบพันธุ์ดีที่จะนำมาติด

นอกจากนี้  ถ้าตาพันธุ์ดีที่นำมาติดสามารถเข้ากันได้ดีกับต้นตอ  จะช่วยส่งเสริมความดีเด่นในลักษณะต่าง ๆ ของกุหลาบพันธุ์ดีที่นำมาติดด้วย  ยิ่งไปกว่านั้นกุหลาบที่ใช้เป็นต้นตอส่วนมากจะมีระบบรากที่แข็งแรงกว่ากุหลาบพันธุ์ดี  ทำให้การปลูกกุหลาบแต่ละครั้งมีอายุให้ผลยาวนานและผลผลิตสูงกว่าการปลูกกุหลาบจากการตอนกิ่ง  หรือการตัดชำ

กุหลาบที่ใช้ทำเป็นต้นตอ ส่วนมากเป็นกุหลาบป่า (Wild species) หรือกุหลาบเลื้อยบางพันธุ์  กุหลาบแต่ละชนิด แต่ละพันธุ์ ใช่ว่าจะเป็นต้นตอที่ดีที่สุดของกุหลาบพันธุ์ดีทุกพันธุ์เสมอไป

Read More

ปริมาณของผลผลิตและราคาจำหน่ายหน่อไม้ฝรั่ง

ปริมาณของผลผลิต

ต้นฤดูฝน (มิ.ย.-ก.ย.)  ผลผลิตจะสูงมาก เมษายนผลผลิตจะลดลงในช่วงฤดูหนาว (ต.ค.-ม.ค.)  ผลผลิตจะลดลงมาก

ราคาจำหน่าย

คิดราคาตามเกรด  คือ  เกรดเอพิเศษ  จำหน่าย กก.ละ  40  บาท

เกรดเอ  จำหน่าย  กก.ละ  35-40  บาท

เกรดบี  จำหน่าย  กก.ละ 30  บาท

เกรดซี  จำหน่าย กก.ละ  8  บาท

Read More

หลักการและวิธีในการตัดหน่ออ่อนของหน่อไม้ฝรั่ง

วิธีการตัดหน่ออ่อนทำดังนี้

การตัดหน่อขาว ถ้าต้องการตัดเป็นหน่อขาว  ส่งโรงงานอุตสาหกรรม  ก็เลือกหน่อที่โผล่พ้นดินขึ้นมายาวประมาณเซนติเมตร คุ้ยดินรอบๆหน่อออก แล้วใช้มีดคม ๆ ตัดตรงโคนหน่อ  ระวังอย่าให้กระทบกระเทือนถึงหน่ออื่นที่กำลังแทงขึ้นมา  หลังจากตัดหน่อแล้วต้องพูนดินกลบโคนไว้ให้เรียบร้อยตามเดิม

สำหรับหน่อไม้ฝรั่งชนิดขาวที่ผู้รับซื้อนำไปบรรจุกระป๋อง  จะให้ราคาตามขนาดหรือเกรดของหน่อ  ขนาดของหน่อไม้ฝรั่งบรรจุกระป๋อง สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรมได้ประกาศการแบ่งขนาดไว้แล้ว  โดยแบ่งขนาดตามเส้นผ่าศูนย์กลางของหน่อ  หมายถึง ความกว้างที่วัดได้จากส่วนที่โตที่สุดของหน่อ  วัดให้ตั้งฉากกับความยาวของหน่อไม้ฝรั่ง

การเก็บหน่อเขียว หน่อเขียวเป็นหน่อชนิดที่ใช้บริโภคสด  ถ้าเก็บหน่อเขียวต้องปล่อยให้หน่ออ่อนแทงหน่อพ้นดินขึ้นมาเสียก่อน  หน่อจะมีสีเขียว  เพราะถูกแสงแดดจนกระทั่งมีความสูงประมาณ 20-24 เซนติเมตรจากระดับดิน  ก็ทำการเก็บคุ้ยดินโคนหน่อออก ให้มีดคม ๆ ตัดชิดโคน  ระวังอย่าให้กระทบกระเทือนหน่อที่กำลังแทงขึ้นมา  ตัดแล้วพูนดินกลบโคนให้เรียบร้อย  สำหรับหน่อเขียวที่มีขนาดเล็กกว่า 0.5 มิลลิเมตร  พ่อค้าจะไม่รับซื้อ  ควรตัดออกไว้รับประทานเอง

หน่ออ่อนที่ตัดได้ในปีแรกส่วนใหญ่จะเป็นขนาดเล็ก  ในปีถัดไปจึงจะให้หน่อที่มีขนาดโตขึ้น  … Read More

เกษตรกรควรเลือกเก็บเกี่ยวหน่อไม้ฝรั่งชนิดใดบ้าง

  • การเก็บเกี่ยว หลังจากย้ายกล้าไปปลูก  ในแปลงปลูกประมาณ 7-10 เดือน  ถ้าต้นสมบูรณ์ดีก็เริ่มเก็บหน่อได้  ซึ่งการเก็บหน่อทำได้ 2 วิธี คือ

–           การเก็บหน่อขาว

–           การเก็บหน่อเขียว

เกษตรกรจะเลือกเก็บหน่อชนิดไหน ย่อมสุดแล้วแต่การตัดสินใจของผู้ปลูกเอง  ว่าจะเก็บขายเป็นหน่อขาวหรือหน่อเขียว หน่อขาวนั้น พ่อค้าผู้รับซื้อจะนำไปบรรจุกระป๋อง  ถ้าเป็นหน่อเขียวก็เป็นหน่อชนิดที่พ่อค้าจำหน่ายแก่ผู้นำไปบริโภคสด  ราคาก็แตกต่างกัน  แต่โดยปกติราคาหน่อขาวจะแพงกว่าหน่อเขียวเล็กน้อย  เพราะการเก็บหน่อชนิดขาวต้องใช้แรงงานเพิ่มขึ้น  ในเรื่องการพูนดินกลบโคนและการขุดหน่อ

ก่อนจะเริ่มเก็บหน่ออ่อนประมาณ 1 สัปดาห์ ต้องตัดหรือถอนต้นหน่อไม้ฝรั่งที่แก่ทิ้งเสียบ้าง  ถ้าใช้วิธีตัดต้นต้องตัดให้ชิดดิน  เหลือต้นที่สมบูรณ์ไว้เลี้ยงกอประมาณ 3-4 ต้นเท่านั้น และใส่ปุ๋ยคอกร่วมกับปุ๋ยเคมีตามวิธีการใส่ปุ๋ยดังกล่าวแล้วข้างต้น  ทั้งนี้เพื่อให้ต้นหน่อไม้ฝรั่งได้รับอาหารสมบูรณ์เต็มที่ แล้วพูนดินกลบโคนในปีแรกของการเก็บหน่อควรพูนดินสูงประมาณ 10-12 เซนติเมตร ไม่ควรสูงเกิน 15 เซนติเมตร  … Read More