Month: February 2012

ส้มโชกุน:เคล็ดไม่ลับในการพิชิตส้มโชกุน

ปัญหาของการปลูกและผลิตส้มโชกุน

1.  ปัญหาผลแตกร่วงเสียหายมาก

2.  ปัญหาต้นทรุดโทรมเร็วอายุสั้น

จากปัญหาหลัก ๆ 2 ประการ วิธีการแก้ไขเพื่อพิชิตการปลูกส้มพันธุ์นี้

1.  เลือกแหล่งปลูกที่มีลักษณะดินร่วนปนทราย ระบายน้ำดี ดินมีอินทรียวัตถุสูงพอสมควร และที่บริเวณนั้นต้องไม่ใช่ที่ลุ่มน้ำขัง

2.  แหล่งปลูกต้องมีน้ำอย่างอุดมสมบูรณ์จริง ๆ เพราะในระยะที่ผลส้มกำลังเจริญเติบโตต้องมีการให้น้ำอย่างเพียงพอจริง ๆ

3.  ควรใช้พันธุ์จากแหล่งต้นพันธุ์ที่แข็งแรง  ไม่ปรากฎอาการของโรค  หากเป็นไปได้ควรใช้กิ่งพันธุ์ส้มที่ใช้ต้นตอพันธุ์ต้านทานโรครากเน่า โคนเน่า และผลิตด้วยวิธีปลอดโรค หรือส้มปลอดโรคจะดีที่สุด

4.  ต้องจัดการควบคุมแมลงศัตรูพืชอย่างถูกวิธี เพื่อไม่ให้แมลงพาหะนำเชื้อโรคจากภายนอกเข้ามาระบาดภายในสวน

5.  ต้องให้ปุ๋ยเคมี  อินทรียวัตถุและอาหารเสริมทางใบอย่างเพียงพอและสม่ำเสมอ  โดยเฉพาะวิธีการให้ปุ๋ยไปพร้อมน้ำ (Fertigation) จะเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพสูงในการให้ส้มโชกุนของท่านได้รับปุ๋ยและธาตุอาหารอื่น ๆ อย่างเพียงพอ

ส้มชนิดนี้ (หรือจะเรียกได้ว่าส้มโดยทั่วไป) … Read More

ไรลำไย:ศัตรูตัวเล็กที่ควรระวัง

มานิตา  คงชื่นสิน

ถ้าไรทำลายในขณะที่ลำไยกำลังแทงช่อดอก จะพบว่าช่อดอกลำไยแตกเป็นพุ่มแจ้  ดอกจะติดกันเป็นกระจุก มีขนขึ้นปกคลุม ดอกอาจจะบานได้ แต่ก็จะหลุดร่วง ไม่ติดผล

ความสำคัญและลักษณะการทำลาย

ไรลำไยมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Aceria sp. ซึ่งเป็นไรสี่ขา จัดอยู่ในวงศ์ Eriophyidae ดูดกินน้ำเลี้ยงบนใบอ่อนของลำไย ใบอ่อนที่ถูกดูดกินจะสร้างเส้นขนสีเขียวอ่อน ใบจะบิดม้วนงอ ถ้าการทำลายรุนแรง ใบจะลีบเรียว ไม่เจริญเติบโต และแห้งหลุดร่วงไปในเวลาต่อมา อีกลักษณะหนึ่งที่คาดว่าจะเป็นการทำลายของไร Aceria sp. ก็คือ อาการที่ลำไยแตกยอดอ่อนอย่างผิดปกติคือ ในตายอดเพียงตาเดียว จะแตกเป็นยอดอ่อนมากมายประมาณ 10-20 ยอด แต่ละยอดจะสั้นประมาณ 4-6 นิ้ว ทำให้มีลักษณะคล้ายพุ่มไม้กวาด ใบอ่อนของยอดแต่ละยอดจะหงิกงอ มีขนอ่อนปกคลุม กิ่งไม่ยืดยาว ในที่สุดก็จะแห้งและหลุดร่วง … Read More

ไร:ไรศัตรูสำคัญของไม้ผล

เทวินทร์  กุลปิยะวัฒน์, มานิตา  คงชื่นสิน, ฉัตรชัย  ศฤงฆไพบูลย์, วัฒนา  จารณศรี (กองกีฏและสัตววิทยา)

ไรพริกขาว

ความสำคัญและลักษณะการทำลาย

ไรขาวชนิดนี้อวัยวะส่วนปากไม่แข็งแรง  จึงไม่สามารถดูดกินน้ำเลี้ยงจากส่วนต่างๆ ของพืชที่มีลักษณะหนาแข็งได้ มักจะดูดกินยอดและใบอ่อนของพืชที่เพิ่งแตกใหม่  ขณะนี้พบว่าไรขาวพริกลงทำลายส้มโอในหลายแหล่งปลูก  โดยที่ทั้งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยดูดกินน้ำเลี้ยงใบอ่อนและผลอ่อนเท่านั้น ส่วนมากมันจะดูดกินน้ำเลี้ยงอยู่ด้านใต้ใบ  หากการทำลายรุนแรงทำให้ขอบใบส้มโอม้วนลง ใบเรียวเล็ก ใบมีสีเหลืองเข้ม ทำให้ชะงักการเจริญเติบโต ส่วนการทำลายที่ผลนั้นเริ่มตั้งแต่ส้มโอติดผลเรียบร้อยแล้วจนกระทั่งผลมีอายุประมาณ 2 เดือน มันจะดูดกินน้ำเลี้ยงที่ผล หากการทำลายรุนแรงทำให้ผลได้รับความเสียหายทั้งผล โดยอาการที่เกิดขึ้นหลังการดูดกินนั้น  ผิวเปลือกเป็นแผลสีเทา เมื่อส่องดูด้วยแว่นขยายขนาด 10 เท่าจะพบเป็นร่างแหเต็มไปหมดทั้งผล  ทำให้ต้องปลิดทิ้ง เพราะว่าไม่สามารถเจริญเติบโตได้ ส่วนผลที่ถูกดูดกินเป็นบางส่วนสามารถเจริญเติบโตได้  แต่ผลส้มโอจะมีน้ำหนักเบา เปลือกหนา เนื้อน้อยมากต้องปลิดทิ้ง

ชีวประวัติและอุปนิสัย

ไรขาวพริกมีชื่อสามัญภาษาอังกฤษว่า … Read More

หญ้าแฝก:ปลูกแฝกในสวนพุทราพลิกฟื้นผืนดินทรายให้ชุ่มชื้น

สภาพดินทรายที่ไม่อุ้มน้ำ น้ำระเหยและซึมลงดินในระยะเวลาอันรวดเร็ว  อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ลาดเทเกิดการชะล้างพังทลายของหน้าดินทำให้ดินขาดความอุดมสมบูรณ์ ในพื้นที่ ต.ม่วงหวาน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ส่งผลให้เกษตรกรส่วนใหญ่ต้องเลือกที่จะปลูกอ้อยและมันสำปะหลังเท่านั้น  เนื่องจากสภาพดินไม่เหมาะสมที่จะปลูกพืชชนิดอื่น  ซึ่งนับวันผลผลิตอ้อยและมันสำปะหลังก็ตกต่ำลงเรื่อย ๆ เป็นปัญหาให้กับเกษตรกรในพื้นที่

นายวิกุล  กงสะเด็น  หมอดินอาสาประจำหมู่บ้าน เป็นเกษตรกรผู้หนึ่งที่ประสบปัญหาดังกล่าว  จึงตั้งใจเปลี่ยนจากการปลูกอ้อยและมันสำปะหลัง มาทำการเพาะปลูกไม้ผล ซึ่งน่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า โดยอาศัยประสบการณ์ที่เคยไปรับจ้างอยู่ในสวนที่ จ.นครปฐม ปลูกไม้ผล เช่น พุทรา ฝรั่ง ชมพู่

หมอดินวิกุล เล่าว่า ตนได้นำความรู้และประสบการณ์เมื่อครั้งไปรับจ้างทำสวนไม้ผลอยู่ 9 ปี มาลองปลูกในพื้นที่ของตนเอง แต่ก็ไม่ได้ผลเท่าที่ควร ไม้ผลไม่เจริญเติบโต แคระแกร็น  เพราะปัญหาในเรื่องของสภาพดิน ทำให้ต้องขวนขวายหาความรู้ด้านการปรับปรุงดินจากแหล่งต่างๆ โดยเฉพาะได้รับความรู้จากสถานีพัฒนาที่ดินขอนแก่นในเรื่องการปลูกหญ้าแฝกช่วยรักษาให้ดินชุ่มชื้นได้ตลอดปี  และได้รับการสนับสนุนกล้าหญ้าแฝกมาด้วย ตนจึงเริ่มลงมือปลูกหญ้าแฝกมาตั้งแต่ปี … Read More

การปลูกไม้ผลเป็นไม้ประดับ

การนำไม้ผลมาปลูกลงกระถางเป็นไม้ประดับ  คงจะมีหลายท่านได้กำลังทำอยู่และประสบความสำเร็จไปแล้วไม่น้อย ไม้ผลนอกจากจะปลูกเพื่อขายผลแล้วยังสามารถนำมาปลูกเป็นไม้ประดับในบริเวณบ้านซึ่งมีเนื้อที่ไม่มากนักได้  โดยปลูกลงโอ่งมังกรและคอยตัดแต่งกิ่งอยู่เสมอเพื่อควบคุมทรงพุ่ม ไม้ผลบางชนิดเมื่อนำมาทำเป็นไม้กระถางแล้วจะมีราคาแพงขึ้นมาก เพราะใช้ประดับได้ทั้งดอกและผล และต้นไม้ที่มีขนาดเล็กแล้วติดผลก็ดูน่าตื่นเต้นไม่น้อยในตลาดอีกทั้งสะดวกในการขนย้ายเพื่อเปลี่ยนที่ตั้งกระถางด้วย  จึงนับว่าน่าสนใจไม่น้อยสำหรับนักจัดสวนบ้านเรา แต่ไม้ผลขนาดเล็กเพื่อใช้เป็นไม้ประดับกระถางก็คงมีไม่มากชนิดนัก  คราวนี้มาดูว้าจะผลิตอย่างไร

1.  เลือกชนิดไม้ผลที่จะนำมาปลูกลงโอ่งมังกร  ต้องเลือกไม้ผลที่มีต้นขนาดเล็กเช่น มะเฟือง มะปราง มะยงชิด ส้มทุกชนิด และชมพู่ขนาดเล็กคือ ชมพู่พลาสติก ชมพู่เพชรน้ำผึ้ง ทับทิม มะม่วงพันธุ์บุญบันดาล ต้นมหัศจรรย์ (Miracle tree) เป็นต้น

2.  จะต้องผลิตเป็นปริมาณมากพอสำหรับความต้องการของตลาด

3.  จัดวางแยกชนิดไว้เป็นกลุ่ม ๆ ให้ลูกค้าสามารถเลือกชนิดได้สะดวก

4.  ต้องโฆษณาให้เป็นที่รู้จักว่าเราเป็นแหล่งผลิต

บริเวณที่จะนำไม้ผลกระถางไปใช้งาน

ควรเป็นบริเวณที่มีแสงสว่างอย่างเพียงพอ  ถ้าเป็นบริเวณบ้านก็ควรให้ได้รับแสงตลอดทั้งวัน  อาจจะเป็นบริเวณระเบียงหน้าบ้านหรือมุมนอกบ้านที่เป็นเหลี่ยม  สามารถนำไม้ผลกระถางไปวางเพื่อลดความแข็งกระด้างของมุมลงได้  หรือใช้ไม้ผลกระถางที่ติดผลเป็นไม้ประดับในอาคารในการจัดเพื่อเปิดตัวสินค้าหรือนิทรรศการต่าง

Read More

ไรแดง:เทคนิคป้องกันกำจัดไรแดงมะม่วง

1.  วางแผนการปลูกให้เหมาะสม  โดยกำหนดระบบปลูกระหว่างต้นและระหว่างแถวให้ห่างกันพอสมควร  เพื่อไม่ให้มะม่วงมีทรงพุ่มที่ชิดเกินไป และเป็นการป้องกันการเคลื่อนย้ายของไรแดง โดยการเดินไปตามใบ

2.  เลือกกิ่งพันธุ์ที่ปราศจากไรแดงชนิดนี้อาศัยอยู่  ถ้าไม่แน่ใจควรนำกิ่งพันธุ์นั้นมาพ่นสารกำจัดไร กำจัดไข่ ตัวอ่อน และตัวเต็มวัยให้หมดนำไปปลูก

3.  ไม่ควรปลูกพืชแซมที่เป็นพืชอาศัยของไรแดงมะม่วง  ถ้าไรแดงระบาดบนมะม่วงจะต้องพ่นสารเคมีให้กับพืชอาศัยที่ปลูกเป็นพืชแซมด้วย

4.  ระยะใบเพสลาดเป็นระยะที่ไรดูดกินน้ำเลี้ยงเจริญเติบโตได้ดีต้องระมัดระวังใบมะม่วงช่วงนี้

5.  ควรพิจารณาพันธุ์ที่ปลูก เพราะมะม่วงบางพันธุ์มีสารที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของไรแดง ดังเช่น พันธุ์สามฤดู

6.  เกษตรกรไม่ควรใช้สารกำจัดไรในช่วงฝนชุก ยกเว้นฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานานเท่านั้น

7.  ควรใช้สารกำจัดไร เมื่อมีไรเกิดการระบาดขึ้น โดยใช้สารที่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งต้องรู้อุปนิสัยของไรแดง  ซึ่งมักมาอาศัยอยู่บริเวณด้านหน้าใบ ดังนั้นการพ่นสารกำจัดไรควรจะพ่นข้ามร่อง เพื่อให้ละอองสารตกลงบนหน้าใบโดยตรงถูกตัวไร และควรพ่นสารกำจัดไรเฉพาะบริเวณที่มีไรระบาดจำนวน 2 ครั้ง ห่างกัน 4 วัน

8.  … Read More

กระท้อน:การเพิ่มปริมาณและปรับปรุงคุณภาพผลผลิตกระท้อน

1.  การจัดการปุ๋ยและน้ำ

เมื่อกระท้อนติดผลไว้ 3-4 สัปดาห์  หรือเมื่อผลมีขนาดเท่าผลส้มเขียวหวาน ชาวสวนอาจเลือกใช้ปุ๋ยสูตร 13-13-21 หรือสูตร 0-0-50 ในระหว่างการพัฒนาการของผล  เพื่อเพิ่มคุณภาพและรสชาติของผลผลิต แต่อย่างไรก็ตามการจัดการน้ำต้องเป็นไปอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง

2.  การตัดแต่งผล

ให้จำนวนผลมีความสมดุลย์กับความสามารถของอาหารสะสมภายในลำต้น  โดยเลือกตัดแต่งผลที่มีรูปทรงบิดเบี้ยว ผลที่อยู่ในตำแหน่งไม่เหมาะสม ผลที่มีขนาดเล็ก หรือผลที่มีตำหนิจากโรคและแมลง ส่วนจำนวนที่เหลือบนต้นจะเป็นเท่าไรนั้น ขึ้นอยู่กับขนาดของทรงพุ่ม และความสมบูรณ์ของต้น

3.  การค้ำโยงกิ่ง

เพื่อป้องกันการฉีกขาดของกิ่ง เนื่องจากจำนวนผลบนกิ่ง โดยใช้เชือกไนล่อน หรือเชือกฟางผูกยึดกิ่งไว้กับลำต้น หรืออาจใช้ไม้ไผ่ยันรองรับน้ำหนักของกิ่งไว้

4.  การห่อผล

ช่วยป้องกันแมลงลดจำนวนการพ่นสารกำจัดแมลง  รวมทั้งช่วยทำให้ผิวผลเรียบ สีสวย จึงควรเริ่มห่อผลตั้งแต่ผลมีอายุ 3-4 สัปดาห์  หลังดอกบานจนถึงอายุ 10 … Read More

สับปะรดบ้าใบและจุก

กรมส่งเสริมการเกษตร

เกิดจากการแบ่งเซลล์อย่างรวดเร็วผิดปกติของต้น  หรือช่อดอกในระยะของการเจริญเติบโต มักเกิดเฉพาะส่วนบนของลำต้น ก้านผล ผล และจุก ซึ่งอาจทำให้เกิดเป็นสับปะรด 2 จุก  อาจเกิดเป็นสับปะรดที่มีทั้งจุกและผลย่อยมากมายหลายจุก และมีน้ำหนักหลายเท่าของผลปกติก้ได้ ในสับปะรดพันธุ์ขาวมักพบอาการบ้าจุกเสมอ

สับปะรดที่ปลูกในดินที่เปิดใหม่  ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์สูงจะพบโรคนี้เกิดขึ้นเสมอ และอัตราการเกิดจะสูงกว่าสับปะรด ซึ่งปลูกในดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ  ในบางกรณีการได้รับน้ำและปุ๋ยอย่างกะทันหัน ก็อาจเป็นสาเหตุให้เกิดอาการเช่นนี้ได้

 

Read More

อาหารบำรุงสุขภาพที่มาจากแหล่งกำเนิดธรรมชาติ

ปัจจุบันนี้ ประชาชนทั่วไปได้ให้ความสนใจในเรื่องเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ธรรมชาติซึ่งใช้เป็นอาหาร  รวมทั้งอาหารวิทยาศาสตร์ที่ได้จากพืชสำหรับบำรุงร่างกายและมีคุณสมบัติเป็นยาไปด้วยในตัว  จึงเกิดการโฆษณาและชักชวนให้ประชาชนเชื่อถือโดยนิยมใช้คำว่า “จากธรรมชาติ” (natural), สารอินทรีย์ (organic), ปราศจากสารเคมี (chemical) หรือสารกันบูด การโฆษณาชวนเชื่อในรูปแบบนี้  ผู้บริโภคจะต้องวิเคราะห์ว่า มีคุณภาพจริงสมตามที่อวดอ้างไว้เพียงใด และความหมายที่แท้จริงของ “ธรรมชาติหรือสารอินทรีย์” นั้นครอบคลุมเพียงใด

ตามหลักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าสสารทุกอย่างบนโลกนี้ล้วนแล้วแต่เป็นสารเคมี (chemical) การโฆษณาที่กล่าวอ้างว่าสารจากธรรมชาติเท่านั้นมีคุณภาพดี  อาจทำให้ความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าสารเคมีอื่น ๆ ไม่ดีหรือไม่เหมาะสมต่อการใช้ทำยาหรืออาหาร ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า สารเคมีสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดใหญ่ ๆ คือ สารอนินทรีย์กับสารอินทรีย์ สารอนินทรีย์เป็นสารประกอบที่เป็นองค์ประกอบของแร่ คือเป็นสารที่สกัดได้จากสินแร่หรือแร่ส่วนใหญ่ไม่มีคาร์บอนเป็นองค์ประกอบ  ซึ่งมีความสามารถในการติดไฟ จุดหลอมเหลว ความสามารถในการละลาย และธาตุที่เป็นองค์ประกอบที่แตกต่างกับสารอินทรีย์  ส่วนสารอินทรีย์เป็นสารประกอบของธาตุคาร์บอนคือ สารอินทรีย์ทุกชนิดจะต้องมีธาตุคาร์บอนเป็นองค์ประกอบอยู่ด้วยเสมอ ยกเว้นออกไซด์ของคาร์บอน ได้แก … Read More

กระเจียว:พืชที่นิยมทำเป็นไม้กระถางไม้ตัดดอกและไม้ประดับแปลง

เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในเขตประเทศอินโดจีน เช่น พม่า เขมร ลาว เวียดนาม และไทย สำหรับในประเทศไทยนั้น  สามารถพบเห็นกระเจียวได้ในป่าชื้นธรรมชาติเกือบทุกภาค แต่แหล่งที่พบมากคือ ภาคอีสานและภาคเหนือ ประโยชน์ของกระเจียวใช้เป็นพืชสมุนไพรและเป็นไม้ดอกไม้ประดับ  แต่เนื่องจากกระเจียวมีความหลากหลายในลักษณะและสีสันของดอกจึงทำให้กระเจียวบางชนิดกลายเป็นพืชที่นิยมทำเป็นไม้กระถาง ไม้ตัดดอก และไม้ประดับแปลงของตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ  ปริมาณการส่งออกของหัวพันธุ์กระเจียวเพิ่มขึ้นจากประมาณ 2 แสนหัวในปี 2536 เป็นประมาณ 2 ล้านหัวในปี 2537 และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นทุกปี

กระเจียวที่มีการส่งหัวพันธุ์ไปต่างประเทศมากที่สุดคือ ปทุมมา รองลงมาคือ บัวลาย กระเจียวสีส้ม และกระเจียวดอกขาว ตลาดต่างประเทศที่สำคัญคือ ญี่ปุ่น จากการศึกษาครั้งนี้สามารถสรุปได้ดังนี้

1.  สามารถรวบรวมพันธุ์กระเจียวได้จำนวน 12 ชนิดได้แก่ กระเจียวเชียงราย กระเจียวดอกขาว กระเจียวใต้ดอกยาว … Read More